พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ในคดีทรัพย์สิน: ผู้กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์มีหน้าที่พิสูจน์ก่อน
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยืมเสาไป จำเลยปฏิเสธว่ามิได้ยืมแม้จะอ้างว่าซื้อไป ก็เป็นการโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ตนเป็นผู้ครอบครองอยู่จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การพิสูจน์กรรมสิทธิ์: ผู้กล่าวอ้างการซื้อทรัพย์ต้องพิสูจน์ก่อนหากถูกฟ้องเรื่องยืม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยืมเสาไป จำเลยปฏิเสธว่ามิได้ยืมแม้จะอ้างว่าซื้อไป ก็เป็นการโต้เถียงกรรมสิทธิในทรัพย์ที่ตนเป็นผู้ครอบครองอยู่ จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะสืบก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันเกินสมควร: การแทงเพื่อป้องกันภรรยาจากการทำร้าย
ผู้ตายกับภรรยาทะเลาะกันแล้วภรรยาผู้ตายหนีไปอยู่ในห้องของ อ. ผู้ตายตามเข้าไปโดยมีมีดปลายแหลม 1 เล่ม กับสนับมือ 1 อันเป็นอาวุธ จำเลยเป็นพี่ของภรรยาผู้ตายและอยู่ในห้องของ อ.ด้วย ขณะที่ผู้ตายแหวกม่านจะเข้าไปถึงตัวภรรยาของตน จำเลยก็แทงผู้ตายโดยเข้าใจว่าจะเข้าไปทำร้ายภรรยา ดังนี้ เป็นการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินกว่าเหตุ: ผู้ต้องหาเข้าใจผิดว่าผู้ตายจะทำร้ายภรรยา จึงแทงผู้ตาย ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
ผู้ตายกับภรรยาทะเลาะกัน แล้วภรรยาผู้ตายหนีไปอยู่ในห้องของอ. ผู้ตายตามเข้าไปโดยมีมีดปลายแหลม 1 เล่ม กับสนับมือ 1 อัน เป็นอาวุธจำเลยเป็นพี่ของภรรยาผู้ตายและอยู่ในห้องของ อ.ด้วยขณะที่ผู้ตายแหวกม่านจะเข้าไปถึงตัวภรรยาของตน จำเลยก็แทงผู้ตายโดยเข้าใจว่าจะเข้าไปทำร้ายภรรยา ดังนี้ เป็นการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การเรียกร้องค่าเสียหายซ้ำซ้อนหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทำทำนบให้ดีตามสภาพเดิม หรือให้ใช้ราคาแล้ว โจทก์ควรจะฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานขาดประโยชน์เพราะน้ำไม่เข้านา ทำนาไม่ได้ หรือได้ผลน้อยเสียในคดีเรื่องนั้น เมื่อโจทก์แยกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การเรียกร้องค่าเสียหายที่ควรฟ้องรวมกันในคดีเดิม
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทำทำนบให้ดีตามสภาพเดิม หรือให้ใช้ราคาแล้ว โจทก์ควรจะฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานขาดประโยชน์เพราะน้ำไม่เข้านา ทำนาไม่ได้ หรือได้ผลน้อยเสียในคดีเรื่องนั้น เมื่อโจทก์แยกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นอีกสำนวนหนึ่งดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพื่อแสดงความหมายของเอกสาร และขอบเขตของคำว่า 'บ้านเรือน' ในที่ดิน
จำเลยจะขอสืบพยานถึงคำ 'บ้านเรือนของนางสนิทไม่เกี่ยวข้องในที่ดินรายนี้' ว่ารวมถึงที่ดินที่ปลูกอยู่ด้วยนั้นเป็นการสืบแสดงความหมายของข้อความแห่งเอกสารว่า ข้อความนั้นหมายถึงที่ดินด้วย ซึ่งเป็นการสืบแสดงว่าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตีความหมายผิด ดังข้อความวรรคท้ายของมาตรา 94 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จำเลยมีสิทธินำสืบได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรานี้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2494)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาจะซื้อขาย: การสืบพยานเพื่อแสดงความหมายของข้อความในสัญญา
จำเลยจะขอสืบพะยานถึงคำ "บ้านเรือนของนางสนิทไม่เกี่ยวข้องในที่ดินรายนี้" ว่ารวมถึงที่ดินที่ปลูกอยู่ด้วยนั้น เป็นการสืบแสดงความหมายของข้อความแห่งเอกสารว่า ข้อความนั้นหมายถึงที่ดินด้วย ซึ่งเป็นการสืบแสดงว่าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตีความหมายผิด ดังข้อความวรรคท้ายของมาตรา 94 ป.ม.วิ.แพ่ง จำเลยมีสิทธินำสืบได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรานี้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2492
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุก: การมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์โดยปกติสุขเป็นสาระสำคัญ มิใช่การเข้าถือครอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันมีหลาวและมีดตอกเป็นอาวุธ บุกรุกเข้าไปในเขตต์ที่นาของนายวิง โดยมีเจตนาจะมิให้นายวิงครอบครองที่นาได้โดยปกติสุข โดยจำเลยมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ย่อมครบองค์ความผิดฐานบุกรุกแล้ว เพราะความผิดฐานบุกรุกอันเป็นมูลฐานอยู่ที่เจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ ของเขา อันพึงเคลื่อนจากที่มิได้โดยความปกติสุข มิได้อยู่ที่เข้าถือเอาทรัพย์ หรือเพื่อจะถือเอาทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุก: การขัดขวางการครอบครองทรัพย์สินโดยปกติสุข
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันมีหลาวและมีดตอกเป็นอาวุธ บุกรุกเข้าไปในเขตที่นาของนายวิงโดยมีเจตนาจะมิให้นายวิงครอบครองที่นาได้โดยปกติสุขโดยจำเลยมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายดังนี้ ฟ้องของโจทก์ย่อมครบองค์ความผิดฐานบุกรุกแล้วเพราะความผิดฐานบุกรุกเจตนาอันเป็นมูลฐานอยู่ที่เจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ของเขา อันพึงเคลื่อนจากที่มิได้โดยความปกติสุข มิได้อยู่ที่เข้าถือเอาทรัพย์ หรือเพื่อจะถือเอาทรัพย์