คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าพื้นที่ค้าและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อมีการบอกเลิกสัญญาก่อนบังคับใช้กฎหมาย
ได้เช่ากันมาก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้บอกเลิกการเช่าในระหว่างที่ใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2488 เมื่อการเช่าเคหะนั้นใช้ประกอบธุรกิจการค้าเป็นส่วนใหญ่ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ 2488 ไม่คุ้มครองถึง
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ 2489, 2490 ประกาศใช้ภายหลังเวลาที่ได้มีการบอกเลิกการเช่ากันโดยชอบแล้ว การที่ผู้เช่าอยู่ต่อมาเป็นการอยู่โดยละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ 2 ฉบับหลัง หาคุ้มครองผู้อยู่โดยละเมิดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ความรับผิดเมื่อสั่งไม่ฟ้องและลดจำนวนเงินประกันตามกฎหมาย
สัญญาประกันมีความว่า จำเลยได้รับประกันผู้ต้องหาไปจากความควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจ และสัญญาว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาได้ตามกำหนดนัดของเจ้าพนักงาน เมื่อจำเลยไม่ส่งตัวผู้ต้องหาตามกำหนด จำเลยก็ยอมไม่พ้นความรับผิดตามสัญญา การที่อธิบดีกรมตำรวจสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาก่อนถึงกำหนดส่งตัวนั้น ไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นความรับผิด หรือไม่ต้องส่งผู้ต้องหา
ความใน ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 113 หมายความว่าให้อำนาจพนักงานสอบสวนเรียกประกันผู้ต้องหาได้ฉะเพาะ เมื่อคดีอยู่ระหว่างสอบสวนเท่านั้น แต่เมื่อได้สั่งปล่อยผู้ต้องหาหรือได้ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้ว จะเรียกประกันมิได้ มิใช่หมายความว่าเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องแล้ว สัญญาประกันที่ทำไว้เป็นอันเลิกหรือระงับไป
ในคดีผิดสัญญาประกันผู้ต้องหา เมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ศาลย่อมลดจำนวนเงินในสัญญาให้ได้ตามนัยะแห่ง ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 119

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ความรับผิดเมื่อไม่ส่งตัว แม้สั่งไม่ฟ้อง และการลดจำนวนเงินตามกฎหมาย
สัญญาประกันมีความว่าจำเลยได้รับประกันผู้ต้องหาไปจากความควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจ และสัญญาว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาได้ตามกำหนดนัดของเจ้าพนักงาน เมื่อจำเลยไม่ส่งตัวผู้ต้องหาตามกำหนดจำเลยก็ย่อมไม่พ้นความรับผิดตามสัญญา การที่อธิบดีกรมตำรวจสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาก่อนถึงกำหนดส่งตัวนั้น ไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นความรับผิด หรือไม่ต้องส่งผู้ต้องหา
ความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 113 หมายความว่า ให้อำนาจพนักงานสอบสวนเรียกประกันผู้ต้องหาได้เฉพาะเมื่อคดีอยู่ระหว่างสอบสวนเท่านั้น แต่เมื่อได้สั่งปล่อยผู้ต้องหาหรือได้ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้ว จะเรียกประกันมิได้ มิใช่หมายความว่าเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องแล้วสัญญาประกันที่ทำไว้เป็นอันเลิกหรือระงับไป
ในคดีผิดสัญญาประกันผู้ต้องหาเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ศาลย่อมลดจำนวนเงินในสัญญาให้ได้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย่งทรัพย์มรดก: ข้อจำกัดในการขอครอบครองมรดกโดยไม่เข้าสู่กระบวนการจัดการมรดกตามกฎหมาย
โจทก์เป็นภรรยาผู้ตาย ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบุตรขอให้ (1) ส่งทรัพย์สินของผู้ตายทั้งหมดให้โจทก์มีสิทธิยึดถือครอบครองแต่ผู้เดียว หรือว่า (2) ให้แบ่งปันทรัพย์ซึ่งโจทก์มีส่วนได้รับ 2206 บาท ดังนี้ศาลบังคับให้ตามฟ้องโจทก์ไม่ได้ เพราะคำขอข้อ 1 ไม่ใช่เรื่องขอเข้าจัดการมฤดกตามกฎหมาย เป็นการขอเข้าครอบครองเฉย ๆ ซึ่งจำเลยเป็นทายาทมีส่วนได้ในกองมฤดกอยู่ด้วย จึงทำไม่ได้ คำขอข้อ 2 โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องเป็นเรื่องขอแบ่งสมรสและแบ่งมฤดก จำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้ในเรื่องสินเดิมของผู้ตาย ไม่มีทางจะแบ่งให้ในคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอครอบครองทรัพย์สินและแบ่งมรดก: คำขอไม่ชัดเจนและจำเลยมีสิทธิในกองมรดก
โจทก์เป็นภรรยาผู้ตาย ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบุตรขอให้ (1) ส่งทรัพย์สินของผู้ตายทั้งหมดให้โจทก์มีสิทธิยึดถือครอบครองแต่ผู้เดียว หรือว่า (2) ให้แบ่งปันทรัพย์ซึ่งโจทก์มีส่วนได้รับ 2,206 บาท ดังนี้ ศาลบังคับให้ตามฟ้องโจทก์ไม่ได้ เพราะคำขอข้อ 1 ไม่ใช่เรื่องขอเข้าจัดการมรดกตามกฎหมาย เป็นการขอเข้าครอบครองเฉยๆ ซึ่งจำเลยเป็นทายาทมีส่วนได้ในกองมรดกอยู่ด้วย จึงทำไม่ได้ คำขอข้อ 2 โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องเป็นเรื่องขอแบ่งสมรสและแบ่งมรดก จำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้ในเรื่องสินเดิมของผู้ตาย ไม่มีทางจะแบ่งให้ในคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินพิพาท: การแบ่งแยกสิทธิเมื่อเจ้าของร่วมขายสิทธิโดยไม่สุจริต และการพิพากษาเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งแปลง แต่เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียงบางส่วน ศาลย่อมพิพากษาแบ่งให้ได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยการยกให้ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยทางมฤดก ดังนี้ ไม่ถือว่าผิดคำฟ้อง
โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่นาแปลงเดียวกัน แล้วจำเลยที่ 1 เอาที่ทั้งแปลงไปขายให้แก่จำเลยที่ 2 โจทก์จะขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายทั้งหมดไม่ได้ เพราะจำเลยย่อมมีสิทธิขายส่วนของตนได้ แต่ไม่มีสิทธิขายส่วนของโจทก์ สัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยไม่ผูกพันโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนนัดพิจารณาคดี: ดุลพินิจศาลเมื่อมีการเจรจาประนีประนอม แม้ไม่ระบุพยาน
นัดพิจารณาครั้งแรก โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่ากำลังเจรจาหาทางปราณีประนอมยอมความกับจำเลย ศาลเลื่อนการพิจารณาไป ครั้นถึงวันนัด โจทก์แถลงว่าได้ทำความตกลงกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว คงเหลือแต่บางข้อ ยังไม่ได้เตรียมพยานมา ขอเลื่อนคดีไป ดังนี้ แม้โจทก์มิได้ระบุพยานเป็นการบกพร่องตาม ม.88 ป.ม.วิ.แพ่ง ก็ตาม แต่รูปคดีมีเหตุอันควรอนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 40.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนนัดพิจารณาคดีเนื่องจากเจรจาประนีประนอม แม้ไม่ได้ระบุพยาน ศาลอนุญาตได้ตามดุลยพินิจ
นัดพิจารณาครั้งแรกโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่ากำลังเจรจาหาทางประนีประนอมยอมความกับจำเลย ศาลเลื่อนการพิจารณาไป ครั้นถึงวันนัดโจทก์แถลงว่าได้ทำความตกลงกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว คงเหลือแต่บางข้อ ยังไม่ได้เตรียมพยานมา ขอเลื่อนคดีไป ดังนี้ แม้โจทก์มิได้ระบุพยานเป็นการบกพร่องตาม มาตรา 88 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็ตาม แต่รูปคดีมีเหตุอันควรอนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ใหญ่บ้านปล่อยตัวผู้ต้องหา: ไม่ผิดฐานช่วยเหลือผู้ต้องหาตาม ม.168 แต่ผิดฐานปล่อยตัวผู้ต้องหาตาม ม.165
ผู้ใหญ่บ้านได้รับฝากผู้ต้องหาเพียงชั่วขณะหนี่งแล้วปล่อยผู้ต้องหาไปนั้น หามีความผิดตามมาตรา 168 ไม่ คงมีผิดตามมาตรา 165

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ใหญ่บ้านปล่อยตัวผู้ต้องหา: ความผิดตามมาตรา 165 ไม่ใช่ 168
ผู้ใหญ่บ้านได้รับฝากผู้ต้องหาเพียงชั่วขณะหนึ่งแล้วปล่อยผู้ต้องหาไปนั้น หามีความผิดตามมาตรา 168 ไม่ คงมีผิดตามมาตรา 165.
of 219