พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายแยกจากจำนอง ย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้
จำเลยทำสัญญาจำนองที่พิพาทไว้กับโจทก์ แต่จำเลยไม่มีความสามารถจะไถ่ จึงทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้ สัญญาจะซื้อขายเป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่งต่างหากจากสัญญาจำนอง ไม่เกี่ยวกันย่อมสมบูรณ์ ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1007/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผิดสัญญาซื้อขายและสัญญาคืนที่ดิน การประกาศขายฝากถือเป็นการประพฤติผิดสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญากันไว้มีข้อความชัดเจนว่า จำเลยยอมคืนที่ดินและห้องเลขที่ 179 ให้แก่เด็กหญิงนงเยาว์ แล้วจำเลยกลับประกาศจะขายฝากทรัพย์รายนี้แก่ผู้อื่น และอ้างว่าจะยอมคืนให้ต่อเมื่อเด็กหญิงนงเยาว์บรรลุนิติภาวะนั้น ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาทำนา: สัญญาหุ้นส่วนหรือสัญญาเช่า? ศาลต้องสืบข้อเท็จจริงเพื่อพิพากษา
คู่ความโต้เถียงกันในข้อเท็จจริงโดยฝ่ายโจทก์ว่า โจทก์เอานาทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนกับจำเลย ๆ เป็นผู้ลงแรงและอุปกรณ์ในการทำนา จำเลยยอมรับคิดผลประโยชน์ให้แก่โจทก์ไร่ละ 7 ถัง จำเลยเถียงว่าจำเลยตั้งใจทำสัญญาเช่าค่าเช่าไร่ละ 5 ถัง ดังนี้เป็นเรื่องที่จะต้องสืบกันต่อไป
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเช่านารายนี้มาจากนายประสพ จำเลยต่อสู้ว่านายประสพได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์แล้ว ถ้าฟังได้อาจเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ได้เอานาให้จำเลยทำ ซึ่งจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ โจทก์จำเลยจึงต้องสืบพยานกันต่อไป
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเช่านารายนี้มาจากนายประสพ จำเลยต่อสู้ว่านายประสพได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์แล้ว ถ้าฟังได้อาจเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ได้เอานาให้จำเลยทำ ซึ่งจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ โจทก์จำเลยจึงต้องสืบพยานกันต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีราคาทรัพย์ในคดีมรดก ไม่ถือเป็นการจำกัดสิทธิเรียกร้องของผู้รับมรดก
ในเรื่องฟ้องขอส่วนแบ่งทรัพย์มฤดก โจทก์ประสงค์จะได้ตามส่วนแบ่งที่ตนควรได้ การที่ตีราคาเอาทรัพย์มาด้วย มิใช่เป็นข้อแสดงว่าโจทก์ต้องการขอแบ่งไม่เกินราคาที่คิดเป็นส่วนแบ่ง นอกจากคำขอท้ายฟ้องจะแสดงแจ้งชัดเป็นอย่างอื่น เพราะในการฟ้องความโจทก์จะต้องตีราคาทรัพย์เพื่อการเสียค่าธรรมเนียม
อ้างฎีกาที่ 660/2490
อ้างฎีกาที่ 660/2490
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์อำนาจของประกาศคณะกรมการจังหวัด: ประกาศไม่ใช่กฎหมายและต้องส่งเป็นพยานหลักฐาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายข้าวสารเหนียว โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะรมการจังหวัด แต่โจทก์ไม่ได้อ้างประกาศประกาศดังกล่าวเป็นพยาน ศาลก็ไม่ทราบว่า ประกาศที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องได้ออกโดยอาศัยอำนาจบทกฎหมายฉบับใด แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ยังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าก่อนมี พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และผิดนัดชำระค่าเช่า ไม่ได้รับการคุ้มครอง
ยกเลิกสัญญาเช่าเกิดขึ้นก่อนวันใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน และเป็นการผิดนัดไม่ส่งค่าเช่า ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องยักยอกทรัพย์: การสืบพยานหลักฐานขัดแย้งกับข้อกล่าวหาในฟ้อง
ในคดียักยอก โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2489 และต่อ ๆ มา จนถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2489 แต่โจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2489 ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่โจทก์สืบได้ย่อมต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 73 และการหักกลบลบโทษ รวมถึงขอบเขตการสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยต้องโทษมาแล้วหลายครั้ง ๆ สุดท้ายจำเลยได้หลบหนี้ไปในระหว่างต้องโทษ แล้วกลับมากระทำผิดในคดีนี้ภายหลังที่พ้นโทษครั้งที่ 4 ไปยังไม่เกิน 3 ปี ก็เพิ่มโทษตามมาตรา 73 ได้
เมื่อคดีต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 กึ่งหนึ่ง และลดฐานปราณีตามมาตรา 59 ลงกึ่งหนึ่ง โทษเพิ่มและลดมีกำหนดเสมอกัน ต้องหักกลบลบกันไปตามมาตรา 39
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้รับของโจรตามฟ้องไว้จริง แต่ไม่ได้ลักทรัพย์ตามโจทก์ฟ้อง การพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ จึงเกินคำรับของจำเลย
เมื่อคดีต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 กึ่งหนึ่ง และลดฐานปราณีตามมาตรา 59 ลงกึ่งหนึ่ง โทษเพิ่มและลดมีกำหนดเสมอกัน ต้องหักกลบลบกันไปตามมาตรา 39
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้รับของโจรตามฟ้องไว้จริง แต่ไม่ได้ลักทรัพย์ตามโจทก์ฟ้อง การพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ จึงเกินคำรับของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษอาญาซ้ำจากเคยหลบหนีระหว่างต้องโทษ และขอบเขตการบังคับใช้มาตรา 73, 59, 39
จำเลยต้องโทษมาแล้วหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายจำเลยได้หลบหนีไปในระหว่างต้องโทษ แล้วกลับมากระทำผิดในคดีนี้ภายหลังที่พ้นโทษครั้งที่ 4 ไปยังไม่เกิน 3 ปี ก็เพิ่มโทษตามมาตรา 73 ได้
เมื่อคดีต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 กึ่งหนึ่ง และลดฐานปราณีตามมาตรา 59 ลงกึ่งหนึ่ง โทษเพิ่มและลดมีกำหนดเสมอกัน ต้องหักกลบลบกันไปตาม มาตรา 39
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้รับของโจรตามฟ้องไว้จริง แต่ ไม่ได้ลักทรัพย์ตามโจทก์ฟ้อง การพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ จึงเกินคำรับของจำเลย
เมื่อคดีต้องเพิ่มโทษตามมาตรา 73 กึ่งหนึ่ง และลดฐานปราณีตามมาตรา 59 ลงกึ่งหนึ่ง โทษเพิ่มและลดมีกำหนดเสมอกัน ต้องหักกลบลบกันไปตาม มาตรา 39
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้รับของโจรตามฟ้องไว้จริง แต่ ไม่ได้ลักทรัพย์ตามโจทก์ฟ้อง การพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ จึงเกินคำรับของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกแทนที่ของญาติลำดับ 6 แม้ญาติลำดับเดียวกันจะได้รับมรดกไปแล้ว
ช.เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดากับ ล. ซึ่งเป็นมารดาของเจ้ามรดกป. เป็นพี่น้องร่วมบิดาแต่ต่างมารดากับ ล. ดังนี้ ช. และ ป. ย่อมเป็นน้าและอาของเจ้ามรดก ทั้ง ช. และ ป. ย่อมเป็นญาติลำดับ 6 ใน มาตรา1629 เช่นเดียวกัน
ญาติลำดับ 6 ใน มาตรา 1629 นี้ กฎหมายไม่ได้แยกญาติชิดและห่างดังในลำดับ 3 และ 4
ญาติลำดับ 6 ในมาตรา 1629 ย่อมรับมรดกแทนที่กันได้ตาม มาตรา 1639
ญาติลำดับ 6 ใน มาตรา 1629 นี้ กฎหมายไม่ได้แยกญาติชิดและห่างดังในลำดับ 3 และ 4
ญาติลำดับ 6 ในมาตรา 1629 ย่อมรับมรดกแทนที่กันได้ตาม มาตรา 1639