คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขต 'ท้องที่' ในประกาศห้ามขนย้ายสินค้า: การตีความตามอำนาจกฎหมายป้องกันการค้ากำไรเกินควร
คำว่า'ท้องที่' ใน มาตรา 8(6) หมายความถึงเขตท้องที่แห่งการปกครองอันได้แบ่งไว้แล้วอย่างแจ้งชัด เช่นจังหวัด, ตำบล, อำเภอ, หมู่บ้าน
เมื่อประกาศคณะกรรมการฯระบุห้ามการขนย้ายเพียงเขตอำเภอแม้จำเลยขนย้ายข้ามเขตตำบลแต่อยู่ในอำเภอเดียวกัน ก็ไม่เป็นผิดตามประกาศฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามทำร้ายร่างกาย: การไล่ฟันระยะประชิดแม้ไม่สำเร็จก็มีผิด
จำเลยใช้ดาบไล่ฟันเขาระยะห่างกัน 3 วาเขาหนีขึ้นเรือน มีผู้ห้ามจำเลยฟันไม่ได้เป็นผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายรถยนต์ โอนกรรมสิทธิ์ได้แม้ยังไม่โอนทะเบียน
การซื้อขายรถยนต์ แม้ยังไม่โอนทะเบียนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ก็โอนไปยังผู้ซื้อได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากเหตุหมิ่นประมาทและไม่ช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดู
การที่จำเลยซึ่งเป็นสามีขับไล่และกล่าวประจานโจทก์(ภริยา)ว่า'พวกมึงเป็นเหล่าลักขโมยเขา เลี้ยงไม่ได้' และใช้คำหยาบล่วงเกินต่อบิดาโจทก์ว่า'มึงเอาลูกของมึงไปเลี้ยงเถิด กูเลี้ยงไม่ได้ เลี้ยงไว้ก็เสียสกุลบ้าน เป็นเสนียดจัญไร' เช่นนี้ เป็นการหมิ่นประมาทต่อโจทก์และต่อบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรงตาม ม.1500(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากเหตุหมิ่นประมาทและละทิ้งการอุปการะเลี้ยงดู
การที่จำเลยซึ่งเป็นสามีขับไล่และกล่าวประจานโจทก์(ภริยา) ว่า "พวกมึงเป็นเหล่าลักขโมยเขา เลี้ยงไม่ได้" และใช้คำหยาบล่วงเกินต่อบิดาโจทก์ว่า "มึงเอาลูกของมึงไปเลี้ยงเถิด กูเลี้ยงไม่ได้ เลี้ยงไปก็เสียสกุลบ้าน เป็นเสนียดจัญไร" เช่นนี้ เป็นการหมิ่นประมาทต่อโจทก์และต่อบุพพการีของโจทก์อย่างร้ายแรงตาม ม.1500(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลภายนอกทำหนังสือปลอมสั่งซื้อของในนามห้างหุ้นส่วน ห้างหุ้นส่วนไม่ต้องรับผิด
บุคคลภายนอกผู้ไม่มีหน้าที่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดทำหนังสือปลอมในนามของห้างหุ้นส่วนนั้นสั่งซื้อของจากโจทก์
แล้วบุคคลนั้นนำหนังสือปลอมไปเอาของจากโจทก์มาเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียดังนี้ บุคคลนั้นมิใช่ตัวแทนของห้างหุ้นส่วนและมิใช่ว่าห้างหุ้นส่วนเชิดเป็นตัวแทนห้างหุ้นส่วนจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลภายนอกทำหนังสือปลอมสั่งซื้อสินค้า ห้างหุ้นส่วนไม่ต้องรับผิดหากไม่ได้เชิดให้เป็นตัวแทน
บุคคลภายนอกผู้ไม่มีหน้าที่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดทำหนังสือปลอมในนามของห้างหุ้นส่วนนั้นสั่งซื้อของจากโจทก์ แล้วบุคคลนั้นนำหนังสือปลอมไปเอาของจากโจทก์มาเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดั่งนี้ บุคคลนั้นมิใช่ตัวแทนของห้างหุ้นส่วน และมิใช่ว่าห้างหุ้นส่วนเชิดเป็นตัวแทน ห้างหุ้นส่วนจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน: การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเดิมในเขตแผนที่ และสภาพทรัพย์ตามจริง
พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน และที่วัดร้างภายในกำแพงเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้กระทรวงการคลัง พ.ศ.2481
พ.ร.บ. โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงใดแปลงหนึ่งให้เป็นของทบวงการเมืองในราชการแผ่นดินนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดกรรมสิทธิ์ขึ้นใหม่ ผู้รับโอนจึงรับทรัพย์นั้นมาตามสภาพและฐานะที่เป็นอยู่ในขณะโอน
เมื่อมีเอกชนโต้แย้งว่าตนเป็นเจ้าของที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายในเขตแผนที่ท้าย พ.ร.บ. โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว ก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องนำมาสืบ
ที่ดินใดจะเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304 นั้น เป็นข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร: สิทธิในการจดทะเบียนสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญา
การที่โจทก์ทำสัญญาเช่าที่วัดซึ่งเป็นจำเลยมีกำหนด10 ปีโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะทำการก่อสร้างห้องแถวลงในที่เช่า มีจำนวนห้องที่จะต้องสร้างระบุไว้จำเลยได้ส่งมอบที่ให้โจทก์บางส่วน ยังไม่ครบตามสัญญาและโจทก์ได้ก่อสร้างห้องแถวลงบ้างแล้วต่อมาจำเลยไม่ส่งมอบที่ให้โจทก์เพื่อก่อสร้างห้องต่อไปตามสัญญาเมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญา บังคับให้จำเลยส่งมอบที่ตามสัญญาให้แก่โจทก์ศาลบังคับให้จำเลยไปทำการจดทะเบียนสัญญาเช่ามีระยะเวลา 10 ปีตามที่ตกลงกันไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร: จำเลยผิดสัญญาเมื่อไม่ส่งมอบที่ดินตามสัญญา และโจทก์มีสิทธิขอจดทะเบียนสัญญาเช่า 10 ปี
การที่โจทก์ทำสัญญาเช่าที่วัดซึ่งเป็นจำเลยมีกำหนด 10 ปี โดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะทำการก่อสร้างห้องแถวลงในที่เช่า มีจำนวนห้องที่จะต้องสร้างระบุไว้ จำเลยได้ส่งมอบที่ให้โจทก์บางส่วน ยังไม่ครบตามสัญญาและโจทก์ได้ก่อสร้างห้องแถวลงบ้างแล้ว ต่อมาจำเลยไม่ส่งมอบที่ให้โจทก์เพื่อก่อสร้างห้องต่อไปตามสัญญา เมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญา บังคับให้จำเลยส่งมอบที่ตามสัญญาให้แก่โจทก์ ศาลบังคับให้จำเลยไปทำการจดทะเบียนสัญญาเช่ามีระยะเวลา 10 ปี ตามที่ตกลงกันไว้ได้
of 324