พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของตัวแทนและการรับผิดของตัวการในหนี้ซื้อขาย
บรรยายฟ้องว่า 'จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดได้แต่งตั้งและเชิดให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการมีอำนาจซื้อขายและออกเช็คในนามของห้างหุ้นส่วน' เช่นนี้ถือว่ามิได้บรรยายให้จำเลยที่ 2 รับผิดชอบเป็นส่วนตัวด้วยแต่เป็นเรื่องเป็นตัวแทนของจำเลยที่1 ซึ่งเป็นตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามลักทรัพย์: การงัดฝาห้องและร่องรอยการถอดกลอนบ่งชี้เจตนา
จำเลยงัดฝาห้องของเจ้าทรัพย์เผยออกและกลอนหน้าต่างก็เป็นรอยถอดแล้ว ในห้องนั้นมีทรัพย์เก็บอยู่หลายอย่าง เจ้าพนักงานตำรวจมาพบจำเลยกำลังงัดห้องอยู่ จำเลยวิ่งหนีการกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญาซื้อขาย - จำเลยมิได้ต่อสู้ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย จึงไม่อาจนำสืบเปลี่ยนแปลงสัญญาได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาขายรถยนต์ปอนเตี๊ยกจึงเรียกเงินมัดจำคืน จำเลยต่อสู้ว่ากู้เงินโจทก์ 15,000 บาท เอารถฮิลแมนประกันแล้วกู้อีก 10 ,000 บาทเอารถปอนเตี๊ยกประกัน ต่อมาจำเลยชำระคืน 15,000 บาท โจทก์คืนรถปอนเตี๊ยกให้ แล้วโจทก์ยึดรถฮิลแมนของจำเลยโอนเป็นของโจทก์ โจทก์ยังจะต้องคืนเงินให้จำเลยอีก 5,000 บาท ข้อต่สู้ของจำเลยมิได้กล่าวอ้างตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย ดังนี้ จำเลยจะนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญาซื้อขายท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิมด้วยการกู้ยืมเงินและมอบรถยนต์เป็นประกัน โดยจำเลยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาซื้อขายได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาขายรถยนต์ปอนเตี๊ยกจึงเรียกเงินมัดจำคืนจำเลยต่อสู้ว่ากู้เงินโจทก์ 15,000บาทเอารถฮิลแมนประกันแล้วกู้อีก 10,000 บาทเอารถปอนเตี๊ยกประกันต่อมาจำเลยชำระคืน 15,000 บาทโจทก์คืนรถปอนเตี๊ยกให้แล้วโจทก์ยึดรถฮิลแมนของจำเลยโอนเป็นของโจทก์ โจทก์ยังจะต้องคืนเงินให้จำเลยอีก5,000 บาทข้อต่อสู้ของจำเลยมิได้กล่าวอ้างตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย ดังนี้ จำเลยจะนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญาซื้อขายท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทำของไม่สำเร็จ สิทธิเรียกร้องค่าจ้างและเงินยืมทดรอง
สัญญาจ้างทำของถือผลสำเร็จแห่งการที่ทำ ถ้าทำการที่จ้างไม่เสร็จก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้าง และถ้ารับเงินที่ยืมทดรองไปเพื่อดำเนินการก่อนก็ต้องคืนผู้ว่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทำของไม่สำเร็จ สิทธิค่าจ้างและเงินยืมทดรอง
สัญญาจ้างทำของถือผลสำเร็จแห่งการที่ทำถ้าทำการที่จ้างไม่เสร็จก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้างและถ้ารับเงินที่ยืมทดรองไปเพื่อดำเนินการก่อนก็ต้องคืนผู้ว่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถือครองทรัพย์สินร่วมกันระหว่างอยู่กินฉันท์สามีภริยา แม้ใช้เงินฝ่ายเดียวซื้อ
พฤติการณ์ที่จำเลยกับบิดาโจทก์อยู่กินกันฉันท์สามีภริยาและนำเอาเงินซื้อขายที่นาเดิมของจำเลยมาซื้อแล้วทำนาที่ซื้อใหม่นี้ร่วมกันจนบิดาโจทก์ตายเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับบิดาโจทก์ได้ร่วมเข้าทำมาหากินด้วยกันมีเจตนาให้ทรัพย์ที่ซื้อหามาใหม่นี้เป็นทรัพย์ร่วมกันทรัพย์ที่ได้มาในระหว่างอยู่กินร่วมกันทำนองนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายเงินของฝ่ายใดซื้อหามาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายต่างเป็นเจ้าของร่วม
(อ้างฎีกาที่ 303/2488)
(อ้างฎีกาที่ 303/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินร่วมกันระหว่างสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน: การพิสูจน์เจตนาให้เป็นเจ้าของร่วม
พฤติการณ์ที่จำเลยกับบิดาโจทก์อยู่กินกันฉันท์สามีภริยาและนำเอาเงินซื้อขายที่นาเดิมของจำเลยมาซื้อแล้วทำนาที่ซื้อใหม่นี้ร่วมกันจนบิดาโจทก์ตายเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับบิดาโจทก์ได้ร่วมเข้าทำมาหากินด้วยกัน มีเจตนาให้ทรัพย์ที่ซื้อหามาใหม่นี้เป็นทรัพย์ร่วมกัน ทรัพย์ที่ได้มาในระหว่างอยู่กินร่วมกันทำนองนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายเงินของฝ่ายใดซื้อหามาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายต่างเป็นเจ้าของร่วม (อ้างฎีกาที่ 303/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: พฤติการณ์เลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นบุตรเพียงพอตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้ แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1527 และพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 มาตรา 19
(ฎีกาที่ 1503/2497)
(ฎีกาที่ 1503/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: การเลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นหลักฐานการรับรองตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ครอบครัว ซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตาม ป.พ.พ. มาตรา 1527 และพ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 มาตรา 19 (ฎีกาที่ 1503/2497)