คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการประมาทเลินเล่อในการควบคุมเรือทำให้ทรัพย์สินเสียหาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยถือท้ายเรือโดยประมาทชนสพานสาธารณะจึงเสาหัก 2 ต้นสพานชำรุด ขอให้ลงโทษฐานทำโดยประมาทตาม ม.191, 201 นั้นถือได้แล้วว่าเป็นคำบรรยายฟ้องที่สมบูรณ์และถ้าหากจำเลยกระทำดั่งข้อกล่าวหาของโจทก์เรียกได้ว่ากระทำให้เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์ต้องตาม ม.201(1) อันเป็นความผิดที่จะต้องรับโทษอาญาแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมครอบครองปรปักษ์: ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนเจตนาการครอบครองก่อนจึงอ้างได้
ในกรณีที่บุคคลหลายคนมีชื่อยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเรียกว่าเจ้าของรวมนั้นย่อมมีอำนาจจัดการและครอบครองทรัพย์รวมกันและแทนกันได้ บุคคลใดยึดทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่เคยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่มีเจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป ตามป.พ.พ. ม.1381 ต่อแต่นั้นจึงจะยกอำนาจครอบครองปรปักษ์มาอ้างได้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการและครอบครองทรัพย์สินพิพาทไว้ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายรวมเวลาครอบครองเกินกว่า 10 ปี แต่ไม่ปรากฏเลยว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสองว่าจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือทรัพย์พิพาทจาการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ เมื่อเช่นนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาและอยู่ในครัวเรือนเดียวกันจึงยกอำนาจปรปักษ์อ้างแก่โจทก์ทั้งสองไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวม ครอบครองปรปักษ์ ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ
ในกรณีที่บุคคลหลายคนมีชื่ออยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเรียกว่าเจ้าของรวมนั้นย่อมมีอำนาจจัดการและครอบครองทรัพย์รวมกันและแทนกันได้บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่มีเจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ ครอบครองต่อไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1381 ต่อแต่นั้นจึงจะยกอำนาจครอบครองปรปักษ์มาอ้างได้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการและครอบครองทรัพย์สินพิพาทไว้ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายรวมเวลาครอบครองเกินกว่า 10ปีแต่ไม่ปรากฏเลยว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสองว่าจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือทรัพย์พิพาทจากการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ เมื่อเช่นนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาและอยู่ในครัวเรือนเดียวกันจึงยกอำนาจปรปักษ์อ้างแก่โจทก์ทั้งสองไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้มีการโต้เถียงก่อนหน้า ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว หากมีเจตนาฆ่า
การที่จำเลยและผู้ตายต่างมีอาวุธ เกิดโต้เถียงท้าทายและสมัครใจเข้าทำร้ายกัน จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถูกลิ้นปี่ถึงตาย ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าได้กระทำไปเพื่อป้องกันชีวิตหาได้ไม่
การที่จำเลยใช้มีดยาวถึงคืบเศษแทงเขาถูกลิ้นปี่เป็นแผลกว้าง 3 ซม. ยาว 4 ซม.ลึกจดหัวใจล้มลงขาดใจตายทันที ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาให้ถึงแก่ความตาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายร่วมกัน: การใช้ความรุนแรงเกินกว่าป้องกันตัว
การที่จำเลยและผู้ตายต่างมีอาวุธ เกิดโต้เถียงท้าทายและสมัครใจเข้าทำร้ายกัน จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถูกลิ้นปี่ถึงตายดังนี้จำเลยจะอ้างว่าได้กระทำไปเพื่อป้องกันชีวิตหาได้ไม่
การที่จำเลยใช้มีดยาวถึงคืบเศษแทงเขาถูกลิ้นปี่เป็นแผลกว้าง3 ซม.ยาว4ซม. ลึกจดหัวใจล้มลงขาดใจตายในทันทีย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเขาให้ถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาซื้อขาย: ริบมัดจำ + ค่าเสียหายพิเศษที่คาดเห็นได้
ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อแป้งจากผู้ขายโดยวางมัดจำไว้บางส่วน ผู้ขายจึงได้วางมัดจำซื้อแป้งจากบุคคลภายนอก ต่อมาผู้ซื้อผิดสัญญาไม่ซื้อแป้งจากผู้ขาย ๆ ย่อมมีสิทธิริบมัดจำเสีย ทั้งยังเรียกร้องให้ผู้ซื้อใช้เงินทดแทนตามจำนวนที่ผู้ขายได้ถูกบุคคลภายนอกริบเงินมัดจำไปด้วยได้ โดยถือว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากพฤติการณ์พิเศษ ทั้งนี้ในเมื่อเป็นพฤติการณ์ที่ผู้ซื้อพึงคาดล่วงหน้าได้แล้ว
การที่ผู้ซื้อไม่ซื้อแป้งทำให้แป้งเสื่อมคุณภาพต้องขายไปในราคาถูกก็ดี การที่ผู้ขายต้องขาดกำไรที่จะพึงได้จากการขายแป้งก็ดี เหล่านี้เป็นค่าเสียหายตามปกติ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ซื้อผิดสัญญาซื้อขายแป้ง ผู้ขายมีสิทธิริบมัดจำและเรียกค่าเสียหายพิเศษได้
ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อแป้งจากผู้ขายโดยวางมัดจำไว้บางส่วนผู้ขายจึงได้วางมัดจำซื้อแป้งจากบุคคลภายนอกต่อมาผู้ซื้อผิดสัญญาไม่ซื้อแป้งจากผู้ขาย ผู้ขายย่อมมีสิทธิริบมัดจำเสียทั้งยังเรียกร้องให้ผู้ซื้อใช้เงินทดแทนตามจำนวนที่ผู้ขายได้ถูกบุคคลภายนอกริบเงินมัดจำไปด้วยได้โดยถือว่าเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากพฤติการณ์พิเศษทั้งนี้ในเมื่อเป็นพฤติการณ์ที่ผู้ซื้อพึงคาดเห็นล่วงหน้าได้แล้ว
การที่ผู้ซื้อไม่ซื้อแป้งทำให้แป้งเสื่อมคุณภาพต้องขายไปในราคาถูกก็ดีการที่ผู้ขายต้องขาดกำไรที่จะพึงได้จากการขายแป้งก็ดีเหล่านี้เป็นค่าเสียหายตามปกติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสำคัญในความผิดฐานใช้แสตมป์ปลอม แม้แสตมป์ปลอมมาจากโรงงาน จำเลยไม่มีเจตนาถือว่าไม่มีความผิด
กฎหมายอาญา มาตรา 43 ถือว่าบุคคลใดกระทำการใดลงโดยเจตนาจึงจะเอาโทษหากกระทำโดยมิได้เจตนาแล้วก็บัญญัติไม่เอาโทษและหลักกฎหมาย ในข้อนี้ใช้ครอบมาถึงพระราชบัญญัติภาษีเครื่องดื่มพ.ศ. 2495ด้วยตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา11 แห่ง กฎหมายอาญาดังนั้นการที่จำเลยเป็นเจ้าของโรงงานน้ำอัดลมและปรากฏว่าขวดน้ำโซดาได้ปิดแสตมป์ปลอมออกไปจากโรงงานของจำเลยก็ดีหากยังมีทางสงสัยว่าจำเลยอาจได้แสตมป์นี้มาโดยสุจริตไม่รู้ว่าเป็นของปลอมแล้วจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานมีและใช้แสตมป์เครื่องดื่มปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดฐานใช้แสตมป์ปลอม และข้อยกเว้นความรับผิดตามกฎหมายอาญา ม.43
ก.ม.อาญา ม.43 ถือว่า++ใดกระทำการใดลงโดย++จึงจะเอาโทษ หากระทำโดยมิได้เจตนาแล้วก็บัญญัติไม่เอาและหลัก ก.ม.ในข้อในี้ใช้ครอบครอง พ.ร.บ.ภาษีและเครื่องดื่ม พ.ศ.2495 ด้วยตามที่บัญญัติไว้ใน ม.11 ก.ม.อาญา ดังนั้นการที่จำเลยเจ้าของโรงงานน้ำอัดลมและปรากฏว่าขวดน้ำโซดาได้ปิดแสตมป์++ออกไปจากโรงงานของจำเลย หากยังมีทางสงสัยว่าจำเลยอาจได้แสตมป์นี้มาโดยสุจริตไม่รู้ว่าเป็นของปลอมแล้วจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานมีและใช้แสตมป์เครื่องดื่มปลอม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันพยายามฆ่า: การกระทำร่วมกันของพี่น้องที่อยู่ในเหตุการณ์และสนับสนุนการยิงผู้เสียหาย
เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 มีสาเหตุกับผู้เสียหายวันเกิดเหตุจำเลยทั้ง 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกันอยู่ที่เกิดเหตุก่อนผู้เสียหายมาถึงเมื่อจำเลยที่ 2 ใช้กระสุนยิงผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ก็ไม่ห้ามครั้นผู้เสียหายเข้าไปถามว่ายิงเรื่องอะไรจำเลยกลับพูดว่าวันนี้กูเอามึงแน่อ้ายทัด (ชื่อผู้เสียหาย) ทั้งจำเลยที่ 2 รู้และเห็นจำเลยที่ 1 มีปืนมาในขณะนั้นดังนี้แสดงว่าจำเลยทั้ง 2 มีเจตนาร่วมกันในอันที่จะกระทำแก่ผู้เสียหายจำเลยที่ 2 ยิงด้วยลูกกระสุนก่อนแล้วจำเลยที่ 1 ก็ยิงด้วยปืนภายในระยะเวลากระชั้นชิดติดต่อกันจำเลยต้องมีผิดฐานสมคบกันพยายามฆ่าคนโดยเจตนา
of 324