คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก: สิทธิของทายาทแต่ละคน และหลักการแบ่งทรัพย์สินโดยรวม
โจทก์ฟ้องว่าขอแบ่งมรดกจากจำเลยครึ่งหนึ่งของมรดก มีทายาทคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยอ้างว่ามีส่วนได้ส่วนเสียตาม ก.ม.ตามทางพิจารณาปรากฏว่าเจ้ามรดกรายนี้มีทายาทรวมทั้งหมด 5 คนคือโจทก์ จำเลย ผู้ร้องสอดและทายาทอื่นอีก 2 คน ที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ถือว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความใน ป.พ.พ. ม.1749 ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้อ้างอิงและไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่ เพราะเหตุต่อสู้ผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5 ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก: สิทธิของทายาท, การคำนวณส่วนแบ่ง, และผลกระทบต่อทายาทที่ไม่ได้เป็นคู่ความ
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกจากจำเลยครึ่งหนึ่งของมรดกมีทายาทคนหนึ่งร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยอ้างว่ามีส่วนได้ส่วนเสียตามกฎหมายตามทางพิจารณาปรากฏว่าเจ้ามรดกรายนี้มีทายาทรวมทั้งหมด5 คนคือโจทก์จำเลยผู้ร้องสอดและทายาทอื่นอีก 2 คนที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ถือว่าการแบ่งทรัพย์มรดกรายนี้ต้องแบ่งให้เพียงเท่าที่คู่ความมีสิทธิควรจะได้จะแบ่งโดยเอาส่วนของทายาทอื่นไปให้ด้วยหาได้ไม่เพราะไม่ใช่ส่วนได้ของคู่ความในคดีนี้และการแบ่งเช่นนี้มิใช่เป็นการกันส่วนแห่งทรัพย์มรดกไว้เพื่อทายาทอื่นตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1749
ดังนั้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วนโดยถือว่าทายาทอีก 2 คนฟ้องหรือร้องขึ้นมาอาจถูกยกอายุความฟ้องแบ่งมรดกหรือสิทธิอ้างอิงเหตุอื่นเป็นข้อต่อสู้ไม่ให้ได้รับส่วนแบ่งหาได้ไม่เพราะเหตุต่อสู้อ้างอิงและผลของการต่อสู้ยังไม่ปรากฏมีขึ้นทั้งทายาทอาจตกลงแบ่งปันกันโดยดีหรือไม่ยกเหตุต่อสู้อะไรก็ได้จึงต้องแบ่งทรัพย์มรดกออกเป็น 5ส่วนให้โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดได้คนละ 1 ส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินมีโฉนดด้วยวาจาไม่สมบูรณ์ ต้องดำเนินการโอนโดยการจดทะเบียนเพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์
อันที่ดินซึ่งมีโฉนดนั้นจะยกแบ่งให้กันโดยปากเปล่าไม่แบ่งแยกโอนทะเบียนก็หาใช้ได้ไม่ยังต้องถือว่าเป็นของผู้มีชื่อในโฉนดผู้มีชื่อในโฉนดตายจึงตกเป็นมรดกที่จะต้องแบ่งปันกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งตรวจสอบความสามารถคู่ความ แม้มิมีคำร้อง
เมื่อเป็นที่พอใจว่ามีการบกพร่องในเรื่องความสามารถของคู่ความแม้โจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการสอบสวนก็ตามอาศัยความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา56 วรรค 2 ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบสวนเรื่องความสามารถของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งตรวจสอบความสามารถคู่ความ แม้ไม่ได้ร้องขอ
เมื่อเป็นที่พอใจว่ามีการบกพร่องในเรื่องความสามารถของคู่ความ แม้โจทก์ไม่ได้ยื่นครอบครองขอให้ศาลทำการสอบสวนก็ตาม อาศัยความตาม ป.วิ.แพ่ง ม.56 วรรค 2 ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบสวนเรื่องความสามารถของโจทก์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาข่มขืน การเพิ่มเติมฟ้อง และการที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนก่อนการร้องทุกข์
โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าว แต่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนความผิดของจำเลยคดีมีมูลไว้ชั้นหนึ่งแล้วนั้น ถือว่าเป็นฟ้องที่ชอบแล้ว
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องภายหลังจากโจทก์สืบพยานไปแล้ว 5 ปาก เพื่อเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ในฟ้องให้ชัดแจ้งขึ้นเท่านั้น ตามรูปเรื่องแห่งคดีเห็นได้ว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ในข้อที่มิได้กล่าวไว้นั้นศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาโดยไม่ระบุการร้องทุกข์ และการเพิ่มเติมฟ้องภายหลัง ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานและเจตนาของจำเลย
โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าว แต่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนความผิดของจำเลยคดีมีมูลไว้ชั้นหนึ่งแล้วนั้น ถือว่าเป็นฟ้องที่ชอบแล้ว
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องภายหลังจากโจทก์สืบพยานไปแล้ว 5 ปากเมื่อเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ในฟ้องให้ชัดแจ้งขึ้นเท่านั้นตามรูปเรื่องแห่งคดีเห็นได้ว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ในข้อที่มิได้กล่าวไว้นั้นศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร: ต้องพิสูจน์ได้ว่าของที่รับมาได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย
อันจะเป็นความผิดฐานรับของโจรนั้นต้องประกอบด้วยองค์สำคัญว่าของซึ่งได้รับไว้เป็นของที่ได้มาด้วยการกระทำผิดต่อ ก.ม.เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่ากระบือของกลางเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิด ก.ม.คือถูกลักมาดังฟ้องแล้วก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานรับของโจรหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร ต้องพิสูจน์ว่าของที่รับรู้ว่าเป็นผลจากการกระทำผิด
อันจะเป็นความผิดฐานรับของโจรนั้นต้องประกอบด้วยองค์สำคัญว่าของซึ่งได้รับไว้เป็นของที่ได้มาด้วยการกระทำผิดต่อกฎหมายเมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่ากระบือของกลางเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายคือถูกลักมาดังฟ้องแล้วก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานรับของโจรหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า พิจารณาจากอาวุธ, ลักษณะบาดแผล, และผลที่เกิดขึ้น
ได้ความว่าจำเลยใช้มีดปลายแหลมขนาดค่อนข้างใหญ่ตัวมีดวัดวัดได้ยาวถึง 21 ซม. จำเลยแทงผู้ตายโดยเต็มแรงตรงชายโครงด้านขวาซึ่งเป็นที่สำคัญปรากฏว่าผู้ตายถูกแทงเป็นบาดแผลลึกถึง14.5 ซม.กว้าง3ซม.ทะลุภายในช่องท้องถึงกะเพาะอาหารลำไส้ขาดทะลักออกมาจุกปากแผลโลหิตตกใน ผู้ตายถูกแทงแล้ววิ่งไล่จำเลยไปได้ 4 วาก็ล้มลงขาดใจตายการกระทำของจำเลยอาจแลเห็นผลได้ว่าผู้ที่ตนแทงอาจถึงแก่ความตายถือว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยจะฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่เจตนานั้นศาลจะต้องพิเคราะห์ถึงอาวุธที่ใช้ทำร้ายว่าร้ายแรงเพียงใด ลักษณะของบาดแผลที่ถูกทำร้าย ผลอันเนื่องมาจากการกระทำร้ายประกอบกันเข้าเป็นเกณฑ์วินิจฉัยความผิดของจำเลย
of 324