พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีพนัน: ข้อจำกัดด้านเวลาฟ้อง, ตัวการร่วม, และการลงโทษตามพยานหลักฐาน
เกี่ยวกับการกระทำผิดในคดีอาญาเล่นการพนันสลากกินรวบโจทก์บรรยายฟ้องว่าตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2496 ตลอดจนถึงวันที่30 กันยายน 2496 เวลากลางวันและกลางคืนแม้จะกล่าวเป็นเวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม จำเลยก็พอเข้าใจข้อกล่าวหาได้ดีแล้ว นอกจากนั้นโจทก์ยังได้ยืนยันกล่าวว่าจำเลยได้ขายสลากประจำวันที่ 30 กันยายน 2496 อีกด้วย ดังนี้ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง กฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง กฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1710/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจารเด็ก แม้ไม่สำเร็จก็มีโทษ
เมื่อจำเลยมีเจตนาต้องการจะให้ของลับเข้าไปในของลับของด.ญ.อายุ 8 ขวบแต่ไม่สำเร็จเพราะเด็กรู้สึกเจ็บจึงร้องไห้ แล้วยังใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปอีกดังนี้ ย่อมมีความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.และกระทำอนาจารเด็ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1710/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจารเด็ก แม้ไม่สำเร็จ
เมื่อจำเลยมีเจตนาต้องการจะให้ของลับเข้าไปในของลับของด.ญ.อายุ 8 ขวบแต่ไม่สำเร็จเพราะเด็กรู้สึกเจ็บจึงร้องไห้ แล้วยังใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปอีกดังนี้ ย่อมมีความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราด.ญ.และกระทำอนาจารเด็ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1710/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจารเด็ก แม้ไม่สำเร็จก็ถือเป็นความผิด
เมื่อจำเลยมีเจตนาต้องการจะให้ของลับเข้าไปในของลับของด.ญ.อายุ 8 ขวบแต่ไม่สำเร็จเพราะเด็กรู้สึกเจ็บจึงร้องไห้ แล้วยังใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปอีกดังนี้ ย่อมมีความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราด.ญ.และกระทำอนาจารเด็ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดเดิม และการพิจารณาองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกและเสื่อมเสียอิสสระภาพ
เดิมโจทก์ผู้เดียวถูกฟ้องฐานวิวาทกับจำเลยในท้องถนนหลวงศาลปรับไปแล้วตามคดีแดงที่ 551/2497
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม ม.329,254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามที่คดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม ม.329,254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามที่คดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดฐานบุกรุก ทำร้ายร่างกาย และข่มขืนอิสรภาพ แม้เคยถูกปรับในความผิดวิวาทมาก่อน
เดิมโจทก์ผู้เดียวถูกฟ้องฐานวิวาทกับจำเลยในท้องถนนหลวงศาลปรับไปแล้วตามคดีแดงที่ 551/2497
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม มาตรา 329, 254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามคดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่ จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม มาตรา 329, 254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามคดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่ จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาซ้ำซ้อนและการพิจารณาองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุก ทำร้ายร่างกาย และเสื่อมเสียอิสระภาพ
เดิมโจทก์ผู้เดียวถูกฟ้องฐานวิวาทกับจำเลยในท้องถนนหลวงศาลปรับไปแล้วตามคดีแดงที่ 551/2497
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม มาตรา 329, 254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามคดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่ จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม มาตรา 329, 254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามคดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่ จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีสัญชาติ: คนไทยสูญเสียสัญชาติจากละเลยไม่ขอรับใบสำคัญประจำตัว
คนสัญชาติไทยผู้เสียไปซึ่งสัญชาติได้ละเลยไม่ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวจากนายทะเบียนภายในกำหนด 30 วัน จนพ้นกำหนดนี้แล้วกว่า 1 ปี สิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องขอให้ลงโทษบุคคลนั้นย่อมหมดไปเพราะคดีขาดอายุความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดอายุความในการฟ้องคดีคนไทยที่ไม่ได้ขอใบสำคัญประจำตัวหลังสูญเสียสัญชาติ
คนสัญชาติไทยผู้เสียไปซึ่งสัญชาติได้ละเลยไม่ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวจากนายทะเบียนภายในกำหนด 30 วันจนพ้นกำหนดนี้แล้วกว่า 1 ปี สิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องขอให้ลงโทษบุคคลผู้นั้นย่อมหมดไปเพราะคดีขาดอายุความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องกรณีละเลยไม่ขอรับใบสำคัญประจำตัวหลังขาดสัญชาติไทย
คนสัญชาติไทยผู้เสียไปซึ่งสัญชาติได้ละเลยไม่ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวจากนายทะเบียนภายในกำหนด 30 วันจนพ้นกำหนดนี้แล้วกว่า 1 ปี สิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องขอให้ลงโทษบุคคลผู้นั้นย่อมหมดไปเพราะคดีขาดอายุความแล้ว