คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกหลังสิ้นสุดสัญญาเช่าเดิม แม้มิได้เป็นผู้จัดการมรดก
ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์และบิดาโจทก์ได้ร่วมกันเช่าที่พิพาทมาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและจำเลยไม่ได้เช่าช่วงที่พิพาทจากบิดาโจทก์ บิดา โจทก์ได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่าให้จำเลยอาศัยโจทก์ไม่ได้ทักท้วงต้องถือว่าโจทก์ยินยอมด้วย ต่อมาบิดาโจทก์ตาย โจทก์ได้บอกให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปแล้วแม้โจทก์จะไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกของธิดาโจทก์ ๆ ก็ฟ้องขับไล่จำเลยได้ เพราะจำเลยอยู่ในฐานะอาศัยโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเปลี่ยนลักษณะการยึดถือจากเช่าเป็นครอบครอง: การแจ้งให้เจ้าของทราบและอายุความ
ผู้เช่าเช่านาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญต่อมาได้ฟ้องเจ้าของนาต่อสู้กรรมสิทธิคดีถึงที่สุด ผู้เช่าแพ้คดี ศาลฟังว่าเป็นการเช่านากัน เจ้าของนาจึงฟ้องขอให้ขับไล่ ผู้เช่าจะอ้างว่าได้มีเจตนาถือสิทธิในที่พิพาทแล้วตั้งแต่วันฟ้องคดีแรกเจ้าของนามิได้ฟ้องผู้เช่าเสียภายใน 1 ปี จึงขาดอายุแล้ว เช่นนี้มิได้เพราะผู้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่ารู้เสียก่อนว่าตนได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือไม่ยึดถือไว้แทนผู้ให้เช่าต่อไป จึงจะยกอายุความขึ้นต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือจากเช่าเป็นครอบครองปรปักษ์ จำเป็นต้องแจ้งให้เจ้าของทราบ อายุความเริ่มนับเมื่อแจ้ง
ผู้เช่าเช่านาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญแล้วต่อมาได้ฟ้องเจ้าของนาต่อสู้กรรมสิทธิคดีถึงที่สุด ผู้เช่าแพ้คดี ศาลฟังว่าเป็นการเช่านากัน เจ้าของนาจึงฟ้องขอให้ขับไล่ ผู้เช่าจะอ้างว่าได้มีเจตนาถือสิทธิในที่พิพาทแล้วตั้งแต่วันฟ้องคดีแรกเจ้าของนามิได้ฟ้องผู้เช่าเสียภายใน 1 ปีจึงขาดอายุแล้ว เช่นนี้มิได้ เพราะผู้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่ารู้เสียก่อนว่าตนได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือไม่ยึดถือไว้แทนผู้ให้เช่าต่อไป จึงจะยกอายุความขึ้นต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือจากเช่าเป็นครอบครองปรปักษ์ ต้องแจ้งให้เจ้าของทราบก่อนจึงจะเริ่มนับอายุความได้
ผู้เช่าเช่านาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญแล้วต่อมาได้ฟ้องเจ้าของนาต่อสู้กรรมสิทธิคดีถึงที่สุด ผู้เช่าแพ้คดี ศาลฟังว่าเป็นการเช่านากัน เจ้าของนาจึงฟ้องขอให้ขับไล่ ผู้เช่าจะอ้างว่าได้มีเจตนาถือสิทธิในที่พิพาทแล้วตั้งแต่วันฟ้องคดีแรกเจ้าของนามิได้ฟ้องผู้เช่าเสียภายใน 1 ปีจึงขาดอายุแล้ว เช่นนี้มิได้ เพราะผู้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่ารู้เสียก่อนว่าตนได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือไม่ยึดถือไว้แทนผู้ให้เช่าต่อไป จึงจะยกอายุความขึ้นต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมยกให้ที่ดินหลังทำสัญญาจะขาย มีผลทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237
ทำสัญญาจะขายที่ดินมีโฉนดเฉพาะส่วนของตนให้แก่เขาโดยได้รับเงินมัดจำไว้แล้ว กลับเอาที่นี้ไปทำนิติกรรมยกให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หา อันเป็นทางให้ผู้ซื้อผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ ผู้ซื้อชอบที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการยกให้นั้นได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมยกให้ที่ดินที่เป็นทรัพย์สินของเจ้าหนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ซื้อตามสัญญาจะซื้อขาย
ทำสัญญาจะขายที่ดินมีโฉนดเฉพาะส่วนของตนให้แก่เขาโดยได้รับเงินมัดจำไว้แล้ว กลับเอาที่นี้ไปทำนิติกรรมยกให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หา อันเป็นทางให้ผู้ซื้อผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ ผู้ซื้อชอบที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการยกให้นั้นได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมยกให้ที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของเจ้าหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้
ทำสัญญาจะขายที่ดินมีโฉนดเฉพาะส่วนยางตอนให้แก่เขาโดยได้รับเงินมัดจำไว้ แล้วกลับเอาที่นี้ไปทำนิติกรรมยกให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หา อันเป็นทางให้ผู้ซื้อผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ ผู้ซื้อชอบที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการยกให้นั้นได้ ตาม ป.พ.พ.ม.237

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะ-การฟ้องร่วม-ค่าเสียหาย: การใช้ทางสาธารณะร่วมกันเป็นเหตุให้ฟ้องร่วมได้ และค่าเสียหายรวมกันได้
จำเลยหลายคนสมคบกันทำนารุกล้ำและล้อมรั้วปิดทางเดินสาธารณะ มีผู้เสียหายซึ่งต่างก็ใช้ทางสาธารณะนั้นหลายคน ผู้เสียหายเหล่านั้นย่อมรวมกันเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเหล่านั้นเป็นคดีเดียวกันได้เพราะว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี และค่าเสียหายจะกล่าวรวมกันมาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะ การฟ้องร่วม และค่าเสียหายรวม: การรุกล้ำทางสาธารณะโดยจำเลยหลายคน ผู้เสียหายร่วมกันฟ้องได้
จำเลยหลายคนสมคบกันทำนารุกล้ำและล้อมรั้วปิดทางเดินสาธารณะ มีผู้เสียหายซึ่งต่างก็ใช้ทางสาธารณะนั้นหลายคน ผู้เสียหายเหล่านั้นย่อมรวมกันเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเหล่านั้นเป็นคดีเดียวกันได้ เพราะว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี และค่าเสียหายจะกล่าวรวมกันมาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะ การฟ้องร่วม และค่าเสียหายรวม: กรณีรุกล้ำทางเดินสาธารณะ
จำเลยหลายคนสมคบกันทำนารุกล้ำและล้อมรั้วปิดทางเดินสาธารณะ มีผู้เสียหายซึ่งต่างก็ใช้ทางสาธารณะนั้นหลายคน ผู้เสียหายเหล่านั้นย่อมรวมกันเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเหล่านั้นเป็นคดีเดียวกันได้ เพราะว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี และค่าเสียหายจะกล่าวรวมกันมาก็ได้
of 324