พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1452/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยไม่ขาดกรณีรับใบสำคัญคนต่างด้าวตามคำแนะนำเจ้าพนักงานหลังสมรสกับคนต่างด้าว
หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้สมรสกับคนต่างด้าวแต่ตามกฎหมายยังคงเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ ต่อมาหญิงนั้นได้ขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม กฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าว แต่เป็นการรับเพราะเหตุที่ได้สมรสกับคนต่างด้าว และเป็นการปฏิบัติคำแนะนำของเจ้าพนักงานมิใช่โดยสมัครใจหญิงนั้นจึงยังหาขาดจากสัญชาติไทยไปตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่ 2) มาตรา 5 ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1452/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยไม่ขาดกรณีรับใบสำคัญคนต่างด้าวตามคำแนะนำเจ้าพนักงานหลังสมรสกับคนต่างด้าว
หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรแต่บิดาเป็นคนต่างด้าวได้สมรสกับคนต่างด้าวแต่ตามกฎหมายยังคงเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ ต่อมาหญิงนั้นได้ขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม ก.ม.ว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าว และเป็นการปฏิบัติคำแนะนำของเจ้าพนักงานมิใช่โดยสมัครใจ หญิงนั้นจึงยังหาขาดจากสัญชาติไทยไปตาม พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ 2) ม.5 ไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2498)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำละเมิด: ผู้รับประกันภัยมีสิทธิเรียกร้องเท่ากับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้เอาประกัน
ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกได้เพียงเท่ากับจำนวนที่บุคคลนั้นได้กระทำละเมิดต่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น จะเรียกร้องเต็มตามจำนวนที่ผู้รับประกันภัยต้องชำระให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเกินกว่าค่าเสียหายที่บุคคลภายนอกได้กระทำละเมิด หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับประกันภัยเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิดได้จำกัดเฉพาะค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้เอาประกันภัย
ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกได้เพียงเท่ากับจำนวนที่บุคคลนั้นได้กระทำละเมิดต่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น จะเรียกร้องเต็มตามจำนวนที่ผู้รับประกันภัยต้องชำระให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเกินกว่าค่าเสียหายที่บุคคลภายนอกได้กระทำละเมิด หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับประกันภัยมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิดได้เฉพาะส่วนที่จ่ายตามจริงเท่านั้น
ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกได้เพียงเท่ากับจำนวนที่บุคคลนั้นได้กระทำละเมิดต่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น จะเรียกร้องเต็มตามจำนวนที่ผู้รับประกันภัยต้องชำระให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเกินกว่าค่าเสียหายที่บุคคลภายนอกได้กระทำละเมิด หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความประมาทเลินเล่อในการเดินเรือ การระบุผู้กระทำและพฤติการณ์ที่ชัดเจนถือเป็นฟ้องที่ชัดแจ้ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายได้ให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างเครื่องถือพวงมาลัยแทน เรือจึงได้ชนท้ายเรือโจทก์เสียหาย เช่นนี้เป็นฟ้องที่ชัดแจ้งแล้วไม่จำต้องบรรยายด้วยว่าจำเลยที่ 2 ได้ประมาทอย่างไรเรือจำเลยจึงได้ชนเรือโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความประมาทเลินเล่อในการเดินเรือ การระบุผู้กระทำผิดและเหตุแห่งความเสียหายเพียงพอต่อการฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายได้ให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างเครื่องถือพวงมาลัยแทนเรือจึงได้ชนท้ายเรือโจทก์เสียหายเช่นนี้เป็นฟ้องที่ชัดแจ้งแล้ว ไม่จำต้องบรรยายด้วยว่าจำเลยที่ 2 ได้ประมาทอย่างไร เรือจำเลยจึงได้ชนเรือโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความประมาทเลินเล่อในการเดินเรือ การระบุผู้กระทำและเหตุผลที่ทำให้เกิดความเสียหายเพียงพอแล้ว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายได้ให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างเครื่องถือพวงมาลัยแทน เรือจึงได้ชนท้ายเรือโจทก์เสียหาย เช่นนี้เป็นฟ้องที่ชัดแจ้งแล้วไม่จำต้องบรรยายด้วยว่าจำเลยที่ 2 ได้ประมาทอย่างไรเรือจำเลยจึงได้ชนเรือโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้พยานแวดล้อมพิสูจน์เจตนาฆ่า แม้ไม่มีพยานรู้เห็นโดยตรง
ให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงอย่าพิพากษาลงโทษจนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริงและจำเลยเป็นผู้กระทำผิดนั้น
โจทก์มีพยานแวดล้อมว่า "ก่อนเกิดเหตุครึ่งเดือนผู้ตายชกนายใบจำเลยเรื่องแย่งวิดปลาที่นาพ่อตาซึ่งผู้ตายเคยวิดมาทุกปีและในวันเกิดเหตุเวลาเย็นจำเลยทั้งสามถืออาวุธมาชวนผู้ตายไปดูข้าวที่นาซึ่งนายใบจำเลยเช่าพ่อตาผู้ตายทำ ผู้ตายได้ไปกับจำเลยทั้ง 3 โดยไม่มีอาวุธ ประมาณหุงข้าวสุกผู้ตายก็ถูกทำร้ายถึงตายที่นาพ่อตาทั้งนายจันนายวันจำเลยก็รับว่าได้ทำร้ายผู้ตายตายจริงอ้างว่าผู้ตายเข้าไปลักข้าวในนาและต่อสู้กัน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามมีบาดเจ็บเลย ส่วนบาดแผลของผู้ตายมีถึง 6 แห่ง ถูกทำร้ายด้วยของแข็งและมีคม หลักฐานพยานโจทก์แวดล้อมกรณีเหล่านี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยสมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ดังนี้แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยทั้งสามเป็นคนฆ่าผู้ตายก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยได้
โจทก์มีพยานแวดล้อมว่า "ก่อนเกิดเหตุครึ่งเดือนผู้ตายชกนายใบจำเลยเรื่องแย่งวิดปลาที่นาพ่อตาซึ่งผู้ตายเคยวิดมาทุกปีและในวันเกิดเหตุเวลาเย็นจำเลยทั้งสามถืออาวุธมาชวนผู้ตายไปดูข้าวที่นาซึ่งนายใบจำเลยเช่าพ่อตาผู้ตายทำ ผู้ตายได้ไปกับจำเลยทั้ง 3 โดยไม่มีอาวุธ ประมาณหุงข้าวสุกผู้ตายก็ถูกทำร้ายถึงตายที่นาพ่อตาทั้งนายจันนายวันจำเลยก็รับว่าได้ทำร้ายผู้ตายตายจริงอ้างว่าผู้ตายเข้าไปลักข้าวในนาและต่อสู้กัน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามมีบาดเจ็บเลย ส่วนบาดแผลของผู้ตายมีถึง 6 แห่ง ถูกทำร้ายด้วยของแข็งและมีคม หลักฐานพยานโจทก์แวดล้อมกรณีเหล่านี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยสมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ดังนี้แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยทั้งสามเป็นคนฆ่าผู้ตายก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาหลักฐานทางอ้อมและการพิสูจน์เจตนาฆ่า โดยปราศจากพยานรู้เห็นเหตุการณ์
ให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงอย่าพิพากษาลงโทษจนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริงและจำเลยเป็นผู้กระทำผิดนั้น
โจทก์มีพยานแวดล้อมว่า "ก่อนเกิดเหตุครึ่งเดือนผู้ตายชกนายใบจำเลยเรื่องแย่งวิดปลาที่นาพ่อตาซึ่งผู้ตายเคยวิดมาทุกปีและในวันเกิดเหตุเวลาเย็นจำเลยทั้งสามถืออาวุธมาชวนผู้ตายไปดูข้าวที่นาซึ่งนายใบจำเลยเช่าพ่อตาผู้ตายทำ ผู้ตายได้ไปกับจำเลยทั้ง 3 โดยไม่มีอาวุธ ประมาณหุงข้าวสุกผู้ตายก็ถูกทำร้ายถึงตายที่นาพ่อตาทั้งนายจันนายวันจำเลยก็รับว่าได้ทำร้ายผู้ตายตายจริงอ้างว่าผู้ตายเข้าไปลักข้าวในนาและต่อสู้กัน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามมีบาดเจ็บเลย ส่วนบาดแผลของผู้ตายมีถึง 6 แห่ง ถูกทำร้ายด้วยของแข็งและมีคม หลักฐานพยานโจทก์แวดล้อมกรณีเหล่านี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยสมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ดังนี้แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยทั้งสามเป็นคนฆ่าผู้ตายก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยได้
โจทก์มีพยานแวดล้อมว่า "ก่อนเกิดเหตุครึ่งเดือนผู้ตายชกนายใบจำเลยเรื่องแย่งวิดปลาที่นาพ่อตาซึ่งผู้ตายเคยวิดมาทุกปีและในวันเกิดเหตุเวลาเย็นจำเลยทั้งสามถืออาวุธมาชวนผู้ตายไปดูข้าวที่นาซึ่งนายใบจำเลยเช่าพ่อตาผู้ตายทำ ผู้ตายได้ไปกับจำเลยทั้ง 3 โดยไม่มีอาวุธ ประมาณหุงข้าวสุกผู้ตายก็ถูกทำร้ายถึงตายที่นาพ่อตาทั้งนายจันนายวันจำเลยก็รับว่าได้ทำร้ายผู้ตายตายจริงอ้างว่าผู้ตายเข้าไปลักข้าวในนาและต่อสู้กัน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามมีบาดเจ็บเลย ส่วนบาดแผลของผู้ตายมีถึง 6 แห่ง ถูกทำร้ายด้วยของแข็งและมีคม หลักฐานพยานโจทก์แวดล้อมกรณีเหล่านี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยสมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ดังนี้แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยทั้งสามเป็นคนฆ่าผู้ตายก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยได้