คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งต้องมีข้อพิพาทเกิดขึ้นแล้ว ศาลไม่อนุญาตฟ้องแย้งเผื่อไว้
การเสนอคำฟ้องหรือคำฟ้องแย้งต่อศาลต้องมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นแล้วเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตาม ก.ม.
การที่จำเลยให้การว่า การซื้อขายห้องพิพาท ระหว่างโจทก์กับเจ้าของเดิมเป็นการสมยอม โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญา เมื่อศาลยังมิได้ชี้ขาด อย่างใดจำเลยจะมาฟ้องแย้งว่า แม้เจ้าของเดิมทำสัญญาซื้อขายห้องพิพาทกับโจทก์โดยชอบ สัญญาเช่าห้องพิพาทที่เจ้าของเดิมทำให้จำเลยย่อมติดตามมาอยู่กับโจทก์ จำเลยยังได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯ ขอให้บังคับโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไปตามสัญญาเช่าเดิมดังนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างสัญญาและการผิดสัญญา ทำให้ผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมดได้
กู้เงิน สัญญาผ่อนชำระเป็นรายเดือนผู้กู้ปฏิเสธสัญญาก่อนครบกำหนดชำระงวดแรกผู้ให้กู้ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ได้ทั้งหมดพร้อมด้วยดอกเบี้ย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ: การตีความ 'ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง' ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้งฐานลักทรัพย์พ้นโทษเมื่อ 5 มิ.ย. 94 และ 7 มิ.ย. 95 ตามลำดับแล้วมาต้องโทษครั้งหลังฐานลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้าย ในคดีนี้อีกย่อมถือได้ว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามความประสงค์ของพระราชบัญญัติกักกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย: เกณฑ์การพิจารณาจากประวัติการกระทำความผิดซ้ำ
จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ฐานลักทรัพย์พ้นโทษเมื่อ 5 มิ.ย.94 และ 7 มิ.ย.95 ตามลำดับแล้วมาต้องโทษครั้งหลังฐานลักทรัพย์อันเป็นเหตุร้าย ในคดีนี้อีกย่อมถือได้ว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามความประสงค์ ของ พ.ร.บ. กักกันฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินสมรสและมรดก: การพิสูจน์สถานะคู่สมรสที่ไม่จดทะเบียน และสิทธิในทรัพย์สินที่ได้มาหลังใช้ ป.พ.พ. บรรพ 5
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันมาก่อนใช้ ป.พ.พ. บรรพ 5 จึงขอให้ศาลแสดงว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นสินสมรส โจทก์มีสิทธิสองส่วนจำเลยหนึ่งส่วน
จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์พิพาทเป็นสินส่วนตัวจำเลย ๆ เป็นภรรยาโจทก์หลังใช้ ป.พ.พ. บรรพ 5 ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ภายหลังได้หย่าขาดและแบ่งทรัพย์กันแล้ว ดังนี้ แม้ในคดีก่อนที่จำเลยฟ้องโจทก์ว่าลักตัดยางในสวนพิพาทศาล่จะฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันก่อนใช้ ป.พ.พ. บรรพ5 ก็ดี ในคดีใหม่นี้ ศาลก็ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันเมื่อใช้ ป.พ.พ.บรรพ 5 แล้ว และไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันได้ เพราะคดีใหม่นี้+หาได้เกี่ยวเนื่องมาจากคดีอาญาที่หากันว่าลักตัดยางในสวนพิพาทไม่ คู่ความมาพิพาทกันด้วยสิทธิในครอบครัว และทรัพย์สินในทางแพ่ง เป็นเรื่องใหม่อีกโสดหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินสมรสหลังใช้ บรรพ 5 ไม่จดทะเบียนสมรส สิทธิในทรัพย์สินมรดก
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันมาก่อนใช้บรรพ 5 จึงขอให้ศาลแสดงว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นสินสมรส โจทก์มีสิทธิสองส่วนจำเลยหนึ่งส่วน
จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์พิพาทเป็นสินส่วนตัวจำเลยจำเลยเป็นภรรยาโจทก์หลังใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ภายหลังได้หย่าขาดและแบ่งทรัพย์กันแล้วดังนี้แม้ในคดีก่อนที่จำเลยฟ้องโจทก์ว่าลักตัดยางในสวนพิพาทศาลจะฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ก็ดีในคดีใหม่นี้ศาลก็ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันเมื่อใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้วและไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันได้เพราะคดีใหม่นี้มูลกรณีเป็นคนละอย่างหาได้เกี่ยวเนื่องมาจากคดีอาญาที่หากันว่าลักตัดยางในสวนพิพาทไม่ คู่ความมาพิพาทกันด้วยสิทธิในครอบครัวและทรัพย์สินในทางแพ่งเป็นเรื่องใหม่อีกโสดหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยคดีมรดกโดยอาศัยคำพิพากษาเดิมที่ผูกมัดคู่ความ และการไม่ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องมรดกที่ดินต่างอ้างถึงสำนวนคดีแดงอีกเรื่องหนึ่งเมื่อศาลเห็นว่าตามคำฟ้องคำให้การประกอบกับสำนวนเรื่องนั้นก็พอวินิจฉัยคดีได้ แล้ว ศาลก็อาจงดสืบพยานเสียแล้วนำสำนวนคดีนั้นมาวินิจฉัยประกอบได้เองโดยโจทก์จำเลยไม่ต้องขอระบุอ้าง
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทคำพิพากษาถึงที่สุดวินิจฉัยว่าที่พิพาทโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิและปกครองร่วมกัน ข้อเท็จจริงอันนี้ย่อมผูกมัดโจทก์จำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นคู่ความเดียวกันด้วย และคดีหลังนี้โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทเป็นคนละประเด็นไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยคดีมรดกโดยอ้างอิงคำพิพากษาเดิมและประเด็นฟ้องซ้ำ
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องมรดกที่ดินต่างอ้างถึงสำนวนคดีแดงอีกเรื่องหนึ่งเมื่อศาลเห็นว่าตามคำฟ้องคำให้การประกอบกับสำนวนเรื่องนั้นก็พอวินิจฉัยคดีได้แล้วศาลก็อาจงดสืบพยานเสียแล้วนำสำนวนคดีนั้นมาวินิจฉัยประกอบได้เองโดยโจทก์จำเลยไม่ต้องขอระบุอ้าง
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทคำพิพากษาถึงที่สุดวินิจฉัยว่าที่พิพาทโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิและปกครองร่วมกันข้อเท็จจริงอันนี้ย่อมผูกมัดโจทก์จำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นคู่ความเดียวกันด้วยและคดีหลังนี้โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทจึงเป็นคนละประเด็นไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมเรื่องพินัยกรรม: ข้อหาปลอมแปลง vs. ถูกหลอกลวงลงชื่อ ทำให้การพิจารณาไม่ชัดเจน
ฟ้องอ้างว่าพินัยกรรมปลอมเจ้ามรดกมิได้ทำขึ้นและว่าถ้าหากมีลายมือชื่อเจ้ามรดกก็เป็นเพราะถูกหลอกลวงให้หลงผิด ฯลฯ ทั้งพฤติการณ์ที่ทำให้เกิดพินัยกรรมนี้ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นเป็นการแสดงสภาพแห่งข้อหาขัดแย้งกันจึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมและขอให้สั่งว่าพินัยกรรมฉบับที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกทำให้จำเลยภายหลังนั้นไม่สมบูรณ์ด้วย
เมื่อปรากฏว่าคำฟ้องที่เกี่ยวกับขอให้ทำลายพินัยกรรมเคลือบคลุมก็ยังคงเหลือประเด็นตามคำฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรกศาลต้องพิพากษาคดีต่อไป จะยกฟ้องเสียทีเดียวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมเรื่องพินัยกรรม: ข้อหาปลอมแปลง vs. ถูกหลอกลวงลงนาม ทำให้ฟ้องไม่ชัดเจน
ฟ้องอ้างว่าพินัยกรรมปลอมเจ้ามรดกมิได้ทำขึ้นและว่าถ้าหากมีลายมือชื่อเจ้ามรดกก็เป็นเพราะถูกหลอกลวงให้หลงผิด ฯลฯ ทั้งพฤติการณ์ที่ทำให้เกิดพินัยกรรมนี้ก็ไม่ชอบด้วย ก.ม.นับเป็นการแสดงสภาพแห่งข้อหาขัดแย้งกันจึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมและขอให้สั่งว่าพินัยกรรมฉบับที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกทำให้จำเลยภายหลังนั้นไม่สมบูรณ์ด้วย
เมื่อปรากฎว่าคำฟ้องที่เกี่ยวกับขอให้ทำลายพินัยกรรมเคลือบคลุมก็ยังคงเหลือประเด็นตามคำฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรก ศาลต้องพิพากษาคดีต่อไป จะยกฟ้องเสียทีเดียวไม่ได้
of 324