คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1512-1515/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานก่อการขบถและการเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครอง โดยอ้างรัฐธรรมนูญฉบับอื่น
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยกับพวกสะสมกำลังเครื่องศาสตราวุธ สมคบกันตระเตรียมการและพยายามก่อการขบถช่วยกันปกปิดความผิด ไม่นำความไปร้องเรียน และได้สมคบกันลงมือกระทำการขบถ ทั้งได้บรรยายรายละเอียดแห่งการกระทำของจำเลยไว้โดยชัดแจ้งแล้วย่อมเป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 158 โจทก์ไม่จำต้องกล่าวเจาะจงจำเลยเป็นคน ๆ ไปว่าผู้ใดกระทำอย่างใด ที่ไหน เวลาใดบ้าง
รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับเป็นหลักแห่งการปกครองพระราชอาณาจักรแต่ละฉบับย่อมมีบทบัญญัติแตกต่างกันราชประเพณีการปกครองย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามรัฐธรรมนูญนั้น การที่จำเลยนำเอารัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยฉบับอื่นมาใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครองพระราชอาณาจักร
รัฐบาลที่ได้ตั้งขึ้นตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นได้เข้าครอบครองและบริหารราชการแผ่นดินด้วยความสำเร็จเด็ดขาดและรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติตลอดมา เป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไปว่าเป็นรัฐบาลอันสมบูรณ์มาช้านานจนบัดนี้ ย่อมถือว่าเป็นรัฐบาลอันชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511-1515/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครอง และความผิดฐานก่อการขบถ การยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไม่เข้าข่ายนิรโทษกรรม
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยกับพวกสะสมกำลับเครื่องศาสราวุธ สมคบกันตระเตรียมการและพยายามก่อการขบถช่วยกันปกปิดความผิด ไม่นำความไปร้องเรียน และได้สมคบกันลงมือกระทำการขบถ ทั้งได้บรรยายรายละเอียดแห่งการกระทำของจำเลยไว้โดยชัดแจ้งแล้วย่อมเป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ป.ม.วิอาญามาตรา 158 โจทก์ไม่จำต้องกล่าวเจาะจงจำเลยเป็นคน ๆ ไปว่าผู้ใดกระทำอย่างใด ที่ไหน เวลาใดบ้าง
รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับเป็นหลักแห่งการปกครองพระราชอาณาจักรแต่ละฉบับย่อมมีบทบัญญัติแตกต่างกันราชประเพณีการปกครองย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามรัฐธรรมนูญนั้น การที่จำเลยนำเอารัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยฉบับอื่นมาใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครองพระราชอาณาจักร
รัฐบาลที่ได้ตั้งขึ้นตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นได้เข้าครอบครองและบริหารราชการแผ่นดินด้วยความสำเร็จเด็ดขาดและรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติตลอดมา เป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไปว่าเป็นรัฐบาลอันสมบูรณ์มาช้านานจนบัดนี้ ย่อมถือว่าเป็นรัฐบาลอันชอบด้วยกฎหมาย
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ที่นำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 กลับมาใช้ใน พ.ศ.2492 หาได้ไช้แก่ผู้ที่จะนำรัฐธรรมนูญฉบับอื่นมาใช้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและลดโทษสำหรับผู้กระทำผิดอายุไม่เกิน 20 ปี มาตรา 58 ทวิ และ 72 ไม่สามารถหักกลบลบกันได้
มาตรา 58 ทวิ แห่งกฎหมายลักษณะอาญา เป็นองค์โทษอย่างเดียวกับมาตรา 60 จะนำมาหักกลบลบกับโทษที่เพิ่มตามมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษและลดโทษสำหรับผู้กระทำผิดอายุไม่เกิน 20 ปี มาตรา 58 ทวิ และ 72 ใช้หักกลบลบกันไม่ได้
มาตรา 58 ทวิแห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา เป็นองคโทษอย่างเดียวกับมาตรา 60 จะนำมาหักกลบลบกับโทษที่เพิ่มตามมาตรา 72 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของกรรมการบริษัทต้องเป็นไปตามข้อบังคับและประกาศจดทะเบียน หากไม่ปฏิบัติตามถือเป็นขาดอำนาจฟ้อง
บริษัทจำกัดมีกรรมการ 8 นาย ในจำนวนนี้ได้ระบุไว้ 3 นายเป็นกรรมการจัดการ ในข้อบังคับของบริษัทมีว่ากรรมการจัดการหนึ่งนายกับกรรมการอื่นอีกหนึ่งนาย ลงชื่อประทับตราบริษัทแทนบริษัทได้ ฉะนั้นกรรมการจัดการทั้งสามนายจะลงชื่อประทับตราบริษัทแต่งทนายฟ้องคดีแทนบริษัท โดยไม่มีกรรมการอื่นอีกหนึ่งนายลงชื่อด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของกรรมการบริษัท: การลงลายมือชื่อประทับตราต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัท
บริษัทจำกัดมีกรรมการ 8 นาย ในจำนวนนี้ได้ระบุไว้ 3 นายเป็นกรรมการจัดการ ในข้อบังคับของบริษัทมีกรรมการจัดการหนึ่งนายกับกรรมการอื่นอีกหนึ่งนายลงชื่อประทับตราบริษัทแทนบริษัทได้ ฉะนั้นกรรมการจัดการทั้งสามนายจะลงชื่อประทับตราบริษัทแต่งทนายฟ้องคดีแทนบริษัท โดยไม่มีกรรมการอื่นอีกหนึ่งนายลงชื่อด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ศาลในการเรียกค่าอ้างเอกสาร และอำนาจศาลอุทธรณ์ในการพิจารณาคดีเมื่อเอกสารไม่เสียค่าอ้าง
การเสียค่าอ้างเอกสารเป็นหน้าที่ของศาลจะพึงเรียกจากผู้อ้าง
เมื่อศาลชั้นต้นได้พิจารณาวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงพิพากษาคดีมาแล้ว โดยมิได้ถือเอาเอกสารที่ยังไม่ได้เสียค่าอ้างเป็นข้อแพ้ชนะ มาชั้นอุทธรณ์จึงเป็นหน้าที่ของศาลอุทธรณ์จะพึงเรียกค่าอ้างจากผู้อ้างเสียให้ถูกต้อง แล้วพิพากษาคดีไป หาควรให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าอ้างเอกสารหน้าที่ศาลต้องเรียกจากผู้ที่อ้าง แม้ศาลชั้นต้นไม่ได้ถือเป็นเหตุแพ้ชนะ ศาลอุทธรณ์มีหน้าที่เรียกค่าอ้างก่อนพิพากษา
การเสียค่าอ้างเอกสารเป็นหน้าที่ของศาลจะพึงเรียกจากผู้อ้าง
เมื่อศาลชั้นต้นได้พิจารณาวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงพิพากษาคดีมาแล้ว โดยมิได้ถือเอาเอกสาที่ยังไม่ได้เสียค่าอ้างเป็นข้อแพ้ชนะ มาชั้นอุทธรณ์จึงเป็นหน้าที่ของศาลอุทธรณ์จะพึงเรียกค่าอ้างจากผู้อ้างเสียให้ถูกต้อง แล้วพิพากษาคดีไป หาควรให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดบอกเลิกสัญญาเช่า การบอกเลิกสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย และผลของการไม่จดทะเบียนสัญญา
สัญญาเช่ามีข้อความว่าผู้เช่าจะชำระค่าเช่าในวันที่ 7 ของทุก ๆ เดือน ผู้เช่าได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเป็นเวลา 1 เดือนเศษแล้วจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่า ดังนี้ผู้เช่าได้รู้ตัวมีกำหนดเวลาค่าเช่าระยะหนึ่ง คือ 1 เดือน ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่ขัดกับ ป.พ.พ.ม.566

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่ โดยระยะเวลาบอกเลิกสัญญาเพียงพอต่อระยะเวลาชำระค่าเช่า
สัญญาเช่ามีข้อความว่าผู้เช่าจะชำระค่าเช่าในวันที่ 7 ของทุกๆ เดือน ผู้เช่าได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเป็นเวลา 1 เดือนเศษแล้วจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่า ดังนี้ผู้เช่าได้รู้ตัวมีกำหนดเวลาค่าเช่าระยะหนึ่ง คือ 1 เดือน ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่ขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566
of 324