พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดี ถือเป็นการกระทำที่ศาลสามารถเพิกถอนสัญญาได้
รถยนต์ของจำเลยชนกับรถยนต์ของผู้อื่นเสียหาย เขาได้มีหนังสือมาขอให้ใช้ค่าเสียหายแก่เขา จำเลยไปติดต่อแล้ว แต่ว่าจะปรึกษากันดูก่อนครั้นแล้วกลับเอาที่ดินของจำเลยไปขายให้แก่พี่ชาย เพื่อป้องกันมิให้ถูกยึดทรัพย์ ถ้าแพ้คดีแก่เขา ซึ่งพี่ชายผู้รับซื้อก็ทราบดี ดังนี้ เมื่อเขาชนะคดีในเรื่องเรียกค่าเสียหายเพราะรถยนต์จำเลยชนรถยนต์ของเขาแล้ว เขามีสิทธิขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยกับพี่ชายเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: การฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันรู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำละเมิด ทำให้คดีขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องบรรยายกล่าวว่าจำเลยกระทำการโดยประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวัง มิได้ปฏิบัติตามระเบียบหน้าที่และคำสั่ง อันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยยักยอกเงินของทางราชการไปทำให้โจทก์เสียหาย อันเป็นการแสดงชัดว่า โจทก์ขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา420 ฉะนั้น เมื่อปรากฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยภายหลัง 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ละเมิดแล้ว ก็ต้องถือว่าคดีขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: การฟ้องคดีล่าช้าเกิน 1 ปีนับแต่วันรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้กระทำ
โจทย์ฟ้องบรรยายกล่าวว่าจำเลยกระทำการโดยประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวัง มิได้ปฏิบัติตามระเบียบหน้าที่และคำสั่ง อันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยยักยอกเงินของทางราชการไป ทำให้โจทก์เสียหาย อันเป็นการแสดงชัดว่า โจทก์ขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 420 ฉะนั้นเมื่อปรากฎว่าโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยภายหลัง 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ละเมิดแล้ว ก็ต้องถือว่าคดีขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือไปแล้ว ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณา
โจทย์ฟ้องคดีในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก มีคำขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินระหว่างผู้จัดการมรดกคนเก่ากับจำเลย และให้แก้ชื่อหลังโฉนดเป็นชื่อโจทก์ในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก แต่ปรากฎว่าในขณะนั้นที่ดินไม่ได้เป็นของจำเลยแล้ว เพราะได้จดทะเบียนโอนต่อไปยังคนภายนอกแล้ว กรรมสิทธิที่ดินไม่ได้คงอยู่กับจำเลย อันศาลอาจพิจารณาพิพากษาให้เพิกถอนเสียได้ คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่มีข้อที่ศาลจะพึงพิจารณาพิพากษาในเวลานั้น ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเมื่อกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้โอนไปยังบุคคลอื่นแล้ว ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องคดีในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก มีคำขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินระหว่างผู้จัดการมรดกคนเก่ากับจำเลยและให้แก้ชื่อหลังโฉนดเป็นชื่อโจทก์ในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกแต่ปรากฏว่าในขณะนั้นที่ดินไม่ได้เป็นของจำเลยแล้วเพราะได้จดทะเบียนโอนต่อไปยังคนภายนอกแล้วกรรมสิทธิที่ดินไม่ได้คงอยู่กับจำเลยอันศาลอาจพิจารณาพิพากษาให้เพิกถอนเสียได้ คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่มีข้อที่ศาลจะพึงพิจารณาพิพากษาในเวลานั้นศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายต่อเจ้าพนักงาน หากครอบครองเกิน 10 ปี
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดกัน โดยมิได้ไปทำโอนซื้อขายกันต่อเจ้าพนักงานแต่ผู้ซื้อได้ปกครองเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ผู้ซื้อย่อมได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ซื้อขายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ไม่มีการโอนตามกฎหมาย
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดกัน โดยมิได้ไปทำโอนซื้อขายกันต่อเจ้าพนักงาน แต่ผู้ซื้อได้ปกครองเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้ ผู้ซื้อย่อมได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ซื้อขายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษและงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันโดยคำนึงถึงปัจจัยจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294. เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดีแต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายขึ้นมาศาลฎีกาแล้วและศาลฎีกาเห็นในข้อกฎหมายตามศาลอุทธรณ์ก็ตามศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษและการงดกักกันในคดีลักทรัพย์: ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษกักกันได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 เพิ่มโทษและลดโทษ มีส่วนเท่ากันให้หักกลบลบกันไปคงจำคุก 1 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปกักกันมีกำหนด 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ แม้คู่ความจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ก็ดี แต่เมื่อจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ขึ้นมาศาลฎีกาแล้ว และศาลฎีกาเห็นในข้อ ก.ม.ตามศาลอุทธรณ์ก็ตาม ศาลฎีกาก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้งดส่งตัวจำเลยไปกักกันเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและทรัพย์สิน: การใช้กำลังเพื่อตอบโต้ผู้บุกรุกและการพิจารณาเหตุผลสมควรแก่เหตุ
มีคนถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านสุนัขในบ้านเห่าเจ้าของบ้านตื่นฉายไฟดู เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างต้นไม้ห่างบันไดเรือนราว 1 ศอก เจ้าของบ้านร้องถาม 2คำชายนั้นกลับวิ่งหนีเจ้าของบ้านวิ่งตาม และร้องขโมยพอถึงกอกล้วยชายนั้นเอาไม้ไผ่พุ่งใส่เจ้าของบ้านเจ้าของบ้านจึงพุ่งหอกไปที่ชายนั้นปรากฏว่าชายนั้นเป็นคนโรคเรื้อนและโรคบุรุษจมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโค และถึงแก่ความตายในคืนนั้นเพราะป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า การกระทำของเจ้าของบ้านเป็นการป้องกันตัว และทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ