พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในกรณีช้างทำลายทรัพย์สิน: ผู้ดูแลและเจ้าของช้าง
มารดาเป็นเจ้าของช้างแต่บุตรเป็นผู้ดูแลรักษาช้างนั้นไว้แทนมารดา าและบุตรยังได้จ้างลูกจ้างให้เป็นควานและ เป็นผู้เลี้ยงรักษาช้างนั้น เมื่อเกิดการละเมิด โดยลูกจ้างปล่อยปละประมาทเลินเล่อไม่รัะมัดระวังช้างเป็นเหตุให้ช้าง ไปทำลายสิ่งของของผู้อื่นเสียหายเช่นนี้ บุตรกับลูกจ้างต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เขา แต่มารดาผู้เป็น เจ้าของช้างไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย จึงไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046-1052/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความยินยอมของผู้เช่าในการรื้อถอนอาคารและการผูกพันตามสัญญาเช่า
ซื้อที่ดินและห้องแถวมาจากเจ้าของเดิม โดยมีความประสงค์จะรื้อห้องแถวปลูกเป็นโกดัง จึงได้เจรจากับผู้เช่าห้องแถวนั้น ให้ออกไป ในที่สุดผู้เช่ายอมออกได้ทำสัญญากันมีความดังนี้ "ผู้เช่าขอเช่ามีกำหนดเวลาสามเดือนฯลฯเพื่ออาศัยชั่วคราว โดยผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบแล้วว่าจะรื้อห้องนี้ ผู้เช่าจึงขอให้ความยินยอมไว้ว่าจะย้ายไปทันทีเมื่อครบกำหนดเวลาเช่า ผู้ให้เช่าตกลงให้ค่าย้ายสามร้อยบาทถ้วน"ดังนี้เป็นการยินยอมจากผู้เช่าแล้ว ถ้าถึงกำหนดแล้วขัดขืนไม่ออก ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องขับไล่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า และให้จำเลยมารับเงินค่าขนย้าย 300 บาทจากโจทก์เช่นนี้ ศาลก็ย่อมพิพากษาให้ขับไล่และให้โจทก์วางเงินห้องละ 300 บาทให้จำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า และให้จำเลยมารับเงินค่าขนย้าย 300 บาทจากโจทก์เช่นนี้ ศาลก็ย่อมพิพากษาให้ขับไล่และให้โจทก์วางเงินห้องละ 300 บาทให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046-1052/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าระยะสั้นและการยินยอมให้รื้อถอนที่เช่า ผู้เช่ามีหน้าที่ออกจากที่เช่าเมื่อครบกำหนด
ซื้อที่ดินและห้องแถวมาจากเจ้าของเดิม โดยมีความประสงค์จะรื้อห้องแถวปลูกเป็นโกดัง จึงได้เจรจากับผู้เช่าห้อง แถวนั้น ให้ออกไป ในที่สุดผู้เช่ายอมออกได้ทำสัญญากันมีความดังนี้ "ผู้เช่าขอเช่ามีกำหนดเวลาสามเดือนฯลฯ เพื่อ อาศัยชั่วคราว โดยผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบแล้วว่าจะรื้อห้องนี้ ผู้เช่าจึงขอให้ความยินยอมไว้ว่าจะย้ายไปทันทีเมื่อครบ กำหนดเวลาเช่า ผู้ให้เช่าตกลงให้ค่าย้ายสามร้อยบาทถ้วน" ดังนี้เป็นการยินยอมจากผู้เช่าแล้ว ถ้าถึงกำหนดแล้ว ขัดขืนไม่ออก ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องขับไล่ได้./
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า และให้จำเลยมารับเงินค่าขนย้าย 300 บาทจากโจทก์เช่นนี้ ศาลก็ย่อม พิพากษาให้ขับไล่และให้โจทก์+ เงินห้องละ 300 บาทให้จำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า และให้จำเลยมารับเงินค่าขนย้าย 300 บาทจากโจทก์เช่นนี้ ศาลก็ย่อม พิพากษาให้ขับไล่และให้โจทก์+ เงินห้องละ 300 บาทให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่านาเกินอัตราหลังพ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา มีความผิดแม้ทำสัญญาก่อนประกาศใช้
แม้จะทำสัญญาเช่านากันไว้ก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาก็ดี แต่เมื่อเก็บค่าเช่ากันนั้น ได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาแล้ว ดังนี้ ถ้าค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เจ้าของนาผู้ให้เช่าก็ย่อมผิดตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่านา 2493 มาตรา 16
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเก็บค่าเช่านาจากนายย้าผู้เช่าทำเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยให้นายบุญธรรมเช่านาไป แล้วนายบุญธรรมให้นายย้าทำนาเมื่อจำเลยไปเก็บค่าเช่านายบุญธรรมจึงให้ไปเก็บกับนายย้า ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง เมื่อค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเก็บค่าเช่านาจากนายย้าผู้เช่าทำเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยให้นายบุญธรรมเช่านาไป แล้วนายบุญธรรมให้นายย้าทำนาเมื่อจำเลยไปเก็บค่าเช่านายบุญธรรมจึงให้ไปเก็บกับนายย้า ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง เมื่อค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บค่าเช่านาเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แม้มีสัญญาเช่าก่อนประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านา ก็ยังถือว่ามีความผิด
แม้จะทำสัญญาเช่านากันไว้ก่อนประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา ก็ดี แต่เมื่อเก็บค่าเช่ากันนั้น ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านาแล้ว ดังนี้ ถ้าค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เจ้าของนาผู้ให้เช่าก็ย่อมผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านา 2493 มาตรา16.
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเก็บค่าเช่านาจากนายย้าผู้เช่าทำเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลย ให้นายบุญธรรมเช่านาไปแล้ว นายบุญธรรมให้นายย้าทำนา เมื่อจำเลยไปเก็บค่าเช่านายบญธรรมจึงให้ไปเก็บกับ นายย้า ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง เมื่อค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิด./
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเก็บค่าเช่านาจากนายย้าผู้เช่าทำเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลย ให้นายบุญธรรมเช่านาไปแล้ว นายบุญธรรมให้นายย้าทำนา เมื่อจำเลยไปเก็บค่าเช่านายบญธรรมจึงให้ไปเก็บกับ นายย้า ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง เมื่อค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิด./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขปืนโดยไม่ประสงค์เจตนาทุจริต ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
เจ้าของปืนผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน ทำพานท้ายปืนใหม่เปลี่ยนของเก่าที่ชำรุดแล้ว ตอกเครื่องหมายลงที่พานท้ายปืนซึ่งทำใหม่ให้เหมือนอันเก่า โดยมิได้ประสงค์จะเอาปืนกระบอกนั้นไปใช้ในการผิดกฎหมายใด อันจะเกิดความเสียหายขึ้นได้แต่ประการใด ดังนี้ เจ้าของปืนยังไม่มีความผิดฐานปลอมหนังสือ (อ้างฎีกาที่ 1006/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมฉบับซ้ำ & การขีดฆ่าแก้ไข: สิทธิในการรับมรดกยังคงมีอยู่หากแก้ไขไม่ถูกต้อง
พินัยกรรมที่ทำขึ้นพร้อมกันหลายฉบับ และมีข้อความเหมือนกันทุกฉบับนั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นต้นฉบับพินัยกรรมทั้งหมด ผู้มีสิทธิได้ทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้น จะอ้างสิทธิในพินัยกรรมฉบับใดขึ้นขอรับมรดกก็ได้
พินัยกรรมที่มีขีดฆ่าตกเติมหลายแห่ง ไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือให้ถูกต้องทุกแห่งนั้น จะเสียก็เสียเฉพาะการขีดฆ่าตกเติมที่ทำไม่ถูกต้องเท่านั้น ไม่เสียหมดทั้งฉบับ
พินัยกรรมที่มีขีดฆ่าตกเติมหลายแห่ง ไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือให้ถูกต้องทุกแห่งนั้น จะเสียก็เสียเฉพาะการขีดฆ่าตกเติมที่ทำไม่ถูกต้องเท่านั้น ไม่เสียหมดทั้งฉบับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมฉบับซ้ำ & การแก้ไขพินัยกรรม: สิทธิในการอ้างสิทธิ & ผลของการแก้ไข
พินัยกรรม์ที่ทำขึ้นพร้อมกันหลายฉบับ และมีข้อความเหมือนกันทุกฉบับนั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นต้นฉบับพินัยกรรม ทั้งหมด ผู้มีสิทธิได้ทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้น จะอ้างสิทธิในพินัยกรรมฉบับใดขึ้นขอรับมรดกก็ได้.
พินัยกรรมที่ขีดฆ่าตกเติมหลายแห่ง ไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือให้ถูกต้องทุกแห่งนั้น จะเสียก็เสียเฉพาะการขีด ฆ่าตกเติมที่ทำไม่ถูกต้องเท่านั้น ไม่เสียหมดทั้งฉบับ./
พินัยกรรมที่ขีดฆ่าตกเติมหลายแห่ง ไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือให้ถูกต้องทุกแห่งนั้น จะเสียก็เสียเฉพาะการขีด ฆ่าตกเติมที่ทำไม่ถูกต้องเท่านั้น ไม่เสียหมดทั้งฉบับ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน: การปิดกั้นผักตบชะวาเพื่อรักษาประโยชน์ในการจับปลา ไม่เป็นการละเมิด
ผักตบชะวาอยู่ในหนองแห่งหนึ่ง จำเลยปิดกั้นที่หนองอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหนองเอกชน เพื่อป้องกันมิให้ผักตบชะวา ในหนองแห่งแรก ไหลเข้าหนองที่จำเลยปิดกั้น ถ้าจำเลยไม่ทำอย่างนี้ผักตกชะวาจะเป็นอุปสรรคไม่ให้การจับปลา ในหนองที่จำเลยปิดกั้นลุล่วง ย่อมถือว่าจำเลยรักษาประโยชน์ในหนองที่ปิดกั้น จึงมีสิทธิจะปิดกั้น และการใช้สิทธิ ของจำเลยนี้เพื่อประโยขน์การงานของจำเลยโดยตรงการกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสีย หายแก่ผู้อื่น จึงไม่เป็นการละเมิด./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการปิดกั้นทางน้ำเพื่อประโยชน์การงาน: การกระทำไม่ถือเป็นการละเมิดหากมีเหตุผลและความจำเป็น
ผักตบชะวาอยู่ในหนองแห่งหนึ่ง จำเลยปิดกั้นที่หนองอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นหนองเอกชน เพื่อป้องกันมิให้ผักตบชะวาในหนองแห่งแรก ไหลเข้าหนองที่จำเลยปิดกั้น ถ้าจำเลยไม่ทำอย่างนี้ผักตบชะวาจะเป็นอุปสรรคไม่ให้การจับปลาในหนองที่จำเลยปิดกั้นลุล่วง ย่อมถือว่าจำเลยรักษาประโยชน์ในหนองที่ปิดกั้น จึงมีสิทธิจะปิดกั้น และการใช้สิทธิของจำเลยนี้เพื่อประโยชน์การงานของจำเลยโดยตรง การกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่ผู้อื่น จึงไม่เป็นการละเมิด