คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753-754/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ห้องเช่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แม้มีการค้าเล็กน้อยยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเขาโดยผู้เช่าตลอดทั้งครอบครัว ได้อาศัยหลับนอนทำครัวหุงหาอาหารกินอยู่ในห้องเช่านั้น ส่วนตัวผู้เช่า ทำการขายทองรูปพรรณ์และกาแฟเป็นการค้าเล็กๆน้อยๆ ดังนี้ ถือว่า ผู้เช่าใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วน ใหญ่ ไม่ใช้อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้า จึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753-754/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ห้องเช่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แม้มีการค้าเล็กน้อย ยังคงได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องเขาโดยผู้เช่าตลอดทั้งครอบครัว ได้อาศัยหลับนอนทำครัวหุงหาอาหารกินอยู่ในห้องเช่านั้นส่วนตัวผู้เช่าทำการขายทองรูปพรรณและกาแฟเป็นการค้าเล็กๆ น้อยๆ ดังนี้ถือว่า ผู้เช่าใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้าจึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์ ถือเป็นที่สุดตามกฎหมาย ไม่สามารถฎีกาได้
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้น เมื่อ ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่ สุดตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 236 คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการรับหรือไม่รับอุทธรณ์เป็นที่สุด ห้ามฎีกา
ในกรณีที่คู่ความยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236คู่ความจะฎีกาต่อไปมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องทำร้ายร่างกาย: ศาลใช้บทบัญญัติมาตรา 258 แม้ฟ้องไม่ระบุ หากพิจารณาได้ความจริง
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า "จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้า
วิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 - 2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสา หัส จำเลยที่ 3 -4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1 - 2 ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.
ลักษณะอาญามาตรา 254, 256, นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 258 ด้วย แม้ ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ตรงตามมาตราที่ใช้ลงโทษ
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า 'จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1-2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสาหัสจำเลยที่ 3-4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1-2ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ' ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา254,256 นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 258 ด้วย แม้ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้บุตรโดยมีข้อแลกเปลี่ยนเงินตรา ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หา จึงไม่สามารถเพิกถอนได้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตร แต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่น บุตร จึงหา เงินตามจำนวนั้นให้มารดาไป แต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้มารดาจึงทำโอนยกที่นา นั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปี มารดาก็ไม่ได้ให้ดอกเบี้ย แก่บุตรเลย ดังนี้ ไม่เป็นการกู้จริงจัง วินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณ ไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินโดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนเงิน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หาจึงไม่อยู่ในข้อยกเว้นการเพิกถอนการให้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตรแต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่นบุตร จึงหาเงินตามจำนวนนั้นให้มารดาไปแต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้ มารดาจึงทำโอนยกที่นานั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปีมารดาก็ไ่ได้ให้ดอกเบี้ยแก่บุตรเลย ดังนี้ไม่เป็นการกู้จริงจังวินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรโดยเสน่หาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกายด้วยความสมัครใจ ไม่อ้างป้องกันหรือยั่วโทสะได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้น จะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ ผู้กระทำไม่อ้างป้องกันหรือถูกยั่วยุได้
ทุกคนที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้นจะอ้างว่าทำโดยป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
of 324