คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เลขวณิชธรรมวิทักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความลักทรัพย์และการจำหน่ายคดี: ผลกระทบต่อการฟ้องคดีอาญา
จำเลยถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 288,293 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องจำเลยฎีกา เมื่อยื่นฎีกาแล้ว จำเลยหลบหนีไปศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดีแล้ว จำเลยหลบหนีไปเกิน 5 ปีซึ่งเป็นกำหนดเวลาเกินกว่าอายุความที่จะฟ้องร้องแล้วนั้น คดีย่อมขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีอาญาและการจำหน่ายคดี: เมื่อจำเลยหลบหนีและพ้นกำหนดอายุความ
จำเลยถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 288, 293 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องจำเลยฎีกา เมื่อยื่นฎีกาแล้ว จำเลยหลบหนีไป ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี แล้ว จำเลยหลบหนีไปเกิน 5 าปี ซึ่งเป็นกำหนดเวลาเกินกว่าอายุความที่จะฟ้องร้องแล้วนั้น คดีย่อมขาดอายุความ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การยิงเพื่อป้องกันการทำร้ายซ้ำหลังถูกทำร้ายก่อน
จำเลยเป็นพี่ชายผู้ตายร่วมบิดามารดากัน เกิดทะเลาะโต้เถียงเรื่องนวดข้าว แล้วจำเลยเอาไม้คันฉายจะตีผู้ตาย ๆ แย่งไม้ได้ จำเลยผละวิ่งหนี แต่ล้มลงผู้ตายไล่ทัน จึงเอาไม้ตีเอา 2 ที มารดาเข้าห้ามฉุดเอาผู้ตายถอยห่างออกมาได้ 2 วา ผู้ตายก็สะบัดหลุดจากมารดา ถือไม้เงื้อตรงเข้าจะตีซ้ำเติมจำเลย ซึ่งขณะนั้นกำลังจะลุกขึ้น จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดติด ๆ กัน ถูกผู้ตายที่ชายโครงและไต้ตา ผู้ตายล้มลงขาดใจตายทันที ดังนี้ เป็ฯการกระ ทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
จำเลยเป็นพี่ชายผู้ตายร่วมบิดามารดากัน เกิดทะเลาะโต้เถียงเรื่องนวดข้าว แล้วจำเลยเอาไม้คันฉายจะตีผู้ตายผู้ตายแย่งไม้ได้จำเลยผละวิ่งหนี แต่ล้มลงผู้ตายไล่ทัน จึงเอาไม้ตีเอา 2 ที มารดาเข้าห้ามฉุดเอาผู้ตายถอยห่างออกมาได้ 2 วาผู้ตายก็สะบัดหลุดจากมารดา ถือไม้เงื้อตรงเข้าจะตีซ้ำเติมจำเลยซึ่งขณะนั้นกำลังจะลุกขึ้นจำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย2 นัดติดๆกัน ถูกผู้ตายที่ชายโครงและใต้ตา ผู้ตายล้มลงขาดใจตายทันทีดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขาย: สิทธิของผู้ซื้อยังไม่เกิดจนกว่าจะโอนทรัพย์ ผู้ซื้อจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกคืนหรือห้ามเกี่ยวข้องกับทรัพย์
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและบ้านเรือนกัน ผู้ขายมอบที่ดินและบ้านเรือนให้ผู้ซื้อครอบครองไปพลางก่อน จนกว่าจะได้ไปโอนกันภายหลังนั้น ผู้ซื้อยังไม่มีสิทธิในทรัพย์ที่จะซื้อขายกันนั้น ผู้ซื้อเพียงมีสิทธิตามสัญญาจะซื้อขาย อันเป็นสิทธิเหนือบุคคลผู้เป็นคู่สัญญาและทายาทของเขา ฉะนั้นเมื่อมีคนเข้ามารื้อเรือนเอาไป และร้องขอให้อำเภอขายที่ดินนั้นโดยอ้างว่า เขาเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้าของที่ดินนั้น ผู้ซื้อจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องให้เขาคืนทรัพย์หรือ ห้ามมิให้เขาเกี่ยวข้องกับทรัพย์รายพิพาทนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดก: สิทธิการรับมรดกของบุตรนอกกฎหมายและข้อจำกัดในการเปลี่ยนแปลงคำให้การ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนพิพาท ซึ่งเป็นของผู้ตายตกเป็นมรดกแก่โจทก์ ผู้เป็นป้า.
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลย แต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้ จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลย ดังนี้ วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง.
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่ม เติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตาย,ตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การ เดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งและการเปลี่ยนแปลงคำให้การในคดีมรดก: ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม และไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงคำให้การขัดแย้งกับเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนพิพาท ซึ่งเป็นของผู้ตายตกเป็นมรดกแก่โจทก์ ผู้เป็นป้า
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลยแต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลยดังนี้วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่มเติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตายตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การเดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการใช้ดุลยพินิจลดโทษปรับในความผิด พ.ร.บ.ฝิ่น ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา
ความผิดตาม พ.ร.บ. ฝิ่น ซึ่งบัญญัติโทษไว้ทั้งจำคุกและปรับนั้น ถ้าไม่ใช่กรณีเรื่องเพิ่มโทษตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 68 แล้ว ก็ตกอยู่ภายในบทบัญญัติของมาตรา 11, 23 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา คือเมื่อศาลเห็นสมควร จะยกโทษปรับเสีย,ให้จำเลยรับโทษจำคุกแต่สถานเดียวก็ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการยกโทษปรับในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หากไม่ใช่การเพิ่มโทษ
ความผิดตาม พระราชบัญญัติ ฝิ่น ซึ่งบัญญัติโทษไว้ทั้งจำคุกและปรับนั้น ถ้าไม่ใช่กรณีเรื่องเพิ่มโทษตาม พระราชบัญญัติฝิ่นพ.ศ.2472 มาตรา 68แล้วก็ตกอยู่ภายในบทบัญญัติของมาตรา 11,23 แห่ง กฎหมายลักษณะอาญา คือเมื่อศาลเห็นสมควรจะยกโทษปรับเสียให้จำเลยรับโทษจำคุกแต่สถานเดียวก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา การระบุเวลาในความผิดยักยอกทรัพย์ไม่จำเป็นต้องระบุวันเวลาที่แน่นอน
ฟ้องว่าเมื่อ 2487 จำเลยรับมอบไม้ของผู้เสียหาย ให้รักษาไว้ต่อมาวันใดเวลาใดไม่ปรากฏ ใน พ.ศ.2492ผู้เสียหายได้รับไม้คืนไปทั้งจำเลยคงรับมอบหมายให้รักษาไว้ต่อไปอีก 2 ท่อนตั้งแต่จำเลยรับมอบหมายไม้สองท่อนไว้ถึง 28 สิงหาคม 2494 เวลาใดไม่ปรากฏจำเลยบังอาจเอาไม้สักทั้ง 2 ท่อนนั้นไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเองฯลฯ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314ฯลฯ ดังนี้ไม่เคลือบคลุม
of 324