พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,237 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยประมาทและทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาโทษจากพฤติการณ์เมาสุราและวัยรุ่น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 252 โดยให้จำคุก 2 ปี ปรับ 400 บาท ลดฐานปราณีกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี ปรับ 200 บาทโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 3 ปี ลดฐานปราณีกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือนไม่รอการลงอาญา ดังนี้ ถือว่าแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และการพิจารณาการรอการลงอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 252 โดยให้จำคุก 2 ปี ปรับ 400 บาท ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี ปรับ 200 บาทโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก3 ปี ลดฐานปรานีกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือนไม่รอการลงอาญา ดังนี้ ถือว่าแก้มากคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสิ้นสุดแล้วจำเลยยังอยู่ต่อ ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ แม้จะคิดเป็นอัตราค่าเช่าเดิม
ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าโดยอ้างว่าสัญญาเช่าสิ้นสุดลง ได้บอกกล่าวให้ออกจากห้องเช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออก จึงขอให้บังคับให้จำเลยออก และให้เสียค่าเช่าจนกว่าจะออกดังนี้ แม้จะถือว่าสัญญาเช่าเลิกกันแล้ว การที่จำเลยอยู่ต่อไปเป็นการละเมิด ผู้ให้เช่าต้องเรียกเป็นค่าเสียหาย ไม่ใช่ค่าเช่าก็ตาม แต่ตามฟ้องที่กล่าวก็พอถือได้ว่า ผู้ให้เช่าเรียกเอาค่าเสียหายเท่าในอัตราค่าเช่านั้นเอง ศาลย่อมพิพากษาให้ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเลิกแล้วแต่จำเลยยังอยู่ ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ แม้ฟ้องเรียกค่าเช่า
ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าโดยอ้างว่าสัญญาเช่าสิ้นสุดลง ได้บอกกล่าวให้ออกจากห้องเช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออก จึงขอให้บังคับให้จำเลยออก และให้เสียค่าเช่าจนกว่าจะออก ดังนี้ แม้จะถือว่าสัญญาเช่าเลิกกันแล้ว การที่จำเลยอยู่ต่อไปเป็นการละเมิดผู้ให้เช่าต้องเรียกเป็นค่าเสียหาย ไม่ใช่ค่าเช่าก็ตาม แต่ตามฟ้องที่กล่าวก็พอถือได้ว่า ผู้ให้เช่าเรียกเอาค่าเสียหายเท่าในอัตราค่าเช่านั้นเอง ศาลย่อมพิพากษาให้ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น: ข้อจำกัดในการฎีกา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ 7000 บาทจากจำเลยที่ 1 และอ้างว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 เพื่อฉ้อโจทก์ จึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินกู้ 7000 บาทแก่โจทก์ส่วนข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ยกเสีย โจทก์อุทธรณ์ในข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนอีกดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกาในประเด็นเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายหลังศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ 7,000 บาทจากจำเลยที่ 1 และอ้างว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 เพื่อฉ้อโจทก์ จึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายด้วยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินกู้ 7,000 บาทแก่โจทก์ส่วนข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ยกเสียโจทก์อุทธรณ์ในข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนอีก ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีระหว่างบุตรกับมารดาแทนบุพพการี ขัดต่อหลักกฎหมาย
บิดาฟ้องมารดาเป็นจำเลย หาว่าร้องเรียนเท็จแจ้งความเท็จ ระหว่างพิจารณาบิดาตาย บุตรจึงร้องขอรับมรดกความแทนบิดาดังนี้ ก็นับได้ว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้ฟ้องบุพพการีของตน ต้องด้วยข้อห้ามตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1534
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องร้องระหว่างบุตรกับบิดามารดา: ข้อห้ามผู้ฟ้องแทนบุพการี
บิดาฟ้องมารดาเป็นจำเลย หาว่าร้องเรียนเท็จแจ้งความเท็จระหว่างพิจารณาบิดาตาย บุตรจึงร้องขอรับมรดกความแทนบิดาดังนี้ นับได้ว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้ฟ้องบุพการีของตนต้องด้วยข้อห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับเงินสินบนนำจับ: ผู้นำจับมีสิทธิรับเองหรือมอบฉันทะ แต่ห้ามอัยการรับแทนโดยไม่มีฉันทะ
เงินค่าสินบนนำจับในคดีผิด พระราชบัญญัติการพนันนั้น ศาลพิพากษาให้แก่ผู้นำจับ ฉะนั้น ผู้นำจับมีสิทธิที่จะมารับเองหรือมอบฉันทะให้โจทก์หรือผู้ใดมารับแทนก็ได้ แต่อัยการโจทก์จะมาขอรับโดยลำพังตนเองโดยมิได้มีการมอบฉันทะจากผู้นำจับหาได้ไม่ เทียบได้กับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับเงินสินบนนำจับ: เงินสินบนเป็นของผู้นำจับ โจทก์ไม่มีอำนาจรับแทน
เงินค่าสินบนนำจับในคดีผิด พ.ร.บ.การพนันนั้น ศาลพิพากษาให้แก่ผู้นำจับ ฉะนั้นผู้นำจับมีสิทธิที่จะมารับเองหรือมอบฉันทะให้โจทก์หรือผู้ใดมารับแทนก็ได้ แต่อัยการโจทก์จะมาขอรับโดยลำพังตนเองโดยมิได้มีการมอบฉันทะจากผู้นำจับหาได้ไม่ เทียบได้กับ ป.ม.วิ.อาญามาตรา 43