พบผลลัพธ์ทั้งหมด 904 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทนายที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ทนายความ ม.12(2) (แบ่งส่วนจากทรัพย์พิพาท) เป็นโมฆะ และไม่สามารถเรียกร้องค่าจ้างได้
สัญญาจ้างว่าตามตกลงกันว่าเมื่อเรียกร้องเงินแสนบาท จะไห้ค่าจ้างสองหมื่นถือเปนหลักคำนวนตามมากน้อยตามส่วนที่จะได้ดังนี้ถือว่าเปนข้อสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์ที่พิพาทขัดต่อ พ.ร.บ.ทนายความ ม. 12(2) ย่อมเปนโมคะ และจะฟ้องเรียกค่าจ้างตามสมควนไม่ได้ด้วย
พ.ร.บ. ทนายความ ม. 12(2) นั้นแยกได้เปน 2 กรนี คือปลูกความโดยหามูลมิได้หย่าง 1 และแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์พิพาทอีกหย่างหนึ่งและทั้งสองหย่างนี้เปนเรื่องขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
สัญญาจ้างว่าความตกลงกันว่าค่าทนายที่สาลตัดสินไห้ ยอมไห้เปนของทนายไนกรนีถอนฟ้องฯลฯ ดังนี้ ถ้าไม่ได้ถอนฟ้องทนายจะฟ้องไม่ได้.
พ.ร.บ. ทนายความ ม. 12(2) นั้นแยกได้เปน 2 กรนี คือปลูกความโดยหามูลมิได้หย่าง 1 และแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์พิพาทอีกหย่างหนึ่งและทั้งสองหย่างนี้เปนเรื่องขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
สัญญาจ้างว่าความตกลงกันว่าค่าทนายที่สาลตัดสินไห้ ยอมไห้เปนของทนายไนกรนีถอนฟ้องฯลฯ ดังนี้ ถ้าไม่ได้ถอนฟ้องทนายจะฟ้องไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทนายที่แบ่งส่วนจากทรัพย์พิพาท หรือผูกพันผลค่าทนายกับผลคดี เป็นโมฆะ
สัญญาจ้างว่าความตกลงกันว่าเมื่อเรียกร้องเงินแสนบาท จะให้ค่าจ้างสองหมื่นถือเป็นหลักคำนวณตามมากน้อยตามส่วนที่จะได้ ดังนี้ถือว่าเป็นข้อสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์ที่พิพาทขัดต่อ พ.ร.บ.ทนายความ มาตรา 12(2) ย่อมเป็นโมฆะและจะฟ้องเรียกค่าจ้างตามสมควรไม่ได้ด้วย พ.ร.บ.ทนายความมาตรา 12(2) นั้นแยกได้เป็น 2 กรณีคือปลูกความโดยหามูลมิได้อย่างหนึ่งและแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์พิพาทอีกอย่างหนึ่งและทั้งสองอย่างนี้เป็นเรื่องขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน สัญญาจ้างว่าความตกลงกันว่าค่าทนายที่ศาลตัดสินให้ ยอมให้เป็นของทนายในกรณีถอนฟ้องฯลฯ ดังนี้ถ้าไม่ได้ถอนฟ้องทนายจะฟ้องเรียกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แปลงหนี้ใหม่-ผ่อนเวลาชำระหนี้: ผลกระทบต่อผู้ค้ำประกัน
ซื้อเชื่อโคต่อกัน แล้วมาทำเป็นสัญญารับใช้หนี้ ถือว่าเป็นแปลงหนี้ใหม่ เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดนั้น ไม่ถือว่าเป็นการผ่อนเวลาชำระหนี้ให้ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่และการฟ้องค้ำประกันภายในอายุความ การไม่ฟ้องภายในกำหนดไม่ถือเป็นการผ่อนเวลา
ซื้อเชื่อโคต่อกัน แล้วมาทำเปนสัญญา+ ถือว่าเปนแปลงหนีไหม่
เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดนั้น ไม่ถือว่าเปนการอ่อนเวลาชำระหนี้ไห้ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้น.
เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดนั้น ไม่ถือว่าเปนการอ่อนเวลาชำระหนี้ไห้ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 854/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพ.ร.บ.ภาษีชั้นใน: สุราที่ซื้อจากรัฐบาลไม่ถือเป็นความผิด
กรณีที่จะเป็นความผิดตาม มาตรา 8 พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม2476 นั้น ต้องเป็นสุราที่มาจากต่างประเทศหรือสุราที่ทำขึ้นผิดต่อกฎหมายภาษีชั้นใน แต่ถ้าได้ความว่าจำเลยซื้อน้ำสุราของรัฐบาล ก็ไม่ผิดตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.ฝิ่น: ผู้รับใบอนุญาต vs. ผู้จัดการร้าน และการรับสารภาพเฉพาะเจาะจง
ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น 2472 มาตรา 22,58 มุ่งเอาผิดเฉพาะแต่ผู้รับใบอนุญาตตั้งร้านฝิ่น หาได้หมายถึงผู้จัดการร้านฝิ่นด้วยไม่ ผู้ฝ่าฝืนตาม มาตรา 14 พ.ร.บ.ฝิ่น 2472 นั้นย่อมหมายเฉพาะผู้สูบฝิ่นเท่านั้น ฟ้องว่ามีฝิ่นและมูลฝิ่น จำเลยให้การรับโดยระบุถึงฝิ่นอย่างเดียวดังนี้ จะถือว่าจำเลยรับถึงมูลฝิ่นด้วยไม่ได้ ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้จัดการร้านฝิ่นตาม พ.ร.บ.ฝิ่น: การพิสูจน์ความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่น
ตาม พ.ร.บ. ฝิ่น 2472 ม. 22,58 มุ่งเอาผิดฉเพาะแต่ผู้รับไบอนุญาตตั้งร้านฝิ่น หาได้หมายจึงผู้จัดการร้านฝิ่นด้วยไม่
ผู้ฝ่าฝืนตาม ม. 14พ.ร.บ.ฝิ่น 2472 นั้นย่อมหมายฉเพาะผู้สูบฝิ่นเท่านั้น
ฟ้องว่ามีฝิ่นและมูลฝิ่น จำเลยไห้การรับโดยระบุถึงฝิ่นหย่างเดียวดังนี้ จะถือว่าจำเลยรับถึงมูลฝิ่นด้วยไม่ได้.
ผู้ฝ่าฝืนตาม ม. 14พ.ร.บ.ฝิ่น 2472 นั้นย่อมหมายฉเพาะผู้สูบฝิ่นเท่านั้น
ฟ้องว่ามีฝิ่นและมูลฝิ่น จำเลยไห้การรับโดยระบุถึงฝิ่นหย่างเดียวดังนี้ จะถือว่าจำเลยรับถึงมูลฝิ่นด้วยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ไม่จำเป็นต้องระบุข้อหาและคำให้การ
ฟ้องอุธรน์ ไม่จำต้องกล่าวถึงข้อหาและคำไห้การเพราะไม่มีกดหมายบัญญัติบังคับไว้เช่นนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอุทธรณ์ไม่จำต้องกล่าวถึงข้อหาและคำให้การตามกฎหมาย
ฟ้องอุทธรณ์ ไม่จำต้องกล่าวถึงข้อหาและคำให้การ เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติบังคับไว้เช่นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสงวนอาชีพสำหรับคนไทย: การค้าทั่วไปกับการรับจ้างขายไม่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ. ช่วยอาชีพฯ
คนต่างด้าวขายน้ำมันยางและ+ตนเองมิได้ประกอบอาชีพรับ+บุคคลไดขาย ยังไม่ผิดตาม พ.ร.บ.ช่วยอาชีพฯ 2485.