พบผลลัพธ์ทั้งหมด 904 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว ห้ามยื่นดีกาใหม่ แม้คดียังไม่ถึงที่สุด
คดีที่สาลดีกาได้พิพากสาเส็ดเด็ดขาดไปแล้ว คู่ความจะยื่นดีกาไหม่อีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวหาเท็จทำให้ถูกกักขัง ไม่ถึงขั้นความผิดตามมาตรา 270
จำเลยแกล้งกล่าวหาว่าโจทก์ทำผิดทางอาญาด้วยความเท็จเป็นเหตุให้โจทก์ถูกเจ้าพนักงานกักขังไว้นั้น จำเลยไม่มีความผิดตาม มาตรา 270
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและการกักขัง: จำเลยไม่ต้องรับผิดหากเจ้าพนักงานตำรวจใช้ดุลพินิจกักขัง
จำเลยแกล้งกล่าวหาว่าทำผิดทางอาญาด้วยความเท็ดเปนเหตุไห้โจทถูกเจ้าพนักงานกักขังไว้นั้น จำเลยไม่มีความผิดตาม ม.270
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบ หากไม่คัดค้านข้อผิดพลาดของศาลอุทธรณ์
ศาลล่างวางโทษให้กักกันจำเลยตาม พระราชบัญญัติกักกันจำเลยฎีกา แต่ไม่ได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าคลาดเคลื่อนข้อใดอย่างไรย่อมเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยมาตรา 193 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดีคาคัดค้านคำพิพากษาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎหมายกักกันผู้ร้าย
สาลล่างวางโทสไห้กักกันจำเลยตามพ.ร.บ.กักกัน จำเลยดีกา แต่ไม่ได้ดีกาคัดค้านคำพิพากสาสาลอุธรน์ว่าคลาดเคลื่อนข้อไดหย่างไรย่อมเปนการดีกาที่ไม่ชอบด้วย ม.193 ป.ว.อ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องรับรองบุตร และหลักฐานการยินยอม
อายุความ 1 ปีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1522 ใช้บังคับสำหรับในกรณีที่ฝ่ายชายผู้เป็นสามีจะฟ้องความตามมาตรา 1520
ฟ้องขอให้รับรองบุตร โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้องว่ามีหนังสือเป็นหลักฐานตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1529(2) และโจทก์นำสืบถึงหนังสือนั้นได้
หนังสือที่จำเลยทำให้โจทก์รับจะเลี้ยงดูโจทก์ย่อมเป็นหลักฐานโดยปริยายแล้วว่า จำเลยทราบแน่ว่าบุตรในครรภ์นั้นเป็นบุตรอันเกิดแต่จำเลย จำเลย จึงยินยอมทำหนังสือรับเลี้ยงดู
ฟ้องขอให้รับรองบุตร โจทก์ไม่จำต้องกล่าวในฟ้องว่ามีหนังสือเป็นหลักฐานตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1529(2) และโจทก์นำสืบถึงหนังสือนั้นได้
หนังสือที่จำเลยทำให้โจทก์รับจะเลี้ยงดูโจทก์ย่อมเป็นหลักฐานโดยปริยายแล้วว่า จำเลยทราบแน่ว่าบุตรในครรภ์นั้นเป็นบุตรอันเกิดแต่จำเลย จำเลย จึงยินยอมทำหนังสือรับเลี้ยงดู
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องรับรองบุตร, หลักฐานหนังสือรับรอง, เจตนาการรับรองบุตร
อายุความ 1 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1522 ไช้บังคับสำหรับไนกรนีที่ฝ่ายชายผู้เปนสามีจะฟ้องความตามมาตรา 1520.
ฟ้องขอไห้รับรองบุตร โจทไม่จำต้องกล่าวไนฟ้องว่ามีหนังสือเปนหลักถานตามที่บัญญัติไว้ไนมาตรา 1529 (2) และโจทนำสืบถึงหนังสือนั้นได้.
หนังสือที่จำเลยทำไห้โจทรับจะเลี้ยงดูโจทย่อมเปนหลักถานโดยปริยายแล้วว่า จำเลยซาบแน่ว่าบุตรไนครรภ์นั้นเปนบุตรอันเกิดแต่จำเลย ๆ จึงยินยอมทำหนังสือรับเลี้ยงดู.
ฟ้องขอไห้รับรองบุตร โจทไม่จำต้องกล่าวไนฟ้องว่ามีหนังสือเปนหลักถานตามที่บัญญัติไว้ไนมาตรา 1529 (2) และโจทนำสืบถึงหนังสือนั้นได้.
หนังสือที่จำเลยทำไห้โจทรับจะเลี้ยงดูโจทย่อมเปนหลักถานโดยปริยายแล้วว่า จำเลยซาบแน่ว่าบุตรไนครรภ์นั้นเปนบุตรอันเกิดแต่จำเลย ๆ จึงยินยอมทำหนังสือรับเลี้ยงดู.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15-18/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงาน, การตีความข้อกล่าวหา, และหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สินของโรงเรียน
แม้ว่าฟ้องโจทจะไม่ได้กล่าวว่าโรงเรียนประชาบาลบาเจาะ 1 เปนโรงเรียนประชาบาลที่ทางอำเพอจัดตั้ง แต่ฟ้องโจทได้กล่าวแล้วว่าจำเลยได้รับราชการเปนสึกสาธิการมีหน้าที่ดูแลรักสาเก็บผลประโยชน์รายได้ของโรงเรียนนั้นก็พอคีความได้ว่า โรงเรียนนั้นเปนของอำเพอบาเจาะ,
ฟ้องโจทว่าจำเลยกะทำผิดเวลากลางวัน แม้คำพยานโจทไม่ปรากตว่าจำเลยกะทำผิดเวลากลางวัน แต่มิได้โต้เถียงกันมาเรื่องเวลา ต้องฟ้องว่าจำเลยกะทำผิดไนเวลากลางวัน.
ฟ้องโจทว่าจำเลยกะทำผิดเวลากลางวัน แม้คำพยานโจทไม่ปรากตว่าจำเลยกะทำผิดเวลากลางวัน แต่มิได้โต้เถียงกันมาเรื่องเวลา ต้องฟ้องว่าจำเลยกะทำผิดไนเวลากลางวัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15-18/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความข้อเท็จจริงจากฟ้องโจทก์: โรงเรียนของอำเภอและการกระทำผิดเวลากลางวัน
แม้ว่าฟ้องโจทก์จะไม่ได้กล่าวว่าโรงเรียนประชาบาลบาเจาะ1 เป็นโรงเรียนประชาบาลที่ทางอำเภอจัดตั้ง แต่ฟ้องโจทก์ได้กล่าวแล้วว่าจำเลยรับราชการเป็นศึกษาธิการมีหน้าที่ดูแลรักษาเก็บผลประโยชน์รายได้ของโรงเรียนนั้น ก็พอตีความได้ว่า โรงเรียนนั้นเป็นของอำเภอบาเจาะ
ฟ้องโจทก์ว่าจำเลยกระทำผิดเวลากลางวัน แม้คำพยานโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำผิดเวลากลางวัน แต่มิได้โต้เถียงกันมาเรื่องเวลา ต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดในเวลากลางวัน
ฟ้องโจทก์ว่าจำเลยกระทำผิดเวลากลางวัน แม้คำพยานโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำผิดเวลากลางวัน แต่มิได้โต้เถียงกันมาเรื่องเวลา ต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดในเวลากลางวัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ - การต่อสู้คดีเรื่องกรรมสิทธิ์ - การสืบพยานนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่วัด จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทไม่ใช่ของวัดหรือของพระครูโสร์ แต่เป็นของจำเลยเช่นนี้ ไม่ถือว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยอ้างกรรมสิทธิ์ การที่โจทก์สืบพยานว่าที่เป็นของวัดและวัดได้มาอย่างไรนั้นเป็นการสืบไม่นอกฟ้องนอกประเด็นแต่อย่างใด
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยอ้างกรรมสิทธิ์ การที่โจทก์สืบพยานว่าที่เป็นของวัดและวัดได้มาอย่างไรนั้นเป็นการสืบไม่นอกฟ้องนอกประเด็นแต่อย่างใด