พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเติมข้อความในเอกสารอนุญาตทำไม้ไม่ทำให้โจทเสียหาย จึงไม่มีสิทธิฟ้องร้องฐานปลอมแปลงเอกสาร
เติมข้อความลงไนไบอนุญาตทำไม้ซึ่งอำเพอออกไห้แล้วนำมาอ้างเปนพยานไนคดีแพ่งซึ่งตนถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากการเติมข้อความไม่ทำไห้เสียหายแก่คดีของโจทซึ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายนั้นหย่างไรแล้ว โจทย่อมไม่มีอำนาดฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือเพราะไม่เปนผู้เสียหายตามวิธีพิจารนาความอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ประเด็นการป้องกันตัว, ยั่วโทสะ, และเจตนาฆ่า
พรึติการน์ที่ถือว่าเปนการป้องกัน ยั่วโทสะ และไม่มีเจตนาค่าไห้ตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัว/บันดาลโทสะ: การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้ตายดื่มสุราอยู่ด้วยกันบนเรือน ผู้ตายชวนจำเลยไปที่ถนนจำเลยไม่ไปผู้ตายชักมีดขู่ทำท่าจะแทงจำเลย จำเลยจึงตบหน้าผู้ตายแล้ววิ่งหนีไปที่ชานเรือนผู้ตายไล่แทงจำเลยถูกที่สะบักซ้ายโลหิตไหลโทรมตัว จำเลยเอาชะแลงตีผู้ตาย 1 ทีที่โคนหน้าผากล้มลงผู้ตายหนีลงจากเรือน จำเลยถือชะแลงกระโดดตามไปตีผู้ตายด้วยชะแลงอีก 2 ทีและจะตีอีกแต่มีผู้ห้ามไว้จึงหยุด ผู้ตายอยู่ได้ 6 วันจึงตาย เห็นว่าเหตุเกิดตอนบนเรือนนั้นจำเลยทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิดอาญา ตอนทำร้ายผู้ตายข้างล่างเนื่องมาจากการที่ผู้ตายแทงจำเลยเป็นการยั่วโทสะจำเลยลงมาตีในทันใดยังไม่มีเจตนาฆ่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้เขาถึงแก่ความตายโดยอ้างเหตุบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบกระทำผิด: การพิพากษาจำเลยที่ 3 ไม่เกี่ยวข้องกับคดีหลัก
ศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษจำเลยทั้งสามคน จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยที่ 3 ไม่ได้สมคบกับจำเลยทั้งสอง แม้จะมิได้อุทธรณ์ก็เป็นเหตุในลักษณะคดี จึงให้ปล่อยจำเลยที่ 3 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริง จำเลยที่ 3 จะได้สมคบกับพวกกระทำผิดหรือไม่เป็นปัญหาส่วนตัวของจำเลยที่ 3 หาได้เป็นเหตุในลักษณะคดีแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดลักทรัพย์: ศาลพิจารณาความเกี่ยวข้องของจำเลยที่ 3 แม้มิได้อุทธรณ์
สาลชั้นต้นตัดสินลงโทสจำเลยทั้งสามคน + สาลอุธรน์แก้ว่าจำเลยที่ 3 ไม่ได้สมคบกับจำเลยทั้งสองแม้จะมิได้อุธรน์ก็เปนเหตุไนลักสนะคดี จึงไห้ปล่อยจำเลยที่ 3 สาลดีกาวินิฉัยว่าได้มีการกะทำผิดเกิดขึ้นจิง จำเลยที่ 3 จะได้สมคบกับพวกกะทำผิดหรือไม่เปนปัญหาส่วนตัวของจำเลยที่ 3 หาได้เปนเหตุไนลักสนะคดีแต่หย่างไดไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดทางอาญา: การจับปลาในที่ห่างไกล ยังไม่ถือเป็นความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดวันที่ 15 มีนาคม 2486 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดแต่ปีแล้งที่แล้วย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้ เพียงแต่ถือสุ่มมาเพื่อจะจับปลา ยังห่างน้ำเพียงหนึ่งวาเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำการจับปลาไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานจับปลาโดยมิได้รับอนุญาต แม้จะเตรียมอุปกรณ์แต่ยังไม่ได้ลงมือกระทำ
โจทฟ้องว่าจำเลยกะทำผิดวันที่ 15 มี.ค.2486 ทางพิจารนาได้ความว่าจำเลยกะทำผิดแต่ปีแล้งที่แล้วย่อมลงโทสจำเลยไม่ได้.
เพียงแต่ถือสุ่มมาเพื่อจะจับปลา ยังห่างน้ำเพียงหนึ่งวาเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กะทำการจับปลา ไม่มีความผิด.
เพียงแต่ถือสุ่มมาเพื่อจะจับปลา ยังห่างน้ำเพียงหนึ่งวาเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กะทำการจับปลา ไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ: อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานและขอบเขตความรับผิดของเสมียน
เสมียนแผนกมหาดไทยประจำอำเภอได้รับมอบหมายจากนายอำเภอผู้เป็นนายทะเบียนปืนให้เป็นผู้กรอกรายการตามแบบฟอร์มใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนเพื่อเสนอนายอำเภอลงนามเช่นนี้ นายอำเภอเป็นเจ้าพนักงานซึ่งมีหน้าที่ทำตามตำแหน่งในเรื่องอาวุธปืนนั้น หากเสมียนดังกล่าวแล้วปลอมใบอนุญาตอาวุธปืนย่อมมีผิดตามมาตรา 224 ไม่มีผิดตามมาตรา 229
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัว: สิทธิการฟ้องของผู้รับประกันเมื่อผู้ต้องหาไม่มาตามนัด ศาลตัดสินว่าเป็นการฟ้องเรียกร้องหนี้ส่วนตัว
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อนายตำหรวดนั้น นายตำหรวดหามีสิทธิฟ้องผู้รับประกันเปนส่วนตัวไม่.
ฟ้องของโจทระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์ โจท เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนหยู่ หมู่ที่ 2 +ขอยื่นฟ้องนายพามจำเลยและไนรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันไห้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งไห้พนักงานอัยการเปนทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทเปนคำฟ้องส่วนตัว หาไช่ของทางราชการแต่หย่างได้ไม่.
ฟ้องของโจทระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์ โจท เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนหยู่ หมู่ที่ 2 +ขอยื่นฟ้องนายพามจำเลยและไนรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันไห้แก่โจทซึ่งเปนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำหรวดภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งไห้พนักงานอัยการเปนทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทเปนคำฟ้องส่วนตัว หาไช่ของทางราชการแต่หย่างได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัว: สิทธิฟ้องของนายตำรวจกับผู้รับประกันเป็นสิทธิส่วนตัว ไม่ใช่สิทธิของทางราชการ
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อนายตำรวจนั้น นายตำรวจหามีสิทธิฟ้องผู้รับประกันเป็นส่วนตัวไม่ ฟ้องของโจทก์ระบุว่า พ.ต.ต.สงวน ตันสถิตย์โจทก์เกิดปีมะแม อายุ 35 ปี ตั้งบ้านเรือนอยู่หมู่ที่ 2 ฯลฯ ขอยื่นฟ้องนายพรมจำเลยและในรายละเอียดของฟ้องได้กล่าวว่า จำเลยได้ทำสัญญาประกันให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระตะบองและท้ายฟ้องว่าได้แต่งตั้งให้พนักงานอัยการเป็นทนายความว่าต่าง เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์เป็นคำฟ้องส่วนตัว หาใช่ของทางราชการแต่อย่างใดไม่