พบผลลัพธ์ทั้งหมด 698 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1781/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีข่มขืนชำเรา แม้ผู้เสียหายไม่สามารถเบิกความได้โดยตรง แต่จากคำให้การชั้นสอบสวน พยานแวดล้อม และคำรับสารภาพ
ผู้เสียหายในคดีข่มขืนชำเราให้การไว้ในชั้นสอบสวน แต่โจทก์นำมาเบิกความในชั้นศาลไม่ได้เพราะไปจากบ้านหาตัวไม่พบ ศาลรับฟังประกอบกับพยานโจทก์และคำรับของจำเลยชั้นสอบสวนลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1702/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังเอกสารหลักฐานในคำร้องขอคืนทรัพย์สินที่ถูกริบ ศาลไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดมาตรา 238 หากไม่ใช่พยานหลักฐานพิสูจน์ความผิด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226 แสดงให้เห็นว่าบทบัญญัติในภาค 5 มุ่งหมายที่จะใช้แก่พยานหลักฐานซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีความผิดหรือบริสุทธิ์ แต่ถ้าเป็นเรื่องบุคคลภายนอกมาร้องขอให้ศาลสั่งคืนทรัพย์สินที่ศาลได้สั่งริบไปแล้วให้แก่ผู้ร้อง ไม่จำต้องนำบทบัญญัติมาตรา 238 มาใช้บังคับโดยเคร่งครัด ผู้ร้องได้แนบภาพถ่ายหนังสือรับรองมาท้ายคำร้อง โจทก์มิได้คัดค้านประการใด การที่ผู้ร้องมิได้ส่งต้นฉบับหนังสือรับรอง จึงไม่เป็นการขัดต่อกระบวนพิจารณาความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนในคดีข่มขืน: จำเป็นต้องมีพยานเบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันความผิด
ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเบิกความ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ซึ่งจะรับฟังประกอบได้ก็แต่เพียงว่าผู้เสียหายได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนเช่นนั้นจริง แต่ความจริงจะเป็นอย่างไรในชั้นศาลโจทก์จะต้องมีพยานมาเบิกความต่อศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงเมื่อชั้นศาลโจทก์ไม่มีพยานมาเบิกความว่าจำเลยได้กระทำผิดโดยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เช่นนี้ เพียงแต่คำให้การชั้นสอบสวนจึงยังฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ (อ้างฎีกา165/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่เกิดจากการถูกหลอกลวง และพยานซัดทอดเพื่อปกป้องตนเอง ไม่มีน้ำหนักในการลงโทษ
คนร้ายใช้ปืนของกลางยิงฆ่าคน แล้วนำมาฝาก ผ.ไว้ผ.นำมามอบให้ตำรวจ คำเบิกความของ ส.เจ้าของปืนว่าได้ขายปืนให้จำเลยแล้ว มีลักษณะเป็นคำซัดทอดเพื่อให้ตนเองพ้นผิดซึ่งไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส.ว่าถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส.จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส.ว่าถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส.จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน การซัดทอดเพื่อพ้นผิด และคำรับสารภาพที่เกิดจากการจูงใจ
คนร้ายใช้ปืนของกลางยิงฆ่าคน แล้วนำมาฝาก ผ.ไว้ ผ.นำมามอบให้ตำรวจคำเบิกความของ ส. เจ้าของปืนว่าได้ขายปืนให้จำเลยแล้ว มีลักษณะเป็นคำซัดทอดเพื่อให้ตนเองพ้นผิด ซึ่งไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส. ว่า ถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส. จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดการจูงใจ มีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของ ส. ว่า ถ้ารับสารภาพแล้วจะได้ปืนคืน และ ส. จะไปจัดการโอนทะเบียนให้ด้วย เป็นคำรับสารภาพที่เกิดการจูงใจ มีคำมั่นสัญญาหลอกลวงโดยมิชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานมาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 333/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต้องมีแผนการเตรียมการ ไม่ใช่แค่มีสาเหตุโกรธแค้น
เพียงแต่จำเลยมีสาเหตุโกรธผู้ตาย ถือไม่ได้ว่าฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเมื่อไม่ได้ความว่าวางแผนเตรียมการฆ่ามาก่อน
จำเลยถูกจับ ปฏิเสธต่อตำรวจว่าไม่ใช่ชื่อที่จำเลยใช้ ตำรวจค้นได้บัตรประจำตัว จำเลยจึงรับว่าชื่อดังในบัตร ศาลรับฟังส่อพิรุธของจำเลย
จำเลยถูกจับ ปฏิเสธต่อตำรวจว่าไม่ใช่ชื่อที่จำเลยใช้ ตำรวจค้นได้บัตรประจำตัว จำเลยจึงรับว่าชื่อดังในบัตร ศาลรับฟังส่อพิรุธของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา: การพิจารณาโทษและเอกสารประกอบ
การวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา193 ทวิ หรือไม่ต้องพิจารณาความผิดแต่ละกระทง แม้ความผิดในกระทงนั้นมีความผิดหลายบทรวมอยู่ด้วย ถ้าบทหนักไม่ต้องห้าม ศาลก็ต้องถือว่าทุกบทไม่ต้องห้าม
เอกสารที่นำสืบเป็นพยาน ไม่มีบังคับว่าต้องนำผู้ทำเอกสารมาสืบประกอบ
เอกสารที่นำสืบเป็นพยาน ไม่มีบังคับว่าต้องนำผู้ทำเอกสารมาสืบประกอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2653/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานทาง косвенный (Indirect evidence) ยังไม่พอฟังว่าจำเลยร่วมกระทำผิด ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
ลำพังคำให้การของพยานโจทก์ในชั้นสอบสวนยังไม่เป็นหลักฐาน พอให้ศาลรับฟังลงโทษจำเลยได้
คำให้การซัดทอดของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในชั้นสอบสวนว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยนั้น จะใช้ยันเพื่อลงโทษจำเลยที่ 1 หาได้ไม่
คำให้การซัดทอดของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในชั้นสอบสวนว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยนั้น จะใช้ยันเพื่อลงโทษจำเลยที่ 1 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานประกอบการลงโทษอาญา: คำบอกเล่าผู้ตาย, คำรับสารภาพ, พยานบุคคลที่ไม่อาจเบิกความต่อศาล
คำบอกเล่าของผู้ตายซึ่งรู้ตัวว่าตนจะถึงแก่ความตาย ระบุตัวผู้ที่ทำร้ายตนคำของผู้ตายเช่นนี้จึงมีน้ำหนักรับฟังได้
คำให้การชั้นสอบสวนของพยานโจทก์โดยลำพังไม่อาจรับฟังลงโทษจำเลยได้เท่านั้น แต่ยังใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
แม้โจทก์ไม่สามารถนำประจักษ์พยานซึ่งรู้เห็นขณะจำเลยแทงทำร้ายผู้ตายมาเบิกความต่อศาลได้ เพราะพยานย้ายไปเสียจากภูมิลำเนาสืบหาที่อยู่ไม่พบก็ตาม แต่ศาลก็รับฟังคำให้การในชั้นสอบสวนของประจักษ์พยานโจทก์ดังกล่าวประกอบคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลย และคำของผู้ตายซึ่งรู้ตัวว่าใกล้จะตายและระบุว่าจำเลยเป็นผู้แทงทำร้ายผู้ตาย ลงโทษจำเลยได้
คำให้การชั้นสอบสวนของพยานโจทก์โดยลำพังไม่อาจรับฟังลงโทษจำเลยได้เท่านั้น แต่ยังใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
แม้โจทก์ไม่สามารถนำประจักษ์พยานซึ่งรู้เห็นขณะจำเลยแทงทำร้ายผู้ตายมาเบิกความต่อศาลได้ เพราะพยานย้ายไปเสียจากภูมิลำเนาสืบหาที่อยู่ไม่พบก็ตาม แต่ศาลก็รับฟังคำให้การในชั้นสอบสวนของประจักษ์พยานโจทก์ดังกล่าวประกอบคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลย และคำของผู้ตายซึ่งรู้ตัวว่าใกล้จะตายและระบุว่าจำเลยเป็นผู้แทงทำร้ายผู้ตาย ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าและชิงทรัพย์ ครอบครัวถูกทำร้ายทารุณ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ขณะเกิดเหตุที่โรงงานผู้ตายมีคนอยู่ด้วยกันเพียง 5 คนคือผู้ตายทั้งสามนาย ส.และจำเลย แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าใครเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตายทั้งสามและชิงทรัพย์ผู้ตายก็ตาม แต่ตามข้อเท็จจริงและพยานแวดล้อมกรณี รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดด้วย ศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้
จำเลยฆ่าผู้ตายคราวเดียว 3 คน คือ นาย ย.นางพ. และเด็กชาย น. นาง พ. เป็นหญิงมีครรภ์ถูกทำร้ายถึง 10 แห่ง ถึงแก่ความตายเนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกร้าว เลือดออกในสมอง และจากบาดแผลถูกแทง เด็กชาย น. อายุเพียง 1 ปี 6 เดือน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกสมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรง นาย ย.เป็นสามีนางพ. และเป็นบิดาเด็กชาย น. มีบาดแผลถึง 5 แห่ง เป็นการฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว มีลักษณะกระทำทารุณโหดร้าย
จำเลยฆ่าผู้ตายคราวเดียว 3 คน คือ นาย ย.นางพ. และเด็กชาย น. นาง พ. เป็นหญิงมีครรภ์ถูกทำร้ายถึง 10 แห่ง ถึงแก่ความตายเนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกร้าว เลือดออกในสมอง และจากบาดแผลถูกแทง เด็กชาย น. อายุเพียง 1 ปี 6 เดือน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกสมองได้รับกระทบกระเทือนอย่างแรง นาย ย.เป็นสามีนางพ. และเป็นบิดาเด็กชาย น. มีบาดแผลถึง 5 แห่ง เป็นการฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว มีลักษณะกระทำทารุณโหดร้าย