พบผลลัพธ์ทั้งหมด 163 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914-1915/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบกันลักทรัพย์และต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ถือเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโคและกระบือของผู้เสียหายถูกลักไปในคืนเกิดเหตุทั้งสองแห่ง เมื่อผู้เลี้ยงต่างเห็นผู้ร้ายพาโคกระบือไปห่างบ้านตนคนละประมาณ 3 เส้น และ 2 เส้นเศษต่างก็ไปแจ้งผู้เสียหายทันที และผู้เสียหายก็ไปแจ้งตำรวจทันที ตำรวจแยกเป็น 2 ทางตามรอยโคกระบือไปเป็นเวลาประมาณ 7 ชั่วโมงจนไปพบปะผู้ร้ายและโคกระบือคนละตำบลกับที่เกิดเหตุก็ดี และแม้ผู้ร้ายจะกระจัดกระจายจนโคกระบือข้ามแม่น้ำไปบ้างแล้วก็ดี การลักทรัพย์รายนี้ก็หายังได้ขาดตอนจากกันไม่
เมื่อผู้ร้ายมี5 คน 3 คนแรกวิ่งไปทางกลางเกาะอีก 2 คนวิ่งตามไปติด ๆ กัน แล้วอีก 2 คนลงไปที่เรือชล่าที่จอดอยู่ ตอนเจ้าพนักงานบอกให้วางอาวุธเพราะได้ล้อมไว้แล้ว พวกผู้ร้ายกลับยิงปืนมาเป็นทำนองต่อสู้ขัดขวางเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ดังนี้การกระทำของจำเลยต้องด้วยลักษณะสมคบกันปล้นทรัพย์.
เมื่อผู้ร้ายมี5 คน 3 คนแรกวิ่งไปทางกลางเกาะอีก 2 คนวิ่งตามไปติด ๆ กัน แล้วอีก 2 คนลงไปที่เรือชล่าที่จอดอยู่ ตอนเจ้าพนักงานบอกให้วางอาวุธเพราะได้ล้อมไว้แล้ว พวกผู้ร้ายกลับยิงปืนมาเป็นทำนองต่อสู้ขัดขวางเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ดังนี้การกระทำของจำเลยต้องด้วยลักษณะสมคบกันปล้นทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการเรียกคืนเงินจากการถูกสลาก ไม่ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
การที่จำเลยสมคบกันใช้อาวุธและวาจาขู่เข็ญให้เจ้าทรัพย์จ่ายเงินค่าสลากกินรวบซึ่งจำเลยถูกสลากและเจ้าทรัพย์เป็นเจ้ามือนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยมุ่งหมายจะเอาทรัพย์ที่จำเลยเข้าใจว่าจำเลยควรจะได้ ไม่มีเ+ยยจิตต์จะสักทรัพย์ ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การสมคบร่วมกัน, การขู่ด้วยอาวุธ, และการมีพรรคพวกเตรียมการช่วยเหลือ
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งเข้าทำการชิงทรัพย์นอกจากนี้แล้วยังมีพรรคพวก ซึ่งมาด้วยกันแล้วหลบหนีไปด้วยกันอีก บรรดาพรรคพวกนั้นยืนคุมเชิงอยู่ในลักษณะเตรียมร่วมมือด้วยนับได้ว่าจำเลยได้สมคบกับพวกมีจำนวนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป จึงเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
พวกของจำเลยคนหนึ่งเข้าไปขอเงินเจ้าทรัพย์ ๆ ให้น้อย พวกจำเลยจึงหยิบเงินเอาเอง พวกเจ้าทรัพย์เข้าแย่งเงินหล่นลงที่พื้น จำเลยง้างมีดทำท่าจะแทงถือได้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว
พวกของจำเลยคนหนึ่งเข้าไปขอเงินเจ้าทรัพย์ ๆ ให้น้อย พวกจำเลยจึงหยิบเงินเอาเอง พวกเจ้าทรัพย์เข้าแย่งเงินหล่นลงที่พื้น จำเลยง้างมีดทำท่าจะแทงถือได้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขู่เข็ญด้วยอาวุธและการชิงทรัพย์ แม้ไม่ได้ขอในฟ้อง ศาลแก้ไขฐานความผิดได้
พวกจำเลยคนหนึ่งได้ชักวัตถุมีด้ามจากพุง ทำกริยาชักเข้าชักออก ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นมีดมีความกลัว แล้วพวกของจำเลยได้กระชากปากกาจากกระเป๋าเสื้อของผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายมิได้ขัดขวางอย่างใด ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย เพื่อจะเอาทรัพย์หรือให้ผู้เสียหายส่งทรัพย์ให้และพวกของจำเลยได้ดึงปากกาที่กระเป๋าของผู้เสียหายไป จึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไล่ติดตามและจับสัตว์ของผู้อื่นเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้ครอบครองต่อ
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยไล่ติดตามจับเอาโคของเจ้าทรัพย์ไปห่างจากทำเลที่เลี้ยงโคของเจ้าทรัพย์เพียง 5 เส้นเศษจำเลยไม่ได้รับโคไว้ต่อจากผู้อื่น จึงมีผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1213/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ ศาลลงโทษตามการกระทำได้ แม้ฟ้องในข้อหาปล้นทรัพย์ไม่เป็นผล
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์ และว่าในการปล้นจำเลยได้ใช้สาตราวุธตีและแทงผู้เสียหายคนหนึ่งโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จนผู้เสียหายคนนั้นตาย และตีและแทงทำร้ายผู้เสียหายอีกคนหนึ่งถึงบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 301,249,250 ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าไม่มีการปล้น แต่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาทซึ่งกันและกัน จำเลยบางคนแทงอีกฝ่ายหนึ่งถึงบาดเจ็บบ้าง ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยผู้ที่ทำร้ายเขาถึงตายและบาดเจ็บตามความผิดที่ตนได้กระทำไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการปล้นทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้ตายจากบาดทะยัก
จำเลยทั้งสามเข้าไปปล้นทำร้ายเจ้าทรัพย์ ต่อมาเจ้าทรัพย์ตาย เนื่องจากบาดแผลที่ถูกทำร้ายเป็นบาดทะยัก จำเลทั้งสามมีความผิดตามมาตรา 301 ตอนท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของสถานที่เกิดเหตุในฟ้องคดีอาญา หากรายละเอียดเพียงพอให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดที่ตำบลห้วยทราย อำเภอดอยสะเก็ด ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดที่ตำบลห้วยทราย แต่ห้วยทรายจะขึ้นอยู่ในท้องที่อำเภอใดแน่ ไม่ได้ความชัด ดังนี้ ไม่พอที่จะถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในการพิจารณา ต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องลงโทษจเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาจำกัดเฉพาะผู้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หากจำเลยหลบหนี โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา
คดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยฟัง โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยศาลต้องให้ยกฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189-190/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการลงโทษจำเลยตามคำฟ้อง: ตัวการ vs สมรู้ร่วมคิด
พฤตติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยเป็นตัวการปล้นทรัพย์
โจทก์ฟ้องบรรยายการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานสมรู้ในการปล้น และอ้างบทขอให้ลงโทษฐานสมรู้ ทางพิจารณาสามฟ้อง แม้จะได้ความต่อไปว่าจำเลยเป็นตัวการปล้นทรัพย์ด้วยก็ลงโทษฐานเป็นตัวการปล้นทรัพย์ไม่ได้ เพราะเกินคำขอ แต่ลงโทษฐานสมรู้ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานสมรู้ในการปล้น และอ้างบทขอให้ลงโทษฐานสมรู้ ทางพิจารณาสามฟ้อง แม้จะได้ความต่อไปว่าจำเลยเป็นตัวการปล้นทรัพย์ด้วยก็ลงโทษฐานเป็นตัวการปล้นทรัพย์ไม่ได้ เพราะเกินคำขอ แต่ลงโทษฐานสมรู้ได้