คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 458 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกัน ไม่มีอำนาจฟ้องคู่วิวาทได้
ผู้ที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายกัน จะมาเป็นโจทก์ฟ้องคู่วิวาทฐานทำร้ายร่างกายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา การระบุเวลาในความผิดยักยอกทรัพย์ไม่จำเป็นต้องระบุวันเวลาที่แน่นอน
ฟ้องว่าเมื่อ 2487 จำเลยรับมอบไม้ของผู้เสียหาย ให้รักษาไว้ต่อมาวันใดเวลาใดไม่ปรากฏ ใน พ.ศ.2492ผู้เสียหายได้รับไม้คืนไปทั้งจำเลยคงรับมอบหมายให้รักษาไว้ต่อไปอีก 2 ท่อนตั้งแต่จำเลยรับมอบหมายไม้สองท่อนไว้ถึง 28 สิงหาคม 2494 เวลาใดไม่ปรากฏจำเลยบังอาจเอาไม้สักทั้ง 2 ท่อนนั้นไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเองฯลฯ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314ฯลฯ ดังนี้ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพชั้นสอบสวนมีน้ำหนัก แม้พยานโจทก์มีข้อโต้แย้ง คดีลักทรัพย์มีหลักฐานประกอบเพียงพอ
คดีลักทรัพย์ ถ้าเพียงแต่กันผู้ต้องหาด้วยกันมาเป็นพยานโจทก์สองปาก คดีไม่มีน้ำหนักพอที่จะลงโทษจำเลยได้แต่ถ้าโจทก์มีเจ้าทรัพย์และพนักงานสอบสวนประกอบว่าจำเลยได้รับสารภาพชั้นสอบสวนโดยสมัครใจ ทั้งได้รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนต่อหน้าเจ้าทรัพย์ด้วยคดีก็ฟังลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดให้มีการเล่นพนันสลากกินรวบโดยอ้างอิงสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ถือว่าได้รับอนุญาต
ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันสลากกินรวบและจำเลยจัดการจำหน่าย ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเอาสลากมามอบให้ผู้อื่นจำหน่ายดังนี้ พอถือได้ว่าจำเลยมีส่วนเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันรายนั้นขึ้น โดยจัดการให้จำหน่ายเลขสลากนั้น มีนัยเดียวกับที่กล่าวในฟ้องนั่นเอง จะถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องยังไม่ได้
เล่นสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยถือเอาเลขท้ายสองตัวของเลขสลากฉะบับที่ได้รับรางวัลที่หนึ่งของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดหนึ่งนั้น เป็นแต่อาศัยเลขสลากกินแบ่งที่รัฐบาลออกเป็นเครื่องมือแทนการออกสลากกินรวบ ซึ่งเป็นการพนันที่ตนจัดให้มีขึ้น หาใช่เป็นการเล่นสลากกินแบ่งของรัฐบาลไมม่ฉะนั้นถ้าไม่ได้รับอนุญาติ ก็ต้องมีผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าว, การริบข้าวของกลาง, และการฟ้องที่ไม่ต้องระบุฐานะผู้ค้าข้าว
เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวมีอำนาจประกาศห้ามยักย้ายข้าวในเวลากลางคืนได้
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวในเวลากลางคืน ฟ้องไม่ต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่ (เพราะไม่ได้ห้ามเฉพาะผู้ทำการค้า)
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตาม มาตรา 21ทวิ โดยมาตรา 21ทวิ มีข้อความมุ่งให้ริบข้าวของกลางที่เกี่ยวกับความผิดในมาตราอื่นๆ ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายความผิดฐานลักทรัพย์-รับของโจร-ยักยอกทรัพย์
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าคนร้ายลักไป จับเรือได้จากจำเลยเป็นคนร้ายลักหรือรับเรือไว้โดยรู้ว่าเป็นของได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย หรือร้ายลักเรือแล้วทำหลุดออกมา จำเลยเก็บได้ แล้วนำไปซุกซ่อนไว้โดยมีเจตนาทุจริต ยักยอกไว้ไม่ทำตามกฎหมาย
พนักงานสอบสวนจำเลย จำเลยรับว่า เก็บเรือลอยน้ำได้ จึงขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์รับของโจร ยักยอก เก็บของตกดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา มาตรา 158 แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมคบกันเรียกรับเงินจากผู้ต้องหา แม้ผู้รับเงินไม่ใช่เจ้าพนักงานสอบสวน
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยที่ 1 เป็นพนักงานสอบสวน จำเลยที่ 2 เป็นตำรวจ ประจำกอง 2 ตำรวจสันติบาลสมคบกันทำผิดกฎหมาย โดยจำเลยที่ 1 เรียกเงินเป็นสินน้ำใจจากผู้ต้องหา ในการที่อุปการะแก่การที่จำเลยที่ 1 ให้คุณแก่ผู้ต้องหาตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้ไปรับเงินมาจากผู้ต้องหา มาเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยทั้ง 2 ดังนี้ แม้ศาลจะวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ไม่ใช่เจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนและถือว่า อยู่ในฐานะเสมือนราษฎร ทำผิดร่วมกับเจ้าพนักงาน ควรมีผิดเพียงฐานสมรู้เท่านั้นก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้ได้ ไม่เรียกว่า ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการตีความรัฐธรรมนูญและขอบเขตของกฎหมายที่ใช้ย้อนหลัง
รัฐธรรมนูญมาตรา 62 ซึ่งบัญญัติว่า สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งสิทธิเด็ดขาดในการตีความแห่งรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่เป็นข้อบัญญัติตัดอำนาจศาลที่จะตีความบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ศาลจึงมีอำนาจตีความบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญได้
ในการใช้หรือบังคับตามกฎหมายนั้น ศาลย่อมต้องแปลหรือตีความหมายของกฎหมาย หากไม่ให้ศาลแปล ศาลก็ย่อมใช้กฎหมายไม่ได้
รัฐธรรมนูญ มาตรา 14 มีข้อความรับรองถึงเสรีภาพของบุคคลในการต่างๆ ดังระบุไว้นั้น มีความหมายรับรองถึงเสรีภาพในการกระทำด้วย
คำว่ามีเสรีภาพบริบูรณ์ในร่างกายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 14นั้นมีความหมายว่า ไม่ให้ใครมาทำอะไรแก่เราและหมายถึงเราจะทำอะไรก็ได้ด้วย หากการนั้นอยู่ภายในบังคับของกฎหมาย
คำว่าภายในบังคับแห่งกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 14 นั้นหมายถึงว่าไม่มีกฎหมายห้ามไว้ โดยตรงหรือโดยอ้อม และหมายถึงบทกฎหมายที่มีอยู่ในเวลานั้น ไม่ใช่หมายถึงบทกฎหมายที่จะมีมาภายหน้า
กฎหมายใดบัญญัติย้อนหลัง ลงโทษการกระทำ การเขียนการพูดฯลฯ ที่แล้วมา ย่อมขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 14 กฎหมายนั้นย่อมตกเป็นโมฆะ จะใช้บังคับไม่ได้
พระราชบัญญัติอาชญากรสงครามเฉพาะที่บัญญัติย้อนหลังนั้น ย่อมขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 14 จึงเป็นโมฆะส่วนบทบัญญัติที่ว่าด้วยการกระทำหลังจากใช้พระราชบัญญัตินี้แล้ว เป็นอันใช้บังคับได้โดยสมบูรณ์
สภาผู้แทนราษฎรอาจออกกฎหมายย้อนหลังได้ต่อเมื่อกฎหมายที่ให้ย้อนหลังนั้น ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่นพระราชบัญญัติงบประมาณ
ศาลเป็นผู้มีอำนาจที่จะชี้ขาดกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าเป็นโมฆะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 61 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติอาชญากรสงครามอย่างเดียว เมื่อศาลเห็นว่า จะลงโทษตามพระราชบัญญัติอาชญากรสงครามไม่ได้แล้ว ก็ไม่ต้องพิจารณาว่า จำเลยจะมีความผิดตามกฎหมายอื่นหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบหมายให้เก็บทรัพย์สินและการยักยอกทรัพย์
แก้เอากระเป๋าเงินไปจากเอวเจ้าทรัพย์โดยบอกว่าจะเอาไปเก็บไว้ให้ เจ้าทรัพย์มิได้ว่ากระไรดังนี้ ถือว่าได้รับมอบหมายจากเจ้าทรัพย์ ถ้าเอาทรัพย์นั้นเสียโดยเจตนาทุจริต ย่อมมีผิดฐานยักยอก
ฟ้องว่าเจ้าทรัพย์ฝากเงินให้จำเลยเก็บรักษาไว้แทน แล้วจำเลยยักยอกทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปเองโดยบอกว่าจะเก็บรักษาไว้ให้เจ้าทรัพย์ไม่ว่ากระไรดังนี้ ย่อมถือได้ว่า จำเลยได้รับฝากทรัพย์ไว้ จึงไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาที่ไม่ระบุชื่อเจ้าพนักงาน และความจำเป็นในการระบุชื่อในฟ้อง
ฟ้องโจทไม่ได้ระบุชื่อเจ้าพนักงานผู้ซึ่งหาว่าจำเลยสแดงตนเปนคนสนิธชิดชอบเมื่อปรากตว่าจำเลยก็ไม่ได้ระบุชื่อเจ้าพนักงานแก่ผู้เสียหายเช่นนี้ ย่อมไม่เปนฟ้องเคลือบคลุม และโจทไม่ต้องระบุชื่อเจ้าพนักงานไนฟ้อง
of 46