พบผลลัพธ์ทั้งหมด 739 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลกำหนดค่าทนายความในคดีล้มละลาย
ในคดีล้มละลายศาลอาจมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมไว้ในคำพิพากษาว่าค่าทนายความในชั้นศาลของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ซึ่งผู้ล้มละลายจะต้องใช้แก่โจทก์นั้น ให้ใช้ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นควรกำหนดให้ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับไถ่ถอนการขายฝาก: ศาลตีราคาที่ดินเพื่อคำนวณค่าขึ้นศาลหลังคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝากที่ดิน ซึ่งโจทก์ขายฝากไว้กับจำเลยเป็นเงิน 5,000 บาท โดยเสียค่าขึ้นศาลในราคา 5,000 บาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องยืนกันมา โจทก์ฎีกาและยื่นคำร้องขอเสียค่าธรรมเนียมในอัตราทุนทรัพย์ 5,300 บาท ตามที่จำเลยให้การว่ารับซื้อฝากไว้ในราคานี้ ศาลชั้นต้นสั่งให้ตีราคาที่ดินแล้วให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลโดยคำนวณจากราคาที่ดิน 21,105 บาท ที่คู่ความตีราคาได้ เมื่อโจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามคำสั่งศาลแล้ว โจทก์ก็ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานภาษีโภคภัณฑ์: การลงบัญชีไม่ครบถ้วนกับไม่ทำบัญชี มีความแตกต่างกันทางโทษ
เจ้าหน้าที่สรรพากรได้มีคำสั่งบังคับให้โจทก์เสียภาษีโภคภัณฑ์และเงินเพิ่มจนถึงกับจะยึดทรัพย์โจทก์เพื่อเอาชำระค่าภาษีนั้น นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์แล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้องศาลได้
ประมวลรัษฎากร มาตรา 190 เป็นบทความผิดสำหรับผู้ค้าโภคภัณฑ์ที่มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินบัญชี ภ.ภ.11 คือลงบัญชีไว้ไม่ครบถ้วนส่วน มาตรา 197 เป็นบทความผิดผู้ที่ไม่ทำบัญชี ภ.ภ.11 หรือทำแล้วไม่เก็บบัญชีไว้ 5 ปี เป็นการแยกความผิดฐานลงบัญชีไม่ครบถ้วน กับการไม่ทำบัญชีเสียเลยให้มีโทษหนักเบาต่างกัน
โจทก์ได้สั่งโภคภัณฑ์เข้ามาเป็นคราวๆ และได้ลงบัญชีภ.ภ.11 แล้ว แต่คราวสุดท้ายไม่ลงบัญชีเลย ดังนี้ ไม่ใช่เรื่องลงบัญชีไม่ครบถ้วนอันเป็นเหตุให้มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินจากบัญชี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 190 แต่ต้องถือว่าไม่ได้ทำบัญชีตาม มาตรา 197 เจ้าพนักงานจึงเรียกเก็บภาษีและเงินเพิ่มจากโจทก์ไม่ได้
ประมวลรัษฎากร มาตรา 190 เป็นบทความผิดสำหรับผู้ค้าโภคภัณฑ์ที่มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินบัญชี ภ.ภ.11 คือลงบัญชีไว้ไม่ครบถ้วนส่วน มาตรา 197 เป็นบทความผิดผู้ที่ไม่ทำบัญชี ภ.ภ.11 หรือทำแล้วไม่เก็บบัญชีไว้ 5 ปี เป็นการแยกความผิดฐานลงบัญชีไม่ครบถ้วน กับการไม่ทำบัญชีเสียเลยให้มีโทษหนักเบาต่างกัน
โจทก์ได้สั่งโภคภัณฑ์เข้ามาเป็นคราวๆ และได้ลงบัญชีภ.ภ.11 แล้ว แต่คราวสุดท้ายไม่ลงบัญชีเลย ดังนี้ ไม่ใช่เรื่องลงบัญชีไม่ครบถ้วนอันเป็นเหตุให้มีโภคภัณฑ์ขาดหรือเกินจากบัญชี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 190 แต่ต้องถือว่าไม่ได้ทำบัญชีตาม มาตรา 197 เจ้าพนักงานจึงเรียกเก็บภาษีและเงินเพิ่มจากโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับคำสั่งศาลแล้ว ห้ามเรียกร้องสิทธิใหม่
การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยหนี้เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอย่างเจ้าหนี้ธรรมดาจนศาลมีคำสั่งอนุญาตโดยผู้ร้องไม่ได้โต้แย้งหรืออุทธรณ์นั้น ต้องถือว่าคำสั่งศาลยุติถึงที่สุดแล้วผู้ร้องจะมาร้องใหม่ว่า เป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษขอให้ได้รับชำระหนี้อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องในคดีสัญญากู้เงิน: เหตุผลการรับรองหนี้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญากู้เงินไป ก่อนจำเลยให้การโจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องว่า กรณีเดิมสามีและบุตรเขยจำเลยกู้เงินโจทก์แล้วจำเลยทำสัญญารับใช้หนี้ให้โจทก์ ดังนี้ แก้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(2) เพราะเป็นการอธิบายถึงสาเหตุที่จำเลยทำสัญญากู้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเนื้อที่ดินหลังคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่เป็นฟ้องซ้ำ จำเลยรับข้อเท็จจริงไม่ต้องพิสูจน์
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์ คดีถึงที่สุดโดยจำเลยยอมขายที่ดินให้โจทก์ แต่ต่อมาปรากฏว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยยอมขายให้โจทก์ ซึ่งว่ามี 59 ไร่เศษนั้น วัดได้เพียง 21 ไร่เศษโจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้ลดราคาที่ดินลงตามส่วน จึงเป็นคนละประเด็นกับที่พิพาทกันในคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยตกลงขายให้โจทก์มี 59 ไร่เศษ แต่เมื่อรังวัดแล้วมีเพียง21 ไร่เศษ จึงขอให้จำเลยลดราคาลงตามส่วน จำเลยมิได้ปฏิเสธความข้อนี้อย่างใด จึงต้องถือว่า จำเลยรับในข้อที่โจทก์อ้าง โดยโจทก์ไม่จำต้องนำสืบในข้อนี้
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยตกลงขายให้โจทก์มี 59 ไร่เศษ แต่เมื่อรังวัดแล้วมีเพียง21 ไร่เศษ จึงขอให้จำเลยลดราคาลงตามส่วน จำเลยมิได้ปฏิเสธความข้อนี้อย่างใด จึงต้องถือว่า จำเลยรับในข้อที่โจทก์อ้าง โดยโจทก์ไม่จำต้องนำสืบในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อัตราค่าทนายความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และการตกลงค่าจ้างทนายความ
อัตราค่าทนายความท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นอัตราสำหรับศาลจะพิพากษาให้คู่ความชดใช้แทนกันเท่านั้นส่วนการกำหนดจำนวนค่าจ้างว่าความย่อมเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และในกรณีที่ไม่ปรากฏการตกลงค่าจ้างกันโดยชัดแจ้งศาลก็กำหนดให้ตามที่เห็นสมควรแล้วแต่งานที่ทำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคัดค้านการจัดประเภทสินค้าเพื่อเสียภาษี โดยยังไม่มีการเรียกเก็บภาษี
โจทก์ฟ้องอ้างว่า โจทก์ได้สั่งสินค้าเครื่องอัดสำเนา'เทอร์โมแฟกส์' จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายโดยโจทก์เห็นว่ามิใช่เครื่องถ่ายภาพหรือเอกสารอันต้องเสียภาษีการซื้อโภคภัณฑ์ตามกฎหมาย โจทก์ได้มีหนังสือสอบถามไปยังกรมสรรพากร จำเลยๆ ได้แจ้งมายังโจทก์ว่าเครื่องอัดสำเนาดังกล่าวเป็นโภคภัณฑ์ประเภทที่ 5(ข) ซึ่งต้องเสียภาษีโภคภัณฑ์ตามประมวลรัษฎากร โจทก์ได้มีหนังสือทักท้วงจำเลยไปหลายครั้ง จำเลยก็คงยืนยันความเห็นเดิมโจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าเครื่องอัดสำเนาดังกล่าวไม่ใช่โภคภัณฑ์อันจะต้องเสียภาษีการซื้อโภคภัณฑ์ตามประมวลรัษฎากรดังนี้ ถือว่า ฟ้องเช่นนี้ไม่ได้ว่ามีมูลโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เพราะจำเลยยังมิได้เรียกเก็บหรือสั่งให้โจทก์เสียภาษี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงปากเปล่าเกี่ยวกับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการทำถนน ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสัญญากู้ สามารถนำสืบพยานได้และหักกลบลบหนี้ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขายที่ดินให้จำเลย จำเลยชำระราคายังไม่ครบเงินจำนวนที่ยังค้างอยู่นั้น โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ตามฟ้องให้โจทก์ไว้ โดยตกลงกันด้วยปากเปล่าว่าเมื่อจำเลยทำถนนในที่ดินนั้นแล้ว โจทก์จะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง จะคิดหักเงินให้เมื่อทำเสร็จแล้ว ต่อมาจำเลยทำถนนเสร็จแล้วเมื่อคิดหักเงินส่วนที่โจทก์จะต้องออกแล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์น้อยกว่าจำนวนที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ ข้อตกลงเช่นนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากสัญญากู้ จำเลยจึงนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 และหนี้ดังกล่าวก็อยู่ในลักษณะที่อาจหักกลบลบหนี้กันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ภาษีเกินกำหนด: ศาลไม่รับฟ้อง แม้มีคำวินิจฉัยเนื้อหา
เมื่อปรากฏว่า โจทก์ได้อุทธรณ์การประเมินภาษีของเจ้าพนักงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเกินกำหนด 15 วันแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งยกอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดแล้วแม้สั่งวินิจฉัยเนื้อหาที่อุทธรณ์มาด้วยก็ไม่ทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลรื้อการประเมินขึ้นโต้แย้งต่อไปได้
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.