พบผลลัพธ์ทั้งหมด 739 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิหักเงินเดือนชำระหนี้ - การหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้จากการยืมเงินที่มีข้อตกลง
โจทก์พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี ฟ้องบังคับให้เทศบาลจำเลยจ่ายเงินเดือน ฯลฯ ซึ่งโจทก์มีสิทธิจะได้รับจำเลยให้การและแถลงว่า การที่ไม่จ่ายเงินตามฟ้อง เพราะโจทก์ยังเป็นลูกหนี้จำเลยอยู่ตามใบยืมโดยมีข้อสัญญากันไว้ในการยืมเงินว่า ถ้าไม่ใช้ก็ยอมให้หักเงินเดือนหรือเงินอื่นใดของผู้ยืมใช้จนครบได้โจทก์แถลงว่าได้มีข้อสัญญาระบุความตกลงยินยอมไว้เช่นนั้นจริง แต่เถียงว่าได้ชำระแก่จำเลยหมดแล้วดังนี้ถ้าหากโจทก์ยังมีหนี้สินติดอยู่จริง ดังจำเลยต่อสู้ จำเลยย่อมมีสิทธิตามสัญญาที่จะหักเงินตามฟ้อง เพื่อชำระหนี้ได้ หาจำต้องฟ้องแย้งขอหักหนี้เข้ามาอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความโอนที่ดินมือเปล่าไม่ถือเป็นการส่งมอบการครอบครอง สิทธิยังอยู่กับเจ้าของเดิม
สามีจำเลยทำยอมความโอนที่ดินมือเปล่า ซึ่งจำเลยและสามีเป็นเจ้าของร่วมกันตีใช้หนี้ให้ผู้ร้อง โดยจะไปโอนทะเบียนให้ซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถือได้ว่ามีเจตนาเพียงจะสละการครอบครองเท่านั้น หากผู้ร้องยังมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นแล้ว ผู้ร้องก็ยังไม่ได้ที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองอย่างใด สิทธิครอบครองที่ดินนั้นยังอยู่กับจำเลยและสามีเจ้าหนี้อื่นของจำเลยมีสิทธิยึดที่ดินนั้นขายชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774-776/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่และรื้อถอน ขึ้นอยู่กับนิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ฟ้องกับผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินคนใหม่ จะฟ้องขับไล่และให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่มีผู้ปลูกไว้โดยได้รับอนุญาตจากผู้เช่าคนเดิมไม่ได้เพราะโจทก์กับผู้นั้นต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน และผู้นั้นก็มิได้ครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นและขอบเขตการนำสืบพยานในคดีล้มละลาย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ไม่ได้บังคับให้ศาลต้องวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามที่คู่ความขอทุกเรื่องถ้าศาลเห็นว่าการวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวไม่เป็นคุณแก่ผู้อ้างเลยคือเห็นว่าจำเป็นจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้ว จะสั่งให้รอไว้วินิจฉัยในคำพิพากษาก็ได้
เมื่อบรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ แล้วไม่ชำระและจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่มีทรัพย์สินที่จะชำระหนี้แก่โจทก์แล้วโจทก์นำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้คนอื่นอยู่อีกและยังไม่ชำระหนี้ดังนี้ เป็นการสืบในประเด็นว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่ใช่สืบนอกประเด็น
เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต้องประกอบด้วยเหตุใน พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 9 ส่วนมาตรา 8 เป็นเพียงข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ที่ไม่สามารถนำสืบให้ศาลเห็นได้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวโจทก์ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตาม มาตรา 8
เมื่อบรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ แล้วไม่ชำระและจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่มีทรัพย์สินที่จะชำระหนี้แก่โจทก์แล้วโจทก์นำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้คนอื่นอยู่อีกและยังไม่ชำระหนี้ดังนี้ เป็นการสืบในประเด็นว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่ใช่สืบนอกประเด็น
เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ต้องประกอบด้วยเหตุใน พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 9 ส่วนมาตรา 8 เป็นเพียงข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ที่ไม่สามารถนำสืบให้ศาลเห็นได้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวโจทก์ไม่จำต้องบรรยายมาในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตาม มาตรา 8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์สินของคู่สมรสเพื่อชำระหนี้ของอีกฝ่าย คู่สมรสไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีที่ตนเองไม่ได้เป็นจำเลย
โจทก์ยึดโฉนดที่ดินมีชื่อภริยาจำเลยเป็นเจ้าของอ้างว่าเป็นของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นที่ภริยาจำเลยเป็นจำเลยจะร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เข้ามาในคดีนี้ไม่ได้เพราะภริยาของจำเลยไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายฝากรวมส่วนควบ: สัญญาครอบคลุมส่วนควบโดยสภาพ สิทธิการอ้างตกลงเพิ่มเติมไม่มีผล
เมื่อหนังสือสัญญาระบุว่าขายฝากเรือนหลังหนึ่งก็ย่อมหมายความรวมถึงส่วนควบของเรือนหลังนี้ด้วยและเมื่อเรือนหลังเล็กเป็นส่วนควบของเรือนหลังใหญ่โดยสภาพของทรัพย์อยู่แล้วจะขอสืบพยานบุคคลว่าได้ตกลงกันไว้ก่อนขายว่าไม่ได้ขายหลังเล็กด้วยนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี: ระยะเวลาและเหตุผล
การที่คู่ความขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3) นั้น ต้องยื่นคำร้องพร้อมกับฟ้อง หรือคำให้การ หรือ ในเวลาใดๆ ก่อนมีคำพิพากษาโดยได้รับอนุญาตจากศาล เมื่อศาลเป็นที่พอใจว่าคำร้องไม่อาจยื่นก่อนนั้นได้ฉะนั้นเมื่อจำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อจำเลยให้การแล้วถึง 4 เดือน โดยไม่แสดงเหตุที่ไม่อาจร้องก่อนได้นั้น ศาลย่อมไม่อนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ไม่ครบถ้วน ถือเป็นการยุติสิทธิ โจทก์มิอาจรื้อฟื้นได้
คดีที่โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ข้อเดียวโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์คำสั่งแต่ประการใด ดังนี้ ต้องถือว่าข้ออุทธรณ์ข้ออื่นที่ศาลไม่สั่งรับนั้นยุติแล้วโจทก์จะรื้อฟื้นขึ้นมาฎีกาอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทการชำระหนี้ค่ากาแฟ ศาลต้องวินิจฉัยเพื่อยุติข้อโต้แย้ง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อกาแฟราคา 60 สตางค์ กินแล้วไม่ชำระราคาขอให้ศาลบังคับจำเลยให้การต่อสู้ว่าชำระแล้ว และแถลงขอวางเงินต่อศาล 1 บาท ทั้งนี้โดยไม่ยอมรับผิดตามฟ้องดังนี้ คดียังมีประเด็นที่โต้เถียงกันอยู่ว่า จำเลยได้ชำระหนี้แล้วหรือยังศาลจะต้องวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีตลอดจนค่าฤชาธรรมเนียมด้วยจะไม่วินิจฉัยให้ใครแพ้ใครชนะในประเด็นโดยเพียงแต่สั่งให้โจทก์รับเงินไปเท่านั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญากู้ใหม่ – ไม่ถือเป็นการแปลงหนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของหนี้เดิม
หนี้เงินกู้ ซึ่งทำหนังสือกู้กันใหม่ โดยรวมจำนวนเงินกู้ครั้งหลังเข้าไว้ด้วยนั้น มิใช่เป็นเรื่องแปลงหนี้ใหม่เพราะไม่มีการเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งหนี้แต่อย่างใด
บุคคลที่เป็นหนี้เงินกู้ต่อกัน อาจตกลงทำหนังสือกู้กันใหม่หรือนำเงินกู้รายก่อนๆ มารวมในหนังสือกู้ครั้งหลังได้และการนำสืบถึงที่มาแห่งหนี้ตามหนังสือสัญญากู้ฉบับหลังย่อมมิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารเพราะแม้นำสืบได้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขความรับผิดตามเอกสาร
ผู้กู้จะขอนำสืบว่า ผู้ให้กู้เอาจำนวนดอกเบี้ยเกินอัตรามารวมเป็นต้นเงินในสัญญากู้ได้ เพราะเป็นการนำสืบว่าหนี้อันเกิดจากดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น ไม่สมบูรณ์อย่างหนึ่ง
บุคคลที่เป็นหนี้เงินกู้ต่อกัน อาจตกลงทำหนังสือกู้กันใหม่หรือนำเงินกู้รายก่อนๆ มารวมในหนังสือกู้ครั้งหลังได้และการนำสืบถึงที่มาแห่งหนี้ตามหนังสือสัญญากู้ฉบับหลังย่อมมิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารเพราะแม้นำสืบได้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขความรับผิดตามเอกสาร
ผู้กู้จะขอนำสืบว่า ผู้ให้กู้เอาจำนวนดอกเบี้ยเกินอัตรามารวมเป็นต้นเงินในสัญญากู้ได้ เพราะเป็นการนำสืบว่าหนี้อันเกิดจากดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น ไม่สมบูรณ์อย่างหนึ่ง