พบผลลัพธ์ทั้งหมด 739 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบมอบอำนาจไม่ติดอากรตั้งแต่แรก ใช้เป็นหลักฐานได้หากติดอากรครบถ้วนในชั้นพิจารณา
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทน ซึ่งไม่ได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์มาแต่แรกนั้น เมื่อได้มีการปิดอากรแสตมป์ในชั้นพิจารณาครบถ้วนเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จก่อนสืบจำเลยแล้ว ย่อมใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้ไม่จำต้องเสียอากรเพิ่มตามมาตรา 113,114 แห่งประมวลรัษฎากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1095/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์สัญญาเงินกู้: การนำสืบพยานและการพิสูจน์การกู้จริง
ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างด้วยว่าสัญญากู้ระหว่างโจทก์กับจำเลยตามฟ้องของโจทก์นั้นทำขึ้นโดยสมยอมกัน มิใช่ทำขึ้นตามวันเวลาที่ลงไว้ในสัญญาแต่ทำปลอมขึ้นภายหลัง ศาลกำหนดให้ผู้ร้องนำสืบก่อน ผู้ร้องขาดนัดพิจารณาโจทก์นำพยานเข้าสืบฝ่ายเดียว แม้โจทก์ได้ส่งหนังสือสัญญากู้ต่อศาลโดยมิได้ส่งสำเนาให้ผู้ร้อง ก็ไม่เป็นเหตุให้ฟังไม่ได้ว่ามีการกู้กันจริง เพราะว่าตามความจริงโจทก์ก็ไม่จำต้องส่งสัญญากู้เป็นพยานในชั้นขัดทรัพย์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการสืบพยานและการขาดนัดพิจารณา: ศาลเลื่อนสืบพยานจำเลยก่อนแล้วจึงสืบพยานโจทก์
จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน เมื่อสืบพยานจำเลยบางคนแล้วศาลเลื่อนไปสืบพยานจำเลยต่อ ครั้นถึงวันนัดคู่ความขอเลื่อนคดี ศาลให้เลื่อนไปสืบพยาน 2 วันติดต่อกัน แต่จดรายงานพิจารณาไขว้เขวไปว่า "ให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์และจำเลยในวันที่ 16,17 เดือนหน้าเวลา 9.30 น. ตามที่ตกลงกัน" ดังนี้ ต้องหมายความว่า ให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยก่อนแล้วจึงสืบพยานโจทก์ต่อไป
ในกรณีดังกล่าว เมื่อถึงวันนัดสืบในวันที่ 16 จำเลยและโจทก์ไม่มาศาล โดยพยานจำเลยที่ขอหมายเรียกไว้มีถึง 9 คน ดังนี้ จะถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบด้วยไม่ได้ ชอบที่จะให้โจทก์สืบพยานต่อไป และไม่ถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา
ในกรณีดังกล่าว เมื่อถึงวันนัดสืบในวันที่ 16 จำเลยและโจทก์ไม่มาศาล โดยพยานจำเลยที่ขอหมายเรียกไว้มีถึง 9 คน ดังนี้ จะถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบด้วยไม่ได้ ชอบที่จะให้โจทก์สืบพยานต่อไป และไม่ถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดที่ดินกรรมสิทธิ์รวม: ศาลมีสิทธิขายทั้งแปลงหากไม่ตกลงแบ่ง
การยึดที่ดินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษากับผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์รวม โดยยังมิได้แบ่งกันเป็นส่วนสัดนั้น เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยึดได้ทั้งแปลงและศาลย่อมจะขายได้ทั้งแปลง เว้นแต่จะตกลงยินยอมกันให้ขายเฉพาะส่วนของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ เพราะแม้แต่ในระหว่างเจ้าของรวมด้วยกันเองเมื่อไม่ตกลงแบ่งกันเองได้ ก็ต้องขายทั้งแปลงเช่นเดียวกัน (ป.พ.พ. มาตรา 1364)
ฉะนั้นเจ้าของรวมจะยื่นคำร้องขอให้งดการขาย เพื่อไปแบ่งแยกกันเองเสียก่อน หรือขอให้ขายเฉพาะส่วนของลูกหนี้ไม่ได้ ในเมื่อโจทก์ยืนยันขอให้ขายทั้งแปลง
ฉะนั้นเจ้าของรวมจะยื่นคำร้องขอให้งดการขาย เพื่อไปแบ่งแยกกันเองเสียก่อน หรือขอให้ขายเฉพาะส่วนของลูกหนี้ไม่ได้ ในเมื่อโจทก์ยืนยันขอให้ขายทั้งแปลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์ของผู้ไม่เป็นคู่ความ: การยกประเด็นใหม่ในชั้นอุทธรณ์ขัดต่อหลักวิธีพิจารณา
โจทก์จำเลยทำสัญญายอมความต่อศาลว่า จำเลยยอมไปทำนิติกรรมโอนที่นาให้โจทก์ ศาลพิพากษาให้เป็นไปตามยอมแล้ว ผู้เป็นเจ้าของร่วมในที่นาที่จำเลยทำยอมโอนให้โจทก์ จะร้องสอดเข้ามาในคดีเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ในอายุความอุทธรณ์ เพื่อขอทำลายสัญญายอมความระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวไม่ได้ เพราะเหตุที่ผู้ร้องสอดยกขึ้นอุทธรณ์เป็นการตั้งประเด็นใหม่ ไม่ใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้นจึงขัดกับ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ: ผู้มีสิทธิและขอบเขต
ผู้ที่จะร้องขอต่อศาลเพื่อสั่งให้บุคคลใด เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา34 นั้นคือ ผู้ที่ระบุไว้ใน มาตรา 29 ซึ่งรวมทั้งผู้พิทักษ์ตามพฤตินัยของบุคคลที่ไม่สามารถจัดการงานของตนเองได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งให้ฟ้องคดีโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม (คนอนาถา) และการเพิกถอนคำสั่ง
ในกรณีที่ศาลอนุญาตให้โจทก์ฟ้องความอย่างคนอนาถาเมื่อในระหว่างพิจารณาปรากฏว่า โจทก์มีทรัพย์สินที่จะเสียค่าธรรมเนียมได้ ศาล ก็มีอำนาจสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียได้ คำสั่งเช่นนี้ถือเท่ากับศาลได้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้โจทก์ว่าความอย่างคนอนาถาเสียแล้ว โจทก์จึงต้องอุทธรณ์คำสั่งนี้ภายใน 7 วัน ตาม มาตรา 156 วรรคห้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดเหมืองไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษา ศาลอนุญาตให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
โจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให้เปิดเหมืองและใช้ค่าเสียหาย ศาลพิพากษาให้จำเลยเปิดเหมือง ส่วนค่าเสียหายให้ยกและศาลได้ออกหมายบังคับคดีไปแล้ว จำเลยเปิดเหมืองพอเป็นพิธีได้เดือนเศษก็ปิดเหมืองอีก ดังนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระดอกเบี้ยเงินกู้ - พยานบุคคลสืบได้ แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ
การชำระดอกเบี้ยเงินกู้นั้น แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดง ก็สืบพยานบุคคลแทนได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง
สัญญาจำนองเป็นเงิน 60,000 บาท จำเลยขอสืบว่าเวลาจำนองโจทก์จ่ายเงินให้เพียง 50,000 บาท หักเอาไว้เป็นดอกเบี้ยเสีย 10,000 บาท ดังนี้ จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ขัดต่อวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 แต่เป็นการนำสืบถึงการชำระดอกเบี้ย
สัญญาจำนองเป็นเงิน 60,000 บาท จำเลยขอสืบว่าเวลาจำนองโจทก์จ่ายเงินให้เพียง 50,000 บาท หักเอาไว้เป็นดอกเบี้ยเสีย 10,000 บาท ดังนี้ จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ขัดต่อวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 แต่เป็นการนำสืบถึงการชำระดอกเบี้ย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: สิทธิเรียกร้องเงินยืมทดรองเมื่อผลงานไม่ได้รับการอนุมัติ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบสร้างคานเรือ150,000 บาท จำเลยผ่อนชำระ 50,000 บาท ที่เหลือไม่ชำระ จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การว่าไม่ได้ว่าจ้างโจทก์ดังกล่าว แต่จำเลยใช้ให้โจทก์ออกแบบสร้างคานเรือในฐานะที่โจทก์เป็นลูกจ้างส่วนตัวของจำเลย ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ตกลงรับแบบการสร้างคานเรือของโจทก์จำเลยจะให้บำเหน็จรางวัลเป็นเงินโบนัสสิ้นปีแก่โจทก์ตามสมควร ส่วนเงิน 50,000 บาท นั้น จำเลยได้ให้แก่โจทก์ไปจริง คือให้โจทก์ยืมทดรองไปใช้ก่อน ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ โจทก์จะต้องคืนให้จำเลย บัดนี้ การท่าเรือกรุงเทพฯไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกเงิน 50,000 บาทคืนจากโจทก์ ดังนี้คำฟ้องแย้งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรง ศาลต้องรับคำฟ้องแย้งไว้ดำเนินการต่อไปตามกระบวนพิจารณา