พบผลลัพธ์ทั้งหมด 739 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาและการไม่ติดตามการสืบพยาน
วันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานเป็นวันแรกในคดีนั้น คู่ความฝ่ายใดไม่มาศาล ไม่ว่าตนจะมีหน้าที่นำพยานเข้าสืบหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นการขาดนัดพิจารณาตามความหมายแห่งกฎหมายแล้ว
การส่งประเด็นไปสืบพยานนั้น เป็นสิทธิของคู่ความที่จะตามประเด็นไปหรือไม่ก็ได้ ฉะนั้น แม้จะได้แถลงต่อศาลว่าจะตามประเด็นไป แต่แล้วต่อมามิได้ไปตามกำหนดนัดก็หาทำให้เป็นผู้ขาดนัดพิจารณาไม่
การส่งประเด็นไปสืบพยานนั้น เป็นสิทธิของคู่ความที่จะตามประเด็นไปหรือไม่ก็ได้ ฉะนั้น แม้จะได้แถลงต่อศาลว่าจะตามประเด็นไป แต่แล้วต่อมามิได้ไปตามกำหนดนัดก็หาทำให้เป็นผู้ขาดนัดพิจารณาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการบังคับตามสัญญาประนีประนอมหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด การเปลี่ยนแปลงแก้ไขต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
ทำสัญญาประนีประนอมแบ่งที่ดินมรดกแปลงหนึ่งออกเป็น 4 ส่วน ตามที่ตกลงปักหลักเขตแบ่งกันไว้ (ซึ่งได้จำนวนเนื้อที่ไม่เท่ากัน) แล้ว ต่อมาจำเลยไม่ยินยอมตามที่ตกลงกัน โจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้แบ่งตามสัญญา ศาลพิพากษาให้แบ่งเป็น 4 ส่วนเท่าๆ กัน คดีถึงที่สุดดังนี้ต่อมาศาลจะสั่งเปลี่ยนแก้ให้แบ่งตามที่ตกลงปักหลักกันตามสัญญาไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 143 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เอกสารมอบอำนาจ: ต้นฉบับสำคัญกว่าสำเนา
ต้นฉบับใบมอบอำนาจฟ้องคดีมีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ 2คนครบถ้วน แต่สำเนาที่ส่งแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้น ปรากฏว่าตกพยานไปคนหนึ่ง ดังนั้น ต้องถือต้นฉบับที่ยื่นต่อศาลเป็นสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดอุทธรณ์คดีแพ่งปนคดีอาญา: ใช้มาตรา 229 ป.วิ.พ.
ฟ้องคดีอาญาปนคดีแพ่ง ศาลยกฟ้องคดีส่วนอาญา แต่ให้โจทก์ชนะในส่วนแพ่ง ดังนี้ จำเลยยื่นอุทธรณ์ คดีส่วนแพ่งได้ในกำหนดหนึ่งเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 มิใช่กำหนด 15 วัน ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรับฟังพยานเดิมหลังศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาและสั่งพิจารณาใหม่
เดิมศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัด และให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ในการพิจารณาใหม่เช่นนี้ แม้โจทก์จะขาดนัดพิจารณาศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ที่ได้เคยสืบไว้แต่เดิมนั้นได้เพราะในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเรื่องพยานหลักฐานที่สืบมาก่อนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้มีประกันและการยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้กู้เงิน โดยลูกหนี้มอบโฉนดให้ยึดไว้เป็นประกันนั้นไม่มีสิทธิยึดหน่วง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 จึงไม่ใช่เจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 6 เมื่อลูกหนี้ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลายเจ้าหนี้จะยึ่นคำขอรับชำระหนี้เกิน 2 เดือนไม่ได้ ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 91
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยกคำขอ เจ้าหนี้จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเจ้าของคดีล้มละลาย เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งอย่างใดแล้วคู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ได้
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยกคำขอ เจ้าหนี้จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเจ้าของคดีล้มละลาย เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งอย่างใดแล้วคู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์และการวางประกันค่าฤชาธรรมเนียม: ผู้ร้องมีฐานะเสมือนโจทก์
ในกรณีที่โจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาใช้สิทธิบังคับคดีขอยึดทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้ ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องกล่าวอ้างว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของตนนั้นผู้ร้องขัดทรัพย์มีฐานะเสมือนเป็นโจทก์ ส่วนโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีฐานะเสมือนเป็นจำเลย ฉะนั้นผู้ร้องขัดทรัพย์จะร้องขอให้โจทก์เจ้าหนี้วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมฯลฯ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 253 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้นอกศาลและการบังคับคดี: จำเลยต้องพิสูจน์การชำระหนี้เอง
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา 6,250 บาท โจทก์นำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์จำเลยเพื่อขายทอดตลาด จำเลยร้องว่าได้ชำระหนี้แก่โจทก์นอกศาลแล้ว 5,250 บาท จะขอชำระส่วนที่ยังค้างและขอให้ศาลสั่งถอนการยึด โจทก์แถลงคัดค้านว่าได้รับเงินจากจำเลยนอกศาลเพียง 400 บาทเท่านั้นดังนี้ เมื่อโจทก์ปฏิเสธ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยต้องไปว่ากล่าวกับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก จะยกมาเป็นเหตุไม่ให้ศาลดำเนินการบังคับคดีต่อไปหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยขาดนัด – การพิจารณาคดีใหม่ – ผลกระทบต่อจำเลยแต่ละคน
ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปโดยจำเลยขาดนัด จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 จงใจขาดนัดส่วนจำเลยที่ 1 มิได้จงใจขาดนัด กรณีเช่นนี้จะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 59(1) มาปรับ เพื่อให้จำเลยที่ 2 ได้รับประโยชน์ด้วยกับจำเลยที่ 1 ไม่ได้ คดีต้องพิจารณาใหม่โดยให้จำเลยที่ 1 มีโอกาสให้การแต่จำเลยที่ 2 คงถือว่าขาดนัดยื่นคำให้การเช่นเดิม จำเลยที่ 2จะได้รับประโยชน์ในชั้นพิจารณาอย่างใดหรือไม่ ก็ต้องแล้วแต่รูปคดีเป็นอีกตอนหนึ่ง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งให้พิจารณาใหม่ ภายหลังเมื่อตัดสินแล้วไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งให้พิจารณาใหม่ ภายหลังเมื่อตัดสินแล้วไม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลายื่นคำให้การ: หลักการนับเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การนับระยะเวลายื่นคำให้การภายใน 8 วัน ตามที่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177,178 บัญญัติไว้นั้นต้องนับตามวิธีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158,160 บัญญัติไว้ คือไม่นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมคำนวณเข้าด้วยถ้าระยะเวลานั้นผ่อนออกไป ให้นับเอาวันซึ่งต่อจากวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเดิมนั้นเป็นวันต้นแห่งระยะเวลาซึ่งผ่อนออกไป
ศาลชั้นต้นสั่งในวันที่ 22 สิงหาคม 2503 ว่าให้ยึดเวลายื่นคำให้การไป 3 วัน จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การได้ในวันที่ 25 สิงหาคม 2503
ศาลชั้นต้นสั่งในวันที่ 22 สิงหาคม 2503 ว่าให้ยึดเวลายื่นคำให้การไป 3 วัน จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การได้ในวันที่ 25 สิงหาคม 2503