พบผลลัพธ์ทั้งหมด 615 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลสาหัสทำให้ไม่สามารถทำงานได้เกิน 20 วัน ถือเป็นบาดแผลสาหัสตามกฎหมาย
นับแต่วันที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายจนถึงวันเบิกความต่อศาลเป็นระยะเวลาถึง 95 วัน บาดแผลของผู้เสียหายยังไม่หายทำงานตามปกติยังไม่ได้บาดแผลถึงกระดูกข้อมือขาดรักษาประมาณ 2 เดือนจึงจะหาย เป็นบาดแผลที่ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเป็นเวลาเกินกว่า 20 วัน เป็นบาดแผลสาหัสตาม มาตรา 256(8) ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ตาม มาตรา 254 ศาลอุทธรณ์แก้เป็นจำคุก 3 ปี ตามมาตรา 256 เป็นการแก้มาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตอำนาจการสอบสวนคดีอาญา: อำเภอ vs. จังหวัด
เหตุเกิดที่อำเพอกันตัง ซึ่งหยู่ไนเขตจังหวัดตรัง ผู้บังคับกองตำหรวดจังหวัดตรังมีอำนาดทำการสอบสวนคดีเรื่องนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการสอบสวนคดีอาญา: ผู้บังคับกองตำรวจจังหวัดตรัง
เหตุเกิดที่อำเภอกันตัง ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดตรังผู้บังคับกองตำรวจจังหวัดตรังมีอำนาจทำการสอบสวนคดีเรื่องนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อโต้แย้งในคดีแพ่ง: โจทก์ไม่ต้องนำสืบในข้อที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่าลูกจ้างของจำเลยขับรถอันเป็นปกติธุระของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายโดยประมาทเลินเล่อ จำเลยต่อสู้ว่าการชนเกิดจากความผิดของฝ่ายโจทก์ ไม่ได้กล่าวว่าลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ทำการในทางการที่จ้าง ดังนี้ ย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้นั้นและโจทก์ไม่จำต้องนำสืบ ในคดีแพ่งโจทก์ไม่ต้องนำสืบในข้อที่ไม่มีประเด็นต้องโต้เถียงกันในคดีแพ่งนั้นคำให้การจำเลยต้องแสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการตัวแทนชำระหนี้แทน: สิทธิเรียกร้องเงินคืน
บอกให้เขาเอาเงินของเขาชำระหนี้แทนตนนั้น ไม่เข้าลักษณะกู้ยืมแต่เป็นเรื่องตัวการตัวแทน ผู้ออกเงินใช้หนี้ไป มาฟ้องเรียกเงินได้ โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้แทนผู้อื่นตามหลักตัวการตัวแทน ไม่เข้าข้อยกเว้นการกู้ยืมที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
+ไห้เขาเอาเงินของเขาชำระหนี้แทนตนนั้น ไม่เข้าลักสนะกู้ยืน แต่เปนเรื่องตัวการตัวแทน ผู้ออกเงินไช้หนี้ไป มาฟ้องเรียกได้ โดยไม่ต้องมีหลักถานเปนหนังสือ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานรับของโจรต้องมีการรับของร้ายจากผู้อื่น การครอบครองทรัพย์เพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานรับของโจรจะมีได้ต่อเมื่อมีการรับของร้ายไว้จากผู้หนึ่งผู้ใด ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่าทรัพย์อยู่ในความครอบครองของจำเลยแต่ไม่ได้ความว่าจำเลยร่วมคิดกับผู้อื่นลักทรัพย์นั้นมาหรือว่ามีผู้ที่ลักมาส่งทรัพย์นั้นให้จำเลย เช่นนี้จะลงโทษฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจรต้องมีตัวโจรและหลักฐานการส่งมอบทรัพย์สิน การครอบครองทรัพย์สินที่ตกหล่นเองไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดถานรับของโจรจะมีได้ต่อเมื่อมีการรับของร้ายไว้จากผู้หนึ่งผู้ได
ข้อเท็ดจิงฟังได้เพียงว่าทรัพย์หยู่ไนความครอบครองของจำเลยแต่ไม่ได้ความว่าจำเลยร่วมคิดกับผู้อื่นลักทรัพย์นั้นมาหรือว่ามีผู้ที่ลักมาส่งทรัพย์นั้นไห้จำเลย เช่นนี้จะลงโทสถานลักทรัพย์หรือรับของโจรไม่ได้.
ข้อเท็ดจิงฟังได้เพียงว่าทรัพย์หยู่ไนความครอบครองของจำเลยแต่ไม่ได้ความว่าจำเลยร่วมคิดกับผู้อื่นลักทรัพย์นั้นมาหรือว่ามีผู้ที่ลักมาส่งทรัพย์นั้นไห้จำเลย เช่นนี้จะลงโทสถานลักทรัพย์หรือรับของโจรไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องแบ่งมรดก: การฟ้องเพิ่มเติมหลัง 1 ปี ไม่ขาดอายุความเมื่อฟ้องเดิมทำให้อายุความหยุดนิ่ง
ฟ้องแบ่งมรดกพายไน 1 ปีแล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องเมื่อเกิน 1 ปีนับแต่เจ้ามรดกตายนั้น ไม่ถือว่าฟ้องเพิ่มเติมนั้นขาดอายุความ.
เมื่อฟ้องกันแล้วอายุความย่อมสดุดหยุดลง
เมื่อฟ้องกันแล้วอายุความย่อมสดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องแบ่งมรดก: การยื่นคำร้องเพิ่มเติมไม่ทำให้ขาดอายุความเมื่อมีการฟ้องไว้แล้ว
ฟ้องแบ่งมรดกภายใน 1 ปีแล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องเมื่อเกิน 1 ปีนับแต่เจ้ามรดกตายนั้น ไม่ถือว่าฟ้องเพิ่มเติมนั้นขาดอายุความ เมื่อฟ้องกันแล้วอายุความย่อมสดุดหยุดลง