พบผลลัพธ์ทั้งหมด 205 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5478/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรรอการลงโทษในคดีขับรถประมาทถึงแก่ความตาย แม้ชดใช้ค่าเสียหายหลังศาลตัดสิน
แม้จำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นบิดาของผู้ตาย ภายหลังจากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว ก็ยังถือได้ว่าเป็นเหตุอันควรปรานี ทั้งผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญาแก่จำเลย และจำเลยรับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตร จึงควรให้โอกาสจำเลยโดยลงโทษในสถานเบาและรอการลงโทษให้จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5467/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานละเว้นหน้าที่ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ ทำให้บัญชีไม่น่าเชื่อถือและเกิดความเสียหาย
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งสหกรณ์อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานการลงรายการในสมุดบัญชีบันทึกรายการชั้นต้น และการผ่านเข้าสมุดบันทึกรายการขั้นปลายของโจทก์ร่วมในแต่ละวันให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเสมอ ทั้งคณะกรรมการโจทก์ร่วมได้มีมติให้จำเลยมีอำนาจในการซื้อขายสินค้า รับชำระราคาและเก็บรักษาเงินของโจทก์ร่วมได้ แต่จำเลยไม่ได้ไปตรวจสอบหลักฐานการลงบัญชีเป็นประจำทุกวัน นาน ๆ จะไปตรวจสอบสักครั้งแล้วลงชื่อย้อนหลัง ทำให้บัญชีของโจทก์ร่วมมีข้อบกพร่องไม่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ไม่เป็นที่เชื่อถือ ถือได้ว่าจำเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม ย่อมมีความผิดตามป.อ. มาตรา 157.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5459/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานตรวจสอบการบุกรุกที่ดิน ไม่เข้าข่ายข่มขืนใจหรือใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ แม้เสนอทางเลือกให้เช่า/บริจาค/มอบ
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เป็นผู้ตรวจสอบกรณีโจทก์บุกรุกเข้าปลูกสร้างบ้านพักคนงานในที่ดินของทางราชการ ได้เรียกให้โจทก์เสียค่าเช่า มอบอาคารหรือบริจาคเงินเป็นค่าตกแต่งห้องทำงานสำนักงานก็ดี เป็นการบรรเทาความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของโจทก์เอง และที่จำเลยพูดว่าถ้าไม่ยอมก็ต้องรื้อถอนก็เป็นกรณีที่จำเลยแจ้งว่าจะใช้สิทธิตามกฎหมายมิใช่เป็นการข่มขืนใจ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจให้โจทก์มอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5309/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดร่วมกันครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย อิทธิพลสามีเป็นเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยที่ 3 เป็นภริยาจำเลยที่ 2 บุคคลทั้งสองเป็นชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกัน ในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ไปพบปะพูดกับจำเลยที่ 1 ด้วยกันเมื่อจำเลยที่ 2 รับห่อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 1 ใส่ถุงกระดาษถือมาที่ห้างสรรพสินค้าเที่ยวแรกแล้วจำเลยที่ 2 ก็ส่งให้แก่จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ได้เปิดดูแล้วคล้อง ถุงกระดาษไว้กับรถเข็นเด็กซึ่งมีบุตรนั่งอยู่พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5174/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจูงใจเจ้าพนักงานศาลเพื่อช่วยเหลือคดี ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 หากเจ้าพนักงานนั้นไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาคดี
จ.สามี ล.ที่จำเลยที่ 2 พา น.ไปติดต่อเพื่อจะขอให้ช่วยวิ่งเต้นให้ น.ชนะคดีในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ จ.จึงไม่ใช่เจ้าพนักงานที่ ล.หรือจำเลยคนหนึ่งคนใดจะพึงจูงใจให้กระทำการ หรือไม่กระทำการในหน้าที่โดยพิพากษาคดีในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดอันเป็นองค์ประกอบของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5116/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็ค: วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินคือวันที่ความผิดสำเร็จ โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชี ณ วันออกเช็ค
สาระสำคัญของความผิดฐานออกเช็คตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1)(2) นั้น ถือว่าวันที่ออกเช็คเป็นวันที่ผู้ออกเช็คมีเจตนากระทำผิดและความผิดสำเร็จครบองค์ประกอบความผิดในวันที่ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค
โจทก์นำสืบแต่เพียงวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเท่านั้นซึ่งเป็นวันหลังออกเช็คหลายเดือน โดยธนาคารให้เหตุผลว่ายังไม่มีการตกลงกับธนาคาร เนื่องจากขณะนั้นจำเลยเป็นหนี้ธนาคารอยู่เต็มวงเงินเบิกเกินบัญชี มิได้นำสืบว่าในวันออกเช็คจำเลยมีเงินอยู่ในบัญชีไม่พอจะใช้เงินได้ตามเช็ค และหรือหากผู้เสียหายนำเช็คตามฟ้องไปเบิกเงินธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค.
โจทก์นำสืบแต่เพียงวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเท่านั้นซึ่งเป็นวันหลังออกเช็คหลายเดือน โดยธนาคารให้เหตุผลว่ายังไม่มีการตกลงกับธนาคาร เนื่องจากขณะนั้นจำเลยเป็นหนี้ธนาคารอยู่เต็มวงเงินเบิกเกินบัญชี มิได้นำสืบว่าในวันออกเช็คจำเลยมีเงินอยู่ในบัญชีไม่พอจะใช้เงินได้ตามเช็ค และหรือหากผู้เสียหายนำเช็คตามฟ้องไปเบิกเงินธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5115/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบวกโทษคดีเก่าที่รอการลงโทษเข้ากับคดีใหม่ แม้ผู้ต้องหาจะเคยได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ
ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ตามพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ พ.ศ. 2530มาตรา 4 หมายถึงผู้ที่ได้กระทำผิดก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2530 ซึ่งได้รับโทษและพ้นโทษไปแล้ว ดังนั้น การที่จำเลยได้กระทำผิดก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม 2530 แต่ศาลก็ได้รอการลงโทษไว้ จึงยังถือไม่ได้ว่า จำเลยได้รับโทษและพ้นโทษแล้ว ไม่เข้าหลักเกณฑ์อันเป็นองค์ประกอบที่จะได้รับประโยชน์ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว เมื่อจำเลยได้มากระทำผิดในคดีนี้ภายในกำหนดเวลาที่ศาลให้รอการลงโทษไว้ จึงต้องนำโทษในคดีก่อนมาบวกกับโทษในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5072/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ชำระหนี้และการโกงเจ้าหนี้: ราคาทรัพย์สินเพียงพอชำระหนี้ ไม่ถือเป็นความผิด
เมื่อโคที่โจทก์นำยึดมีราคามากกว่าหนี้ที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษา แม้น้องของจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ก็ตาม แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าศาลฟังว่าโคที่ถูกยึดเป็นของน้องของจำเลยที่ 1 โคจึงเป็นของจำเลยที่ 1 อยู่ และมีราคาพอที่จะชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา ดังนั้น แม้จำเลยที่ 1 จะขายที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นราคาเท่าไรก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ไม่ได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนแต่อย่างใด จำเลยที่ 1 ไม่ผิดฐานโกงเจ้าหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5066/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในรถเช่าซื้อ การบอกเลิกสัญญา และสิทธิในการขอคืนรถของผู้ให้เช่าซื้อ
เมื่อรถจักรยานยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องให้จำเลยเช่าซื้อไป โดยจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนผู้ร้อง บอกเลิกสัญญาแล้วนั้น เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าผู้ร้องมาขอรถจักรยานยนต์คืนเพื่อประโยชน์ของจำเลยแล้ว แม้สัญญาเช่าซื้อมีข้อความระบุว่า หากทรัพย์ที่เช่าซื้อถูกริบ ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินที่เหลือจนครบก็ตาม ก็เป็นเงื่อนไขในสัญญาระบุเกี่ยวกับความรับผิดที่ผู้เช่าซื้อมีต่อผู้ให้เช่าซื้อเท่านั้น อันเป็นเงื่อนไขที่กำหนดกันไว้ได้ตามกฎหมายเช่นเงื่อนไขที่ให้สิทธิแก่ผู้ให้เช่าซื้อ ซึ่งผู้ให้เช่าซื้อจะใช้หรือไม่ก็ได้ การที่ผู้ให้เช่าซื้อไม่ใช้สิทธิดังกล่าว แต่มาขอรถจักรยานยนต์ของกลางคืนนั้น หาถือว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยอันเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5062/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในชั้นศาลและการยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลอมและใช้เอกสารปลอม เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องโจทก์ จำเลยจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าเอกสารที่จำเลยกรอกข้อความขึ้นไม่เกี่ยวกับธนาคาร เป็นแต่เพียงการทำหลักฐานหรือหนังสือเท็จ ไม่เป็นการปลอมเอกสารหรือเอกสารสิทธิดังฟ้องหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้วทั้งยังเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ในชั้นฎีกา ซึ่งมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วแต่ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์อีกด้วย และที่จำเลยฎีกาว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวกับการกระทำในคดีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยในคดีความผิดข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้ว ก็เป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ในชั้นฎีกาเช่นเดียวกัน.