คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 83

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,763 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5719/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายและความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงาน: การพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 และ 3
เมทแอมเฟตามีน 2 ถุง จำนวน 4,000 เม็ด ฝังดินอยู่ข้างบ่อน้ำในบริเวณรั้วบ้านของจำเลยที่ 2 ตามที่จำเลยที่ 2 ชี้จุดที่ซุกซ่อน เมทแอมเฟตามีนให้เจ้าพนักงานตำรวจถ่ายรูปไว้ และจำเลยที่ 2 และที่ 3 เสนอให้เงินเจ้าพนักงานตำรวจ 200,000 บาท เพื่อไม่ให้ดำเนินคดีต่อจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นสามีภริยาอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน แสดงพฤติการณ์ว่าต่างยอมรับการกระทำของแต่ละฝ่ายเป็นการกระทำของตน จึงเป็นตัวการกระทำความผิดด้วยกันในการสนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4344/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย: พฤติการณ์ของผู้ต้องหาต้องแสดงเจตนาหรือการสนับสนุนการกระทำความผิด
ย. แต่เพียงผู้เดียวเป็นผู้ใช้มีดฟันผู้เสียหาย โดยจำเลยแม้จะถือมีดอยู่ในมือก็ไม่ได้ใช้มีดฟันผู้เสียหายด้วย ทั้งการที่ ย. ใช้มีดฟันผู้เสียหายก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันทีทันใด จำเลยมิได้เตรียมมีดติดตัวมาเพื่อใช้เป็นอาวุธ และ ย. ส่งมีดให้จำเลยภายหลังที่จำเลยชก ส. ล้มลงและผู้เสียหายเข้าห้ามแล้วเท่านั้น พฤติการณ์เช่นนี้เห็นได้ว่า จำเลยมิได้ร่วมเป็นตัวการกับ ย. ใช้มีดฟันทำร้ายผู้เสียหาย
พยานโจทก์ทั้งสามเป็นประจักษ์พยานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกันเบิกความแตกต่างกันในสาระสำคัญย่อมไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2431/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการถีบผู้โดยสารตกจากรถ ความรับผิดทางอาญาต่อการกระทำที่เล็งเห็นผลถึงชีวิต
จำเลยเข้าร่วมทำร้ายผู้ตายกับผู้เสียหายที่ 1 การที่จำเลยกับพวกช่วยกันถีบผู้ตายกับผู้เสียหายที่ 1 ตกจากรถยนต์โดยสารขณะที่รถยนต์นั้นกำลังแล่นด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าผู้ตายอาจไปกระแทกผู้เสียหายที่ 2 ที่ยืนอยู่ตรงบันไดตกจากรถไปด้วยกันได้และศีรษะกับลำตัวของผู้ตายหรือของผู้เสียหายทั้งสองอาจกระแทกกับพื้นถนนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังปรากฏว่าผู้ตายมีเลือดออกในผนังหัวใจ ในปอดและกระบังลม เนื้อสมองบวมทั้งสมองอันเกิดจากแรงภายนอกกระทำต่อศีรษะและหน้าอกของผู้ตายอย่างรุนแรงอันถือได้ว่าเป็นผลธรรมดาจากการกระทำของจำเลยกับพวก การกระทำของจำเลยกับพวกจึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายและพยายามฆ่าผู้เสียหายทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดร่วมกัน แบ่งหน้าที่ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นตัวการร่วม
ก่อนที่โจทก์ร่วมถูกคนร้ายฟัน จำเลยได้ชักชวนโจทก์ร่วมให้ออกไปยืนรออยู่ที่หน้าซุ้มประตูวัดแล้วจำเลยไปติดเครื่องรถจักรยานยนต์รออยู่ เมื่อ ว. พี่เขยของจำเลยเข้าไปฟันโจทก์ร่วมแล้วได้วิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยติดเครื่องรออยู่หลบหนีไปด้วยกัน เป็นการแสดงให้เห็นว่า จำเลยกับ ว. ได้คบคิดที่จะทำร้ายโจทก์ร่วมในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำอันเป็นการร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 แม้การชักชวนโจทก์ร่วมไปที่เกิดเหตุจะเป็นการช่วยเหลือให้ความสะดวกในการที่พวกของจำเลยกระทำความผิดหรือการที่จำเลยขับรถจักรยานยนต์พาพวกหลบหนีจะมิใช่เป็นการกระทำในส่วนสำคัญหรือสาระสำคัญของความผิดฐานพยายามฆ่าก็ตามแต่เมื่อจำเลยร่วมกับพวกกระทำความผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำแล้วจำเลยก็มิใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1630/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันข่มขืนโทรมหญิง แม้ไม่สำเร็จความใคร่ เจตนาพยายามกระทำความผิดก็ถือเป็นความผิดฐานข่มขืน
จำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิด แม้จะปรากฏว่าหลังจากจำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเสร็จแล้ว พวกของจำเลยคนหนึ่งที่ร่วมกันมาฉุดผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเราซึ่งเข้าข่มขืนกระทำชำเราเป็นคนต่อมาจะไม่สามารถ สอดใส่อวัยวะเพศของตนเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายได้เพราะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวก็ตาม แต่การที่พวกของจำเลยพยายามสอดใส่อยู่นาน 10 นาที ก็แสดงให้เห็นเจตนาที่จะรุมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยกับพวกจึงได้ชื่อว่าเป็นการร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย แม้ไม่ได้ยึดยาจากตัวจำเลยโดยตรง ก็ถือเป็นหลักฐานได้
แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะไม่ได้ยึดเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยที่ 3 ก็ตาม แต่การที่จำเลยที่ 3 ร่วมเดินทางมากับจำเลยที่ 1 และที่ 2 เพื่อขอดูเงินที่จะซื้อเมทแอมเฟตามีนจากผู้ล่อซื้อ และขณะที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กำลังตรวจนับเงินกันนั้นจำเลยที่ 3 ก็ยืนดูอยู่ใกล้ ๆ แล้วจำเลยที่ 3 ก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ครั้นจำเลยที่ 1 และที่ 2เดินทางกลับมายังที่นัดหมายเพื่อส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้แก่ผู้ล่อซื้อ จำเลยที่ 3 ก็ร่วมเดินทางมาด้วย แม้ขณะจำเลยที่ 2ส่งมอบเมทแอมเฟตามีน จำเลยที่ 3 จะนั่งดูอยู่บนกำแพงห่างออกไปเพียง 3 ถึง 4 เมตรก็ตาม ก็มีลักษณะเป็นการเฝ้าดูเหตุการณ์และระวังภัยที่จะเกิดขึ้นขณะนั้นนั่นเอง พฤติการณ์ของจำเลยที่ 3 มีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำในระหว่างจำเลยทั้งสาม การกระทำของจำเลยที่ 3 ถือได้ว่าเป็นการร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกสาธารณสมบัติ การก่อสร้างบนที่ดินสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้มีการรื้อถอนแล้วก็ยังถือเป็นความผิด
แม้ทางราชการมิได้ใช้ที่ดินพิพาทที่ได้รับการให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ทำการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตามความประสงค์ของผู้ให้ ก็ไม่ได้ทำให้จำเลยทั้งสองเกิดสิทธิที่จะบุกรุกเข้าไปในที่ดินพิพาทก่อสร้างอาคารหรือปลูกสร้างท่าจอดเรือลงในแม่น้ำเจ้าพระยาโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้อาคารที่ก่อสร้างจะถูกรื้อไปแล้วก็ไม่ทำให้ความผิดที่เกิดขึ้นสำเร็จแล้วกลายเป็นไม่ผิด การกระทำของบริษัทจำเลยที่ 2 ที่กระทำลงไปนั้น จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นกรรมการต้องร่วมรับผิดในฐานะส่วนตัวด้วย จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดตาม ป.ที่ดิน มาตรา 108 ทวิ วรรคสอง และ ป.อ. มาตรา 360 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 360 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร - ลักทรัพย์ - ตัวการร่วม - อำนาจศาล - แก้ไขบท - จำเลยไม่ฎีกา
ในคืนเกิดเหตุจำเลยที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 พาเอาไปเสียซึ่งรองเท้าของกลางที่จำเลยที่ 1 ลักเอามาซุกซ่อนไว้ข้างโกดังเก็บสินค้าในโรงงานของผู้เสียหายแล้วนำไปเก็บไว้ที่บ้านของจำเลยที่ 3 เพื่อแบ่งปันกันในภายหลัง ทั้งนี้โดยจำเลยที่ 3 รู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานเป็นตัวการรับของโจร ตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคแรก แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 3 โดยไม่ปรับบทมาตรา 83 มานั้น ไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขปรับบทลงโทษจำเลยที่ 3 เสียใหม่ให้ถูกต้อง ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ทั้งเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาแก้ไขปรับบทตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้ฎีกาด้วย
คดีในส่วนของจำเลยที่ 1 แม้คู่ความจะมิได้อุทธรณ์และฎีกาขึ้นมา แต่เมื่อข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังเป็นที่ยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 มิได้เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 ลักทรัพย์รองเท้าของกลางด้วย ซึ่งเท่ากับว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืนตามลำพัง การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335 (7) และ มาตรา 83 อีก ปัญหาข้อนี้แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้ยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษาแก้ไขให้ถูกต้อง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษาให้จำเลยที่ 1 พ้นจากความผิดตามบทมาตราดังกล่าวได้ ทั้งนี้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยมาตรา 215 และมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์-สนับสนุนการกระทำผิด, การใช้ยานพาหนะ, และการชดใช้ค่าเสียหายจากการกระทำผิด
จำเลยที่ 2 และที่ 3 นำสายไฟฟ้าเก่าของผู้เสียหายที่วางอยู่ตามพื้นในโรงงานมาวางบนเหล็กร้อน ทำให้เปลือกสายไฟฟ้าไหม้ละลายหมดเหลือแต่ลวดทองแดงที่เป็นซากของสายไฟฟ้าเพื่อความสะดวกในการเอาทรัพย์นั้นไปขายก็มิใช่แปรสภาพไปเป็นของอื่น ถือว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 เริ่มลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์นับแต่ที่นำสายไฟฟ้าไปวางบนเหล็กร้อนและเป็นความผิดต่อเนื่องกันมาจนกระทั่งขนย้ายลวดทองแดงออกจากโรงงานไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของจำเลยที่ 1 ที่นอกรั้วโรงงาน แต่จำเลยที่ 1 รออยู่ห่างจากจุดที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 โยนทรัพย์ออกมาประมาณ 100 เมตร ไม่อาจช่วยเหลือกันได้ทันท่วงที ไม่ใช่แบ่งหน้าที่กันทำในส่วนที่เป็นการกระทำความผิด จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานเป็นตัวการ คงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 และที่ 3 เท่านั้น
การที่จำเลยทั้งสามคบคิดกันลักลวดทองแดงของผู้เสียหายซึ่งเป็นนายจ้างโดยให้จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์มารออยู่ใกล้โรงงานเพื่อบรรทุกทรัพย์ไปย่อมเล็งเห็นเจตนาได้ว่า ประสงค์จะใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะตาม ป.อ. มาตรา 336 ทวิ ส่วนจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการลักทรัพย์ดังกล่าว
สายไฟฟ้าของผู้เสียหายที่ถูกจำเลยลักนำไปเผาลอกเอาเปลือกออกยังคงเหลือซากที่เป็นลวดทองแดงอยู่ มิได้ถูกทำลายสูญหายไปทั้งหมดหรือแปรสภาพไปเป็นของอื่น เมื่อผู้เสียหายได้รับลวดทองแดงคืนแล้ว พนักงานอัยการโจทก์จะขอให้คืนหรือใช้ราคาเต็มของสายไฟฟ้าแก่ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 43 อีกไม่ได้ แม้ผู้เสียหายจะได้รับความเสียหายอันเกิดจากการกระทำความผิดของจำเลยเนื่องจากนำสายไฟฟ้าไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์เดิมไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายจะต้องไปว่ากล่าวเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเอาเองเป็นคดีใหม่
จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์มารออยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อจะใช้เป็นพาหนะบรรทุกลวดทองแดงที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ลักไป จำเลยที่ 1 ไม่ได้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นเครื่องมือหรือส่วนหนึ่งในการลักทรัพย์โดยตรง จึงถือไม่ได้ว่ารถจักรยานยนต์เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบ ตาม ป.อ. มาตรา 33 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8988/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อจำหน่าย: การกระทำที่เป็นตัวการร่วมและการแบ่งหน้าที่
แม้จำเลยที่ 3 ไม่ได้มีส่วนในการเจรจาตกลงจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนและนำเมทแอมเฟตามีนไปส่งมอบให้ร้อยตำรวจเอก พ. โดยตรงก็ตามแต่การที่จำเลยที่ 3 นำเมทแอมเฟตามีนไปมอบให้แก่จำเลยที่ 2 และยังคงรออยู่ในที่เกิดเหตุจนกระทั่งถูกจับกุมนั้น น่าเชื่อว่าเป็นเพราะคอยรับเงินจากการจำหน่ายตามคำเบิกความของพลตำรวจ อ. การกระทำของจำเลยที่ 3เป็นการแบ่งแยกหน้าที่ในการครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางโดยจำเลยที่ 3 ทำหน้าที่เป็นผู้นำเมทแอมเฟตามีนไปยังที่เกิดเหตุ ส่งมอบให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อให้จำเลยที่ 2 นำไปส่งมอบให้ร้อยตำรวจเอก พ.ผู้ล่อซื้ออีกต่อหนึ่งจำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2ในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายตามฟ้อง
of 177