คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 83

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,763 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3432/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมทำร้ายร่างกายและฆ่าผู้อื่น โดยมีพฤติการณ์เป็นต้นเหตุของเรื่องและให้กำลังใจ
จำเลยเป็นต้นเหตุของเรื่อง หลังจากจำเลยถูกตีแล้วก็กลับไปนำ บ. และพวกมาก่อเหตุที่บ้านโจทก์ร่วมที่ 2 เมื่อ บ.ยิงผู้ตายและโจทก์ร่วมที่ 2 แล้ว จำเลยก็ร้องตะโกนให้ฆ่าฝ่ายโจทก์ร่วมที่ 2 เป็นเชิงให้กำลังใจ และรับรองการกระทำของ บ. จากนั้นก็พากันหลบหนีไปพร้อมกัน การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3345/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้หวงห้ามในฐานะลูกจ้าง ไม่เป็นเหตุให้ไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
คำว่า ครอบครอง ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มิได้มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า สิทธิครอบครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่มีความหมายกว้างกว่าโดยหมายความรวมถึงครอบครองเพื่อตนเองและครอบครองแทนผู้อื่นด้วยทั้งนี้เพราะไม่มีบทกฎหมายใดจำกัดว่าต้องเป็นการครอบครองเพื่อตนเองเท่านั้น จึงจะเป็นความผิด อีกทั้งในทางอาญาการร่วมกันครอบครองไม้หวงห้ามก็เป็นความผิดเช่นเดียวกัน การที่จำเลยครอบครองไม้ไว้ในฐานะลูกจ้างเพื่อนำส่งโรงเลื่อยจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69,73

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3292/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมทำร้ายร่างกาย: การจอดรถขวางและการสนับสนุนการทำร้าย
การที่จำเลยขับรถจักรยานยนต์ตามผู้เสียหาย แล้วจอดรถขวางหน้ารถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายนั่งมา หลังจากนั้นผู้เสียหายถูกพวกของจำเลยทำร้าย แม้จำเลยจะไม่ได้ลงมือทำร้ายผู้เสียหายก็ถือได้ว่าจำเลยเป็นตัวการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3203/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาทำให้ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,288,295ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และผู้ตายถึงแก่ความตายในที่ชุลมุนต่อสู้นั้น โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำให้ตาย ดังนี้เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญต้องยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำร้ายร่างกายและฆ่าผู้ตาย: การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกายและฆ่าโดยไม่เจตนา
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ร่วมกับคนร้ายทำร้ายร่างกายผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290,295,83 การที่จำเลยที่ 1 และ 3 ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 เป็นการกระทำในเวลาเดียวกับที่คนร้ายตีผู้ตายด้วยขวาน กรณีเป็นเรื่องจำเลยที่ 1 ที่ 3 กับพวกรุมทำร้ายผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และผู้ตายโดยมีเจตนาที่จะทำร้ายผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และผู้ตายทุกคน ลักษณะของเจตนาในการกระทำความผิดเป็นเจตนาเดียวเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่เป็นความผิดกฎหมายหลายบทตามมาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2823/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมทำร้ายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาทำร้ายร่วมกันแม้แบ่งแยกหน้าที่ชัดเจน
ขณะเกิดการทำร้ายผู้ตายกับพวกในครั้งแรกที่จำเลยที่ 1 ใช้มีดฟัน พ. จำเลยที่ 2 ก็ถือมีดและอยู่ด้วยในเหตุการณ์ต่อเนื่องกันขณะพวกจำเลยถีบรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายล้มลง แล้วจำเลยที่ 2 ใช้มีดแทงผู้ตาย ผู้ตายลุกขึ้นวิ่งหนีโดยมีจำเลยที่ 2วิ่งไล่ตาม จำเลยที่ 1 ก็ถือมีดดาบวิ่งตามไปด้วย พฤติการณ์เช่นนี้เท่ากับจำเลยทั้งสองกับพวกมีเจตนาร่วมกันที่จะทำร้ายผู้ตายกับพวกโดยไม่ได้แบ่งแยกว่าจำเลยทั้งสองกับพวกแต่ละคนจะแบ่งแยกกันทำร้ายผู้ตายกับพวกผู้ตายคนใดเป็นการเฉพาะเจาะจง แต่เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองมีเจตนายอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของแต่ละคนเมื่อจำเลยที่ 2 ใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 2 ฆ่าผู้ตายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2714/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบเงินเพื่อฝากความหวังในการบรรจุงานราชการ ไม่ถือเป็นความร่วมมือในการให้สินบน
จำเลยกับพวกเรียกเงินจากผู้เสียหายโดยบอกว่าจะนำไปมอบให้พลตำรวจโทส. เป็นค่าตอบแทนในการที่จะให้บุตรชายของผู้เสียหายบรรจุเข้าเป็นนายตำรวจโดยไม่ต้องสอบ จะบรรจุเป็นการภายในเงินค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นค่าตอบแทนอะไรผู้เสียหายไม่ทราบเป็นเรื่องที่ฝ่ายจำเลยจะนำไปจัดการ ต่อมาบุตรชายผู้เสียหายไม่ได้เข้ารับราชการกรมตำรวจ ดังนี้ การที่ผู้เสียหายมอบเงินให้จำเลยไปตามที่จำเลยกับพวกเรียกจากผู้เสียหายในลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องยังไม่แน่ชัดว่าผู้เสียหายให้เงินไปเพื่อให้จำเลยกับพวกนำไปให้เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการใด ๆ โดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย หรือโดยอิทธิพลของจำเลยกับพวกให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณแก่บุตรชายผู้เสียหาย จึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้ร่วมกับจำเลยและพวกนำสินบนไปให้แก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ผู้เสียหายย่อมเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย มีสิทธิที่จะร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคาร การละเลยควบคุมงานทำให้เกิดการก่อสร้างผิดแบบ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
จำเลยทั้งสองได้ทำหนังสือแสดงความยินยอมเป็นผู้ควบคุมงานตามใบอนุญาตก่อสร้างที่ ว. ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ทำการก่อสร้างอาคารเพื่อพาณิชยกรรม จึงมีหน้าที่ต้องไปควบคุมการก่อสร้าง แต่ละเลยไม่ไปควบคุมการก่อสร้างจนเป็นเหตุให้มีการก่อสร้างอาคารผิดไปจากแผนผังบริเวณและแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตจะถือว่าการก่อสร้างอาคารที่ผิดไปจากแผนผังบริเวณและแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตดังกล่าว เป็นการกระทำของผู้อื่นมิใช่เป็นการกระทำของจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 31วรรคสองตอนท้ายไม่ได้ แต่ต้องถือว่าเป็นการกระทำของจำเลยทั้งสองตามมาตรา 31 วรรคสองตอนแรก จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกระทำความผิดฐานจัดให้มีการก่อสร้างอาคารให้ผิดไปจากแผนผังบริเวณและแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต ตามหนังสือขอก่อสร้างอาคาร หนังสือแสดงความยินยอมเป็นผู้ควบคุมงานของจำเลยทั้งสองและใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารระบุว่าเพื่อใช้เป็นอาคารพาณิชย์-พักอาศัย และอาคารที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสามชั้นซึ่งปกติใช้เพื่อการพาณิชยกรรมได้ ถือได้ว่าอาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารเพื่อพาณิชยกรรม การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาคารเพื่อพาณิชยกรรม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์ติดตาม ยิงขณะอยู่ในที่คับขัน และความแค้นส่วนตัว
จำเลยกับพวกร่วมกันขับรถยนต์ติดตามรถยนต์ ล. ถึง 3 กิโลเมตรและใช้อาวุธปืนยิง ล. 2 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งหลัง เป็นการยิงขณะ ล. อยู่ในหนองน้ำไม่อาจหลบหนีได้อีก เป็นการส่อให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะฆ่า ล. ให้ได้ เมื่อประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยประกาศชื่อตน และถาม ล. ว่า ล. เป็นผู้ฆ่าบิดามารดาและ น้องสาวจำเลยทำไม ทั้งได้ความว่าจำเลยตามฆ่า ล.มา 3 ปีแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) จำเลยยิง ล. แต่กระสุนปืนพลาดไปถูก จ. ถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่า จ. โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) ประกอบมาตรา 60 กระทงหนึ่งต่อมาจำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง ล. บาดเจ็บและถึงแก่ความตายในภายหลัง จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่า ล. โดยไตร่ตรองตามมาตรา 289(4) อีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันแต่โจทก์มิได้ฟ้องหรืออุทธรณ์ฎีกาประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทุกกรรม จึงไม่อาจลงโทษจำเลยเป็นแต่ละกรรมได้ คงลงโทษจำเลยฐานฆ่า ล. และ จ. โดยไตร่ตรองไว้ก่อนเป็นกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาวุธปืนเป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำได้ แม้ไม่ได้เป็นผู้มีหรือพาอาวุธปืนโดยตรง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำด้วยกันได้ มิใช่เป็นความผิดเฉพาะตัวของผู้มีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนเท่านั้น
of 177