คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 163

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2395/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดยักยอกเงินค่าธรรมเนียมของเจ้าพนักงานไปรษณีย์ การลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา และการพิจารณาความผิดหลายกรรม
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งนายไปรษณีย์โทรเลขอำเภอฝางและเป็นพนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ได้รับเอาเงินค่าธรรมเนียมฝากส่งจดหมายแต่ละวันเป็นเวลา 7 วัน รวม 7 ครั้งไว้โดยมิได้ปิดตราไปรษณียากรที่ซองจดหมายหรือมิได้จ่ายตราไปรษณียากรให้ผู้ฝากปิดเองตามระเบียบ แล้วเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมและกักจดหมายดังกล่าวแต่ละวันไว้ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยยักยอกเอาเงินดังกล่าวแต่ละครั้งแต่ละวันไปอันเป็นความผิดหลายกรรมรวม 7 กรรม
เมื่อพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 มาตรา 15 บัญญัติให้พนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น จึงถือได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 จะปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 หาได้ไม่ และเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา147 แล้ว ก็ไม่จำต้องปรับบทด้วยมาตรา 157 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2395/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพนักงานยักยอกเงินค่าธรรมเนียมไปรษณีย์ การกำหนดกระทงความผิดและบทลงโทษ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งนายไปรษณีย์โทรเลขอำเภอฝางและเป็นพนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ได้รับเอาเงินค่าธรรมเนียมฝากส่งจดหมายแต่ละวันเป็นเวลา 7 วัน รวม 7ครั้งไว้โดยมิได้ปิดตราไปรษณียากรที่ซองจดหมายหรือมิได้จ่ายตราไปรษณียากรให้ผู้ฝากปิดเองตามระเบียบ แล้วเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมและกักจดหมายดังกล่าวแต่ละวันไว้ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยยักยอกเอาเงินดังกล่าวแต่ละครั้งแต่ละวันไปอันเป็นความผิดหลายกรรมรวม 7 กรรม เมื่อพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2519 มาตรา15 บัญญัติให้พนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น จึงถือได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 จะปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 หาได้ไม่ และเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา147 แล้ว ก็ไม่จำต้องปรับบทด้วยมาตรา 157 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดไม่สุภาพต่อเจ้าพนักงาน ไม่ถึงขั้นดูหมิ่น
กล่าวว่า 'พวกมึงตำรวจไม่มีความหมายสำหรับกู อยากจะจับก็มาจับเลย ในเมื่อกูไม่ได้กระทำผิด' เป็นคำพูดที่ไม่สุภาพแต่ไม่เป็นดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าพนักงานในการไปรษณีย์: พนักงานรถไฟที่รับส่งถุงไปรษณีย์ ไม่ถือเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ในการไปรษณีย์
จำเลยเป็นพนักงานของการรถไฟฯ ได้รับมอบหมายจากนายสถานีให้เป็นเสมียนเมล์มีหน้าที่รับส่งถุงไปรษณีย์และไปรษณีย์ภัณฑ์ให้แก่การไปรษณีย์ หามีผลให้จำเลยมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ในการไปรษณีย์ไม่ เมื่อจำเลยกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยเปิดและทำให้เสียหายแก่จดหมายที่ส่งทางไปรษณีย์ ก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 163

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หมายจับที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและการหลบหนีจากผู้จับที่รู้ถึงเหตุไม่ชอบธรรม
หมายจับที่ออกโดยไม่ชอบด้วย ก.ม.ทั้งผู้จับก็ทราบต้นเหตุการออกหมายจับนั้นว่าเป็นเรื่องใช้อำนาจในหน้าที่โดยไม่เป็นธรรม หมายจับที่ออกในกรณีเช่นนี้ย่อมใช้ไม่ได้ เมื่อผู้ถูกจับหลบหนีจากการควบคุมก็หามีผิดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานหลบหนีที่คุมขัง และการหักวันหลบหนีออกจากกำหนดโทษในคดีก่อน
คดีฟ้องขอไห้ลงโทษถานหลบหนีที่คุมขังไนคดีเรื่องก่อนนั้น โจทจะขอไนคดีนี้ไห้หักวันหลบหนีออกจากกำหนด+ไนคดีเรื่องก่อนไม่ได้ เพราะการที่จำเลยจะต้องจำคุกตามคำพิพากสาไนคดีเรื่องก่อนครบถ้วนหรือไม่ไม่ไช่เรื่องที่จะมาว่ากล่าวกันไนคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักวันหลบหนีออกจากกำหนดโทษคดีก่อน: ไม่ใช่ประเด็นในคดีหลบหนี
ไนกรนีที่จำเลยหลบหนีการจำคุกไนคดีเรื่องหนึ่งนั้น เมื่อโจทฟ้องขอไห้ลงโทสถานหลบหนีที่คุมขังโจทจะขอไห้คดีนี้ไห้หักวันหลบหนีออกจากกำหนดโทสไนคดีก่อนนั้นไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมและการหลบหนี: การจับกุมต้องแจ้งให้ทราบ การหลบหนีต้องมีการคุมขังก่อน
กำนันตามจำเลยมาที่บ้านเพื่อสอบถามเรื่องที่จำเลยต้องหาและห้ามไม่ให้ไปไหน ไม่ถือว่าเป็นการถูกจับ เมื่อจำเลยหลบหนีไป ย่อมไม่มีผิดฐานหลบหนีที่คุมขัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การควบคุมตัวผู้ต้องหาและการแจ้งข้อหาเพียงพอต่อการพิพากษาคดีปล้นทรัพย์และหลบหนี
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ อ้าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายลักษณอาญามาตรา 301 มาก็พอแล้ว โจทก์ไม่จำต้องอ้าง ม.301 มาด้วยศาลก็ลงโทษจำเลยได้เพียงแต่เจ้าพนักงานได้บอกแก่จำเลยว่าจำเลยได้ตกอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานและเจ้าพนักงานได้ควบคุมจำเลยตลอดมาดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้อยู่ในระหว่างคุมขังกันชอบด้วยกฎหมายตามที่บัญยัติไว้ในมาตรา 163 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษอาญาซ้ำซ้อน: จำเลยกระทำผิดขณะยังรับโทษคดีก่อน ศาลไม่อาจเพิ่มโทษตามมาตรา 72
จำเลยทำผิดครั้งที่ 3 ในขณะที่กำลังรับโทษครั้งที่ 2 และครั้งที่ 1 รวมกันโดยที่ศาลได้ยกเอาโทษที่รอการลงอาญาไว้มารวมเข้าด้วยนั้น จะเพิ่มโทษจำเลยสำหรับความผิดครั้งที่ 3 ตามมาตรา 72 ไม่ได้
of 2