พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2963/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเดียวกันในการใช้เครื่องชั่งผิดอัตรา ถือเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า และใช้เครื่องชั่งดังกล่าวในวันเวลาเดียวกัน ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาอันเดียวกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2963/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อฉ้อโกง ถือเป็นเจตนาเดียวกัน
จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า และใช้เครื่องชั่งดังกล่าวในวันเวลาเดียวกัน ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาอันเดียวกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เครื่องชั่งผิดอัตรา: ไม่เข้าข่ายเอาเปรียบทางการค้า แต่เป็นความผิดกรรมเดียว
เมื่อน้ำหนักจริง 1 กก. ใช้เครื่องชั่งของจำเลยจะชั่งได้เพียง 800 ก. จำเลยซึ่งเป็นผู้ขายย่อมเสียเปรียบ ผู้ซื้อในการที่น้ำหนักจริงของสินค้าของตนขาดหายไป 200 ก.กทุก 1 กก.ของน้ำหนักจริง ดังนั้น การที่จำเลย มีและใช้เครื่องชั่งดังกล่าว จึงมิใช่เป็นการเอาเปรียบ ในการค้า ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 จำเลยมีและใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตราอันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดฯ มาตรา 31 ในวันเวลาเดียวกัน เท่ากับว่าจำเลยมีเจตนาอันเดียวการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวเมื่อศาลล่างลงโทษมาเป็น 2 กระทง แม้จำเลยจะมิได้ฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2831/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท กรณีใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า ศาลฎีกาแก้ไขโทษ
จำเลยมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดอัตรา และได้ใช้เครื่องชั่งนั้นในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่น ซึ่งต่างก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาเปรียบในการค้าเช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ศาลล่างทั้งสองลงโทษเป็น 2 กระทง ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3590/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อเอารัดเอาเปรียบในการค้า ถือเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท ใช้บทหนักลงโทษ
จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า และใช้เครื่องชั่งดังกล่าวในวันเวลาเดียวกันก็เท่ากับว่า จำเลยมีเจตนาอันเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3590/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อโกงในการค้าเป็นความผิดอาญา
จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้าและใช้เครื่องชั่งดังกล่าวในวันเวลาเดียวกัน ก็เท่ากับว่าจำเลยมีเจตนาอันเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อเอารัดเอาเปรียบในการค้า เป็นความผิดทางอาญาที่ศาลไม่รอการลงโทษ
จำเลยมีอาชีพรับซื้อขายข้าวโพด ซึ่งต้องใช้เครื่องชั่งเป็นประจำ การใช้เครื่องชั่งแต่ละครั้ง จำเลยเอาเปรียบครั้งละ 2 หรือ 2.5 กิโลกรัม การซื้อขายแต่ละคราวผู้ติดต่อค้าขายกับจำเลยอาจเสียหายเป็นจำนวนมากปกติการค้าขายผู้ค้าขายย่อมได้ผลกำไรจากการซื้อถูกขายแพงอยู่แล้วการที่จำเลยยังเอาเปรียบในการค้าด้วยการมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดอัตรา จึงไม่มีเหตุอันควรปรานีศาลไม่รอการลงโทษจำคุกให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีความผิดต่อเนื่อง และการลงโทษฐานมีเครื่องชั่งตวงวัดไม่ถูกต้อง
จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ถูกต้องตามความประสงค์ทุกประการของพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัดไว้ในความครอบครองตั้งแต่อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลกตลอดมาจนกระทั่งถูกจับที่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดต่อเนื่อง และกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ดังกล่าว เมื่อจำเลยถูกจับในท้องที่อำเภอคีรีมาศจังหวัดสุโขทัย และเมื่อได้มีการสอบสวนโดยชอบแล้วพนักงานอัยการจังหวัดสุโขทัย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดสุโขทัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 แม้จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้ในความ ครอบครองเพื่อใช้ในการพาณิชย์ ก็จะฟังว่าจำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้าไปทีเดียวไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเจตนาเอาเปรียบในทางการค้าเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ปรากฏ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบหรือนำสืบไม่ได้ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีความผิดต่อเนื่อง และการลงโทษฐานมีเครื่องตวงวัดไม่ถูกต้อง
จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ถูกต้องตามความประสงค์ทุกประการของพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัดไว้ในความครอบครองตั้งแต่อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลกตลอดมาจนกระทั่งถูกจับที่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดต่อเนื่อง และกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ดังกล่าว เมื่อจำเลยถูกจับในท้องที่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย และเมื่อได้มีการสอบสวนโดยชอบแล้ว พนักงานอัยการจังหวัดสุโขทัย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดสุโขทัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22
แม้จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในการพาณิชย์ ก็จะฟังว่าจำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้าไปทีเดียวไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเจตนาเอาเปรียบในทางการค้าเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ปรากฏ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบหรือนำสืบไม่ได้ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270
แม้จำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่ง ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในการพาณิชย์ ก็จะฟังว่าจำเลยมีเครื่องตวง เครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้าไปทีเดียวไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเจตนาเอาเปรียบในทางการค้าเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำสืบให้ปรากฏ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบหรือนำสืบไม่ได้ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานมีเครื่องชั่งผิดกฎหมายต้องมีเจตนาใช้เพื่อเอาเปรียบในการค้า คำฟ้องต้องระบุเจตนา
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 และพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2466 มาตรา 31 นั้น การมี เครื่องชั่งที่ผิดอัตราหรือไม่ถูกต้องตามความประสงค์ของกฎหมายไว้ในความครอบครองจะเป็นความผิดก็ต่อเมื่อเป็นการมีไว้เพื่อใช้เอาเปรียบในการค้าหรือในกิจการดังที่กฎหมายระบุไว้เท่านั้น แต่คำฟ้องของโจทก์ในข้อหาฐานนี้โจทก์หาได้บรรยายถึงข้อความดังกล่าวนี้ไม่ ถึงแม้คำฟ้องตอนหลังจะมีข้อความว่า 'จำเลยได้ใช้เครื่องชั่งดังกล่าวนี้ทำการชั่งสินค้าเบ็ดเตล็ดต่างๆ ขายในกิจการค้าอันต่อเนื่องกับผู้อื่นและในพาณิชกิจของจำเลย ฯลฯ 'ก็ตามแต่คำบรรยายฟ้องตอนหลังนี้ก็เป็นการบรรยายถึงความผิดฐานใช้อีกข้อหาหนึ่ง การที่จะพิจารณาว่าคำฟ้องในความผิดฐานใดครบองค์ประกอบความผิดหรือไม่ต้องพิจารณาเป็นรายกระทงไม่ใช่พิจารณารวมกัน เมื่อคำบรรยายฟ้องในความผิดฐานมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดกฎหมายขาดองค์ประกอบความผิดดังกล่าวแล้ว คำฟ้องสำหรับความผิดฐานนี้ย่อมไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)