พบผลลัพธ์ทั้งหมด 81 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานยักย้ายและนำน้ำมันออกนอกประเทศถือเป็นกรรมเดียว ฟ้องซ้ำไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญา ม.39(4)
การลักลอบขนน้ำมันออกจากสถานที่เก็บซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 ต่อเนื่องกับการลักลอบขนน้ำมันออกนอกประเทศไทย เมื่อโจทก์แยกฟ้องจำเลยเป็นความผิดสองสำนวนและความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว ส่วนอีกสำนวนหนึ่งคือฐานนำน้ำมันออกนอกประเทศซึ่งตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าการกระทำทั้งหลายของจำเลยตั้งแต่เริ่มยักย้ายก็ด้วยเจตนาอันเดียวที่จะนำออกนอกราชอาณาจักร จึงถือว่าการกระทำของจำเลยต้องด้วย ก.ม. หลายบทและไม่อาจแยกเป็นกะทงหนึ่งต่างหากได้ เมื่อจำเลยถูกลงโทษแล้ว ก็ลงโทษจำเลยอีกไม่ได้ ตาม ป.วิ.อาญา ม.39 (4) ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสมคบหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่: ฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้ไม่มีพยานเห็นการกักขัง
ความผิดฐานสมคบหน่วงเหนี่ยวกักขังคนเพื่อสินไถ่นั้นโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้ง 5 สมคบกันกระทำผิดเริ่มแต่วันที่ 13 ธ.ค. ถึง 17 ธ.ค.95 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนอันเป็นเวลาระหว่างที่จำเลยลักพาเด็กไปหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เพื่อสินไถ่ ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดทำอะไร ความละเอียดนอกจากนี้เป็นข้อที่นำสืบ จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีและไม่หลงข้อต่อสู้ จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
แม้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยคนไหนเป็นผู้กักขังหน่วงเหนี่ยวและไม่มีพยานโจทก์เห็นผู้เสียหายถูกกักขังอยู่ในลัง เมื่อเหตุอื่น ๆ ฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันหน่วงเหนี่ยวกักขังจริง จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง.
แม้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยคนไหนเป็นผู้กักขังหน่วงเหนี่ยวและไม่มีพยานโจทก์เห็นผู้เสียหายถูกกักขังอยู่ในลัง เมื่อเหตุอื่น ๆ ฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันหน่วงเหนี่ยวกักขังจริง จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายบทจากการกระทำต่อเนื่องในที่เกิดเหตุเดียวกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ ก.ม.อาญา ม.73 แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจะต้องเพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
จำเลยทำการชิงทรัพย์และได้ทำให้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์เสียหายด้วย เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในถานที่เดียวกันในเวลาติดต่อเนื่องกันด้วยเจตนามุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนกันเช่นนี้การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดหลายบทไม่ใช่หลายกะทง.
จำเลยทำการชิงทรัพย์และได้ทำให้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์เสียหายด้วย เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในถานที่เดียวกันในเวลาติดต่อเนื่องกันด้วยเจตนามุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนกันเช่นนี้การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดหลายบทไม่ใช่หลายกะทง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาต่างกรรมต่างวาระและการบังคับใช้บทกฎหมายตามฟ้อง
ในคดีที่จำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายผู้เสียหายหลายคนโจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยต่างมีมีดเป็นอาวุธสมคบกันฟันและแทงทำร้ายร่างกายนายสอาดกับนายใจถึงบาดเจ็บสาหัสทุพลภาพฯ" ในฟ้องมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยเป็นกิจลักษณะต่างกรรมต่างวาระและโจทก์ก็มิได้นำสืบว่าการกระทำร้ายได้เกิดขึ้นในลักษณะอย่างไร ทั้งคำขอท้ายฟ้องโจทก์มิได้อ้าง ม.71 ให้เรียงกะทงลงโทษ เพียงเท่านั้นยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกะทง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายบท: เลือกใช้บทกฎหมายที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด
การใช้บทกฎหมายที่อาญาหนักลงโทษความผิดที่ละเมิดกฎหมายหลายบทนั้น ต้องถืออัตราโทษจำคุกสูงสุดที่ศาลอาจวางกำหนดลงโทษแก่จำเลยสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงได้นั้นเป็นสำคัญ มิใช่ถืออัตราโทษปรับมากน้อยหรือต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร นั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายาม พ.ร.บ.ศุลกากร จึงเป็นบทหนักกว่า พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอก ฯ
ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร นั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายาม พ.ร.บ.ศุลกากร จึงเป็นบทหนักกว่า พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอก ฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในคดีวิวาททำให้ถึงแก่ความตาย: การใช้มาตรา 253 แทนมาตรา 254
ในกรณีที่ปรากฏการตายขึ้นในที่วิวาท ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองทำร้าย แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ตายเพราะใครเป็นผู้ทำดังนี้ ศาลลงโทษตาม ม. 253.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงานต้องฟ้องศาลทหารตามประกาศกองบัญชาทหารสูงสุด แม้โจทก์ขอโทษฐานอื่น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานยักยอกในหน้าที่ด้วยเจตนาทุจริต แต่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.319 แต่บทเดียวไม่ได้ขอให้ลงโทษตาม ม.131 ด้วยเมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดตาม ม.131 ก็ต้องฟ้องยังศาลทหารฟ้องยังศาลพลเรือนไม่ได้ เพราะประกาศกองบัญชาทหารสูงสุด ฯลฯ ใช้คำว่า "ความผิดตาม ม.129 ถึง 146 ให้ฟ้องยังศาลทหาร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวละเมิดหลายบท: ลงโทษฐานกระทำผิดบทหนักสุด
จำเลยมีส่าหมักสุราและแป้งเชื้อสุราไว้เพื่อทำสุรา ในวันเดียวกันและจับได้ในวันเดียวกันดังนี้ แสดงว่าเป็นกรรมเดียวละเมิดกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานมีเครื่องต้มกลั่นสุราซึ่งเป็นบทหนัก
จำเลยรับว่าได้กระทำผิดหลายกะทงดังฟ้องโจทก์ แต่รูปคดีตามฟ้องแสดงว่าจำเลยกระทำผิดกรรมเดียว แต่ละเมิดกฎหมายหลายบทดังนี้ ศาลต้องลงโทษศาลบทที่หนัก
จำเลยรับว่าได้กระทำผิดหลายกะทงดังฟ้องโจทก์ แต่รูปคดีตามฟ้องแสดงว่าจำเลยกระทำผิดกรรมเดียว แต่ละเมิดกฎหมายหลายบทดังนี้ ศาลต้องลงโทษศาลบทที่หนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษปรับในฐานมีอาวุธปืนโดยมิชอบ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ และการพิจารณาความรับผิดทางอาญาในคดีทำให้คนตายโดยประมาท
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานทำให้คนตายโดยประมาทและฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และแยกกะทงลงโทษ จำเลยอุทธรณ์ฉะเพาะฐานทำให้คนตายโดยประมาท ศาลอุทธรณ์จะไปแก้ไขกำหนดโทษฐานมีอาวุธปืนไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีสุราและกินสุรา ศาลลงโทษตามบทหนักได้
การมีสุราและกินสุรา แม้เป็นความผิดสองกะทง ศาลก็ลงโทษในบทหนักมาตราเดียว ได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 71