พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามลักทรัพย์: การงัดฝาห้องและร่องรอยการถอดกลอนบ่งชี้เจตนา
จำเลยงัดฝาห้องของเจ้าทรัพย์เผยออกและกลอนหน้าต่างก็เป็นรอยถอดแล้ว ในห้องนั้นมีทรัพย์เก็บอยู่หลายอย่าง เจ้าพนักงานตำรวจมาพบจำเลยกำลังงัดห้องอยู่ จำเลยวิ่งหนีการกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามลักทรัพย์: การงัดประตูบ้านถือเป็นการลงมือกระทำแล้ว
ใช้เหล็กงัดประตูห้องผู้อื่นในเวลาวิกาลจนประตูแตกแต่ยังถอดสลักประตูไม่ได้ ก็ถูกจับเสียก่อน นับว่าเป็นการลงมือกระทำเพื่อประกอบการลักทรัพย์พ้นจากขั้นตระเตรียมการแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามลักทรัพย์: การกระทำถึงขั้นพยายาม แม้จะลักทรัพย์ไม่สำเร็จ
จำเลยปีนขึ้นไปบนม้าแล้วใช้มือโหนประตู จะปีนเข้าไปในบริษัท เผอิญได้ยินเสียงบังโคลนรถจักรยานของตำรวจกระทบกันดังขึ้น จำเลยทำการลักทรัพย์ไม่สำเร็จก็พากันหนีไป ดังนี้ เป็นการกระทำเข้าขั้นพยายามลักทรัพย์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามลักทรัพย์: การกระทำที่แสดงเจตนาและเข้าสู่ลักษณะแห่งการกระทำความผิด
จำเลยปีนขึ้นไปบนม้าแล้วใช้มือโหนประตู จะปีนเข้าไปในบริษัท เผอิญได้ยินเสียงบังโคลนรถจักรยานของตำรวจกระทบกันดังขึ้น จำเลยทำการลักทรัพย์ไม่สำเร็จก็พากันหนีไป ดังนี้ เป็นการกระทำเข้าขั้นพยายามลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่ได้ระบุในฟ้อง ก็ถือเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ได้
เจ้าทรัพย์ให้จำเลยเฝ้าบ้านแต่ห้องเก็บทรัพย์เจ้าทรัพย์ใส่กุญแจไว้จำเลยชวนผู้อื่นมาทำการลักทรัพย์โดยใช้เชือกคล้องถอดกลอนหน้าต่างให้เปิดออกแล้วปีนป่ายเข้าทางช่องหน้าต่าง ซึ่งมิใช่ช่องทางสำหรับให้คนไปมา และลักทรัพย์ในห้องเก็บทรัพย์ไป ดังนี้ถือได้ว่า เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลัก จำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามมาตรา 295(1) ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294(1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า'เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป' ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นที่อยู่อาศัย (เคหสถาน) ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294(1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า'เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป' ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นที่อยู่อาศัย (เคหสถาน) ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหะสถาน แม้ผู้เฝ้าบ้านชวนลักทรัพย์ แต่หากมิได้รับอนุญาตเข้าห้องเก็บทรัพย์ ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถาน
เจ้าทรัพย์ให้จำเลยเฝ้าบ้านแต่ห้องเก็บทรัพย์เจ้าทรัพย์ใส่กุญแจไว้ จำเลยชวนผู้อื่นมาทำการลักทรัพย์โดยใช้เชือกคล้องถอดหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเขาทางช่องหน้าต่าง ซึ่งมิใช่ช่องทางสำหรับให้คนไปมา และลักทรัพย์ในห้องเก็บทรัพย์ ดังนี้ ถือได้ว่ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักจำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามมาตรา 255(1) ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 (1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า "เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป" ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นทีอยู่อาศัย (เคหะสถาน)ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว
ฟ้องของโจทก์กล่าวในครั้งแรกว่า จำเลยบังอาจเข้าไปโดยใช้เชือก คล้อง(ถอด) กลอนหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเข้าไปในทางช่องหน้าต่างอันมิใช่ช่องทางสำหรับคนไปมา และในครั้งหลังต่อต่อมาก็ว่า บังอาจเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์นี้ โดยปีนป่ายเข้าไปทางช่องหน้าต่าง อันมิใช่างสำหรับให้คนไปมาเช่นกัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า ถ้าเป็นการเข้าไปโดยได้รับอนุญาต ก็คงไม่ต้องบังอาจปีนป่ายเข้าทางช่องทางหน้าต่างเช่นนั้น จึงพอเข้าใจได้ว่าเป็นการเข้าไปในโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องจึงสมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้วว่า ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294(1)
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2495
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 (1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า "เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป" ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นทีอยู่อาศัย (เคหะสถาน)ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว
ฟ้องของโจทก์กล่าวในครั้งแรกว่า จำเลยบังอาจเข้าไปโดยใช้เชือก คล้อง(ถอด) กลอนหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเข้าไปในทางช่องหน้าต่างอันมิใช่ช่องทางสำหรับคนไปมา และในครั้งหลังต่อต่อมาก็ว่า บังอาจเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์นี้ โดยปีนป่ายเข้าไปทางช่องหน้าต่าง อันมิใช่างสำหรับให้คนไปมาเช่นกัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า ถ้าเป็นการเข้าไปโดยได้รับอนุญาต ก็คงไม่ต้องบังอาจปีนป่ายเข้าทางช่องทางหน้าต่างเช่นนั้น จึงพอเข้าใจได้ว่าเป็นการเข้าไปในโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องจึงสมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้วว่า ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294(1)
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2495
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใต้ถุนเรือนที่มีลักษณะต่อเนื่องกับตัวเรือน ถือเป็นเคหสถานตามกฎหมาย
ใต้ถุนเรือนซึ่งมีฝาขัดแตะคั่นห้อง พื้นเป็นดินกลางวันใช้เป็นที่ขายของ กลางคืนขนของขึ้นเก็บบนเรือนก็ถือว่าเป็นบริเวณต่อเนื่องกับตัวเรือน เป็นเคหสถานตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจำเลยที่รับสารภาพในคดีสมคบพยายามลักทรัพย์และชิงทรัพย์ โดยแยกข้อกล่าวหาและอัตราโทษ
คำฟ้องที่ฟ้องจำเลยหลายคนแต่ข้อกล่าวหาแยกได้เป็น 2 ตอนตอนแรกกล่าวหาว่า จำเลยสมคบกันพยายามลักทรัพย์ ในตอนหลังกล่าวหาจำเลยบางคนฐานชิงทรัพย์ประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์อันมีอัตราโทษขึ้นสูงถึง 10 ปี ดังนี้เมื่อจำเลยที่ถูกกล่าวหาในตอนแรกรับสารภาพแล้วศาลพิพากษาลงโทษได้ตามมาตรา 176 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานพร้อมอาวุธและการขู่เข็ญ ถือเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยและพวกรวม 6 คน มีมีดเป็นสาตราวุธบุกรุกขึ้นเรือนเจ้าทรัพย์อย่างโครมครามในเวลาดึก ประมาณ 23.00 น.และตีฝาปึงปัง จนเพื่อนบ้าน ก็ได้ยิน ภริยาเจ้าทรัพย์กลัวต้องหนีไป การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย จำเลยย่อมมีความผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานพร้อมอาวุธและการขู่เข็ญ ถือเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยและพวกรวม 6 คน มีมีดเป็นศาตราวุธบุกรุกขึ้นเรือนเจ้าทรัพย์อย่างโครมครามในเวลาดึกประมาณ23.00น.และตีฝาปึงปังจนเพื่อนบ้านก็ได้ยิน ภริยาเจ้าทรัพย์กลัวต้องหนีไป การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย จำเลยย่อมมีความผิดฐานปล้นทรัพย์