คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 294

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 90 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหะสถาน: การเข้าถึงตัวทรัพย์สินด้วยมือและเครื่องมือ
จำเลยยื่นมือเข้าไปทางประตู เอาไม้เล็กประมาณ 1 แขนสอยเอากางเกงของเจ้าทรัพย์ ที่ตากไว้ข้างฝาในห้องไป ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 288 หาใช่ตามมาตรา 294 ข้อ 1 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการพบเห็นจำเลยกับโคที่หายใกล้เคียงเวลาและสถานที่เกิดเหตุ บ่งชี้ความผิดฐานลักทรัพย์
ขณะพะยานพบจำเลยกับพวกพาโคของเจ้าทรัพย์ไปนั้น เป็นเวลาพระอาทิตย์จวนจะขึ้นของคืนที่โคหายนั้นเอง และที่ ๆ พะยานพบจำเลยกับพวกพาโคไปก็ห่างจากที่โคหาย ราว 200 เส้นเท่านั้น รูปคดีบ่งชัดว่าจำเลยกับพวกเป็นผู้ร้ายลักโครายนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานพยานบุคคลยืนยันความผิดฐานลักทรัพย์ ผู้ต้องหาพาโคหายไปในเวลาและสถานที่ใกล้เคียง
ขณะพยานพบจำเลยกับพวกพาโคของเจ้าทรัพย์ไปนั้น เป็นเวลาพระอาทิตย์จวนจะขึ้นของคืนที่โคหายนั้นเอง และที่ๆพยานพบจำเลยกับพวกพาโคไปก็ห่างจากที่โคหาย ราว 200 เส้นเท่านั้น รูปคดีบ่งชัดว่า จำเลยกับพวกเป็นผู้ร้ายลักโครายนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์กระบือ: ขาดหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับความผิด
ไม่ปรากฏว่ากระบือของเจ้าทรัพย์หายไปแต่เวลาใด แต่ไปพบจำเลยอยู่กับกระบือเป็นเวลากลางคืนแล้ว ถ้ากระบือหายไปในตอนเช้า ก็เป็นระยะเวลาห่างจากที่พบจำเลยกับกระบือมาก ทั้งระยะทางจากที่กระบือหาย จนถึงที่พบจำเลยกับกระบือห่างกันถึง 150 เส้น จึงยังสันนิษฐานไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ลักกระบือไปจากทำเลเลี้ยง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์สินชั่วคราวและการลักทรัพย์: การที่การช่วยถือทรัพย์ไม่อาจตัดสิทธิเจ้าของได้
เจ้าทรัพย์ยอมให้จำเลยช่วยถือทรัพย์ไว้แทนตนและไปด้วยกัน การครอบครองในทรัพย์ยังตกอยู่แก่เจ้าของทรัพย์ การที่จำเลยบังอาจพาทรัพย์นั้นหนีไป ให้พ้นจากความครอบครองของเจ้าของทรัพย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถือครองทรัพย์สินและการลักทรัพย์: การครอบครองยังอยู่กับเจ้าของ แม้จะให้ผู้อื่นช่วยถือ
เจ้าของทรัพย์ยอมให้จำเลยช่วยถือทรัพย์ไว้แทนตนและไปด้วยกันการครอบครองในทรัพย์ยังตกอยู่แก่เจ้าของทรัพย์ การที่จำเลยบังอาจพาทรัพย์นั้นหนีไป ให้พ้นจากความครอบครองของเจ้าของทรัพย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขัดแย้งในตัวเอง: ลักทรัพย์ vs รับของโจร โจทก์ฟ้องทั้งสองฐานไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม ถึง 19 กันยายน 2490 จำเลยสมคบกันลักไม้สักหรือมิฉะนั้นตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยรับไม้สักนั้นไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย ต่อมาตำรวจค้นพบไม้สักที่จำเลยลักไปที่ข้างรั้วบ้านของจำเลย ขอให้ลงโทษ ดังนี้เป็นฟ้องที่ขัดกันอยู่ในตัว ใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย
(อ้างฎีกา 975/2480)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขัดแย้งในตัว: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร โจทก์ฟ้องได้ฐานเดียว
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม ถึง 19 กันยายน 2490 จำเลยสมคบกันลักไม้สัก หรือมิฉะนั้นตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยรับไม้สักนั้นไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย ต่อมาตำรวจค้นพบไม้สักที่จำเลยลักไปที่ข้างรั้วบ้านของจำเลยขอให้ลงโทษ ดังนี้เป็นฟ้องที่ขัดกันอยู่ในตัว ใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย (อ้างฎีกา 975/2480)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อแตกต่างข้อเท็จจริงในคำฟ้องกับทางพิจารณาต้องเป็นสาระสำคัญจึงจะยกฟ้องได้
การต่างกันในข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณากับที่ปรากฏในฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง นั้น จะต้องเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญในคำฟ้อง
ในคดีลักทรัพย์ การแตกต่างเพียงคำนำหน้าชื่อเจ้าทรัพย์ว่า"นาย" หรือ "นาง" นั้นเป็นข้อปลีกย่อย หาทำให้จำเลยหลงผิดในการต่อสู้คดีอย่างใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อแตกต่างเล็กน้อยในคำฟ้องไม่ถึงขั้นทำให้ศาลต้องยกฟ้อง หากไม่เป็นสาระสำคัญ
การต่างกันในข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณากับที่ปรากฏในฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 192 วรรค 2 นั้น จะต้องเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญในคำฟ้อง
ในคดีลักทรัพย์ การแตกต่างเพียงคำนำหน้าชื่อเจ้าทรัพย์ว่า "นาย" หรือ "นาง" นั้น เป็นข้อปลีกย่อย หาทำให้จำเลยหลงผิดในการต่อสู้คดีอย่างใดไม่
of 9