พบผลลัพธ์ทั้งหมด 204 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมคิดลักทรัพย์: ตัวการร่วมกระทำผิดจากการแบ่งของที่ได้จากการลักทรัพย์
จำเลยได้ไปที่ร้านเจ้าทรัพย์ในวันเกิดเหตุหลายครั้งโดยมีพวกไปด้วยและต่อมาในคืนเกิดเหตุพวกของจำเลยเข้าทำการลักทรัพย์ในร้าน จำเลยคอยข้างนอกเพราะเกรงว่าเจ้าทรัพย์ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนจะจำหน้าได้เมื่อได้ทรัพย์มาแล้วแบ่งกันจำเลยได้รับส่วนแบ่ง พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยได้สมคบร่วมคิดและร่วมมือกระทำความผิดกับพรรคพวกต้องเป็นตัวการลักทรัพย์รายนี้ด้วยกัน
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง: ต้องมีเจตนาหลอกลวง ผู้ถูกหลอกเชื่อ และส่งทรัพย์ให้
ความสำคัญของความผิดฐานฉ้อโกง จะต้องปรากฏว่ามีเจตนาทุจจริตกล่าวเท็จหลอกลวง ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อ และส่งทรัพย์ให้ฟ้องโจทก์เพียงว่า จำเลยกล่าวเท็จอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่เป็นองค์ความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง: ต้องมีเจตนาหลอกลวง ผู้ถูกหลอกเชื่อ และส่งทรัพย์ให้
ความสำคัญของความผิดฐานฉ้อโกง จะต้องปรากฏว่ามีเจตนาทุจริตกล่าวเท็จหลอกลวง ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและส่งทรัพย์ให้ ฟ้องโจทก์ ปรากฏแต่เพียงว่าจำเลยกล่าวเท็จอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่เป็นองค์ความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ แม้จะมีการทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์ ศาลลงโทษได้ตามฟ้อง
เข้าไปยกหีบบรรจุทรัพย์ซึ่งวางอยู่บนร้านที่เจ้าทรัพย์นอนต่อหน้าเจ้าทรัพย์ผู้กำลังนั่งอยู่ที่ร้านนั้น พอคว้าหีบเจ้าทรัพย์ก็แย่งไว้ หีบจึงหลัดตกน้ำลงไปกลับใช้อาวุธทำร้ายเจ้าทรัพย์แล้วหนีไปแต่ตัวดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามชิงทรัพย์เท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยปล้นโดยทำให้เจ้าทรัพย์บาดเจ็บขอให้ลงโทษตามมาตรา 301,298 แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยพยายามชิงทรัพย์ กระทำให้เจ้าทรัพย์บาดเจ็บ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์ตามมาตรา 300,60 โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคท้ายได้เพียงแต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้โจทก์แถลงการณ์ด้วยวาจาเท่านั้น ยังไม่เป็นการจำเป็นที่จะต้องให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยปล้นโดยทำให้เจ้าทรัพย์บาดเจ็บขอให้ลงโทษตามมาตรา 301,298 แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยพยายามชิงทรัพย์ กระทำให้เจ้าทรัพย์บาดเจ็บ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานพยายามชิงทรัพย์ตามมาตรา 300,60 โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคท้ายได้เพียงแต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้โจทก์แถลงการณ์ด้วยวาจาเท่านั้น ยังไม่เป็นการจำเป็นที่จะต้องให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกายจากอาวุธปืน การประเมินลักษณะบาดแผลและเจตนาของผู้กระทำผิด
ใช้ปืนลูกซองสั้นยาว 1 คืบ กระสุนมีขนาด 2 มิลลิเมตร ลำกล้องใหญ่ส่งกระสุนไม่ตรง ยิงเขาในระยะห่างกันเพียง 1 วา กระสุนถูกเขาทั้ง 23 แผล ฝังเข้าไปในเนื้อเพียงเล็กน้อย คือพอผิวหนังชั้นนอกขาด รักษาหายภายใน 3 วัน ดังนี้มีผิดเพียง ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 254.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน: ความรุนแรงของการกระทำและโทษทางอาญา
ใช้ปืนลูกซองสั้นยาว 1 คืบกระสุนมีขนาด 2 มิลลิเมตรลำกล้องใหญ่ส่งกระสุนไม่แรงยิงเขาในระยะห่างกันเพียง 1 วา กระสุนถูกเขาถึง 23 แผลฝังเข้าไปในเนื้อเพียงเล็กน้อย คือพอผิวหนังชั้นนอกขาด รักษาหายภายใน 3 วัน ดังนี้มีผิดเพียง กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมนอกหน้าที่และการป้องกันตัวโดยชอบธรรม เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจจับกุมในเคหสถาน
กรมการอำเภอตั้งกำนันตรวจโรงฆ่าสัตว์ และทำการจับกุมผู้ฆ่าสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต กำนันไปพบผู้หาบของมาสงสัยว่า จะทำการขายเนื้อสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาต จะเข้าจับกุมผู้นั้นหนีเข้าบ้าน กำนันตามเข้าไปเพื่อจะจับ จำเลยหยิบมีดมา เงื้อจะทำร้ายพอดีตำรวจจับจำเลย ดังนี้ ไม่มีเหตุถือว่า เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า และคดีนี้กำนันไม่มีอำนาจเข้าไปจับในห้อง จึงเป็นการนอกหน้าที่ จำเลยทำการป้องกันได้ ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดถอนพืชผลยังไม่ถือเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปจนกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไป
ตามสภาพของพืชผลต้องติดอยู่กับต้นหรือปลูกปักอยู่ในดินการทำให้ผลไม้หลุดออกจากต้น เช่นสอยมะม่วงหรือตัดขนุนให้หล่นลงมา หรือขุดถอนมันหรือต้นหอมให้หลุดพ้นขึ้นจากดินโดยยังไม่ทันเอาไปด้วยนั้นยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปดังที่ท่านบัญญัติไว้ใน กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา288
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมาทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไปพอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสียก่อนดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมาทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไปพอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสียก่อนดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินความผิดฐานทำร้ายร่างกายเมื่อใช้ไม้กวาดตี แต่ผู้ถูกทำร้ายยกแขนป้องกันจนไม่ถึงบาดเจ็บ
คดีที่มีแต่ฟ้องและคำรับแม้ศาลล่างตัดสินต้องกันมา
คู่ความก็ฎีกาว่าตามคำฟ้องและคำรับนั้นลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายได้
ใช้ด้ามไม้กวาดตีศีรษะแต่เขายกแขนรับ ไม่ถึงบาดเจ็บ ศาลลงโทษเพียงฐานทำร้ายไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่ลงโทษฐานพยายามทำร้ายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254,60
คู่ความก็ฎีกาว่าตามคำฟ้องและคำรับนั้นลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายได้
ใช้ด้ามไม้กวาดตีศีรษะแต่เขายกแขนรับ ไม่ถึงบาดเจ็บ ศาลลงโทษเพียงฐานทำร้ายไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่ลงโทษฐานพยายามทำร้ายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ แม้ผู้ถูกขู่ไม่มีทรัพย์สินในตัว ณ ขณะนั้น
โจทก์บรรยายฟ้องมีข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีปืนชักปืนออกขู่เข็ญจะทำร้ายบังคับให้เขาส่งเงิน 500,000 บาท แก่จำเลย ถ้าข้อเท็จจริงไม่ปรากฎเป็นอย่างอื่น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ลงมือกระทำการชิงทรัพย์แล้วตาม ก.ม. จึงเป็นองค์ความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์แล้ว
การพยายามลักทรัพย์ หรือชิงทรัพย์นั้น แม่จะปรากฎภายหลังว่า ทรัพย์ไม่มีอยู่ ก็หาทำให้ผู้กระทำพ้นความผิดฐานพยายามได้ไม่
การพยายามลักทรัพย์ หรือชิงทรัพย์นั้น แม่จะปรากฎภายหลังว่า ทรัพย์ไม่มีอยู่ ก็หาทำให้ผู้กระทำพ้นความผิดฐานพยายามได้ไม่