คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 60

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 204 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องพยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายมีบาดแผลถึงบาดเจ็บ โดยจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่ลูกปืนที่ใช้ยิงมีแรงระเบิกไม่แรงพอ ผู้เสียหายจึงไม่ตาย ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249,60 ดังนี้ เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าจำเลยมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 254 ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานทำร้าย่างกายตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254 ได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางอาญา: เลือกโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดหลายกระทง
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรถ 3 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 4) พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรค 3 แล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60 ด้วยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น: การพิจารณาโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดตามมาตรา 301 วรรคสาม
ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสาม ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4)พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 วรรคสามแล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60ด้วยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493-494/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามเจ้าพนักงานใช้อำนาจในทางที่ผิด ไม่ต้องวินิจฉัยความผิดอื่นซ้ำ
เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทางอันมิชอบ บังคับให้เขาหาทรัพย์หรือผลประโยชน์อย่างใดๆ อันมิควรได้ตามกฎหมาย มาให้แก่ตัวมันนั้น ถ้าผู้ที่ถูกบังคับไม่ได้ตกลงหรือยอมจะให้เงินตามที่มันเรียกร้องแล้ว ก็มีความผิดเพียงฐานพยายามตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 136 เท่านั้น
เมื่อศาลลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136 ฐานพยายามแล้ว ความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพตามมาตรา268 ซึ่งเป็นบทมีโทษเบา ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจะเป็นความผิดสำเร็จหรือขั้นพยายามเพราะการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดหลายบทและศาลได้ใช้บทมีโทษหนักลงโทษไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493-494/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขู่เรียกทรัพย์: การกระทำที่ผู้ถูกข่มขู่ไม่ยอมจ่ายเงิน ทำให้ความผิดไม่สำเร็จ
เจ้าพนักงานให้อำนาจในตำแหน่งที่โดยทางอันมิชอบ บังคับให้เขาหาทรัพย์หรือผลประโยชน์อย่างใด ๆ อันมิควรได้ตามกฎหมาย มา ให้แก่ตัวมันนั้น ถ้าผู้ที่ถูกบังคับไม่ได้ตกลงหรือยอมจะให้เงินตามที่มันเรียกร้องแล้วก็มีความผิดเพียงฐานพยายามตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 136 เท่านั้น
เมื่อศาลลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 136 ฐานพยายามแล้ว ความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพตามมาตรา 268 ซึ่งเป็นบทมีโทษเบา ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจะเป็นความผิดสำเร็จหรือคั่นพยายามเพราะการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดหลายบทและศาลได้ใช้บทมีโทษหนักลงโทษไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดยักย้ายข้าวตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว 2489 และการริบข้าวที่เกี่ยวเนื่องกับความผิด
ทำสัญญาซื้อข้าวกัน 1,000 กระสอบแล้วส่งคนเอาเรือเอี้ยมจุ๊นไปจัดการขนข้าวจากโกดังที่เก็บบรรทุกลงเรือพอบรรทุกลงเรือได้ 716 กระสอบก็ถูกจับดังนี้ ต้องฟังว่า จำเลยได้ยักย้ายข้าว 716 กระสอบจากสถานที่เก็บฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว 2489 ซึ่งห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ ฯลฯ เป็นความผิดสำเร็จแล้วตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว 2489 มาตรา 17 ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ 2 พ.ศ.2489 มาตรา 10 ข้าว 716 กระสอบที่ขนย้ายแล้ว ก็ตกเป็นข้าวที่ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิด ซึ่งตามมาตรา 21ทวิ บัญญัติให้ริบเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายข้าวสารออกจากสถานที่เก็บตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ถือเป็นความผิดสำเร็จและต้องริบข้าว
ทำสัญญาซื้อข้าวกัน 1000 กระสอบ แล้วส่งคนเอาเรือเอี้ยมจัดการขนข้าวจากโกดังที่บรรทุกลงเรือพอบรรทุกลงได้ 716 กระสอบ ก็ถูกจับต้องฟังว่า จำเลยได้ยักข้าว 716 กระสอบจากที่เก็บ ฝ่าฝินประกาศคณะการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว 2489 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดยักย้ายข้าวจากสถาน ฯลฯ เป็นความผิดสำเร็จตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวตามมาตรา 17 ซึ่งได้แก้ไขเติมโดยฉบับที่ 2 พ.ศ.2489 ว่า 10 ข้าว 716 กระสอบซ้ายแล้ว ก็ตกเป็นข้าวที่ซึ่งต่อเนื่องกับความผิด ซึ่งตามมาตรา 21 ทวิ บัญญัติให้ริบเสีย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์สำเร็จบางส่วน แม้จะเอาทรัพย์ไปไม่ทั้งหมด ก็ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้
จำเลยเจตนาจะลักตะเกียงท้ายรถยนต์ของผู้เสียหาย จึงไขตะปูควงตะเกียงท้ายรถยนต์ จนตะเกียงหลุดจากท้ายรถแล้วดวงหนึ่ง อีกดวงหนึ่งยังไม่หลุด ดังนี้ถือว่าจำเลยกระทำการจนตะเกียงหลุดเคลื่อนออกไปจากท้ายรถแล้วเรียกได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ไปเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้วส่วนหนึ่ง แม้ทรัพย์สิ่งอื่นจะยังเอาไปไม่สำเร็จก็ตาม (อ้างฎีกาที่ 999/2485)
โจทก์ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์(ในข้อเท็จจริง) ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอ้างว่า ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 220 โจทก์จึงทำฎีกามายื่นในวันรุ่งขึ้นใหม่อีกครั้งเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ดังนี้เมื่อมายื่นภายในอายุความฎีกา ศาลชั้นต้นสั้งรับไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์สำเร็จบางส่วน: การกระทำที่ทำให้ทรัพย์หลุดเคลื่อนที่ถือเป็นเอาทรัพย์ไป
จำเลยเจตนาจะลักตะเกียงท้ายรถยนต์ของผู้เสียหาย จึงไขตะปูควงตะเกียงท้ายรถยนต์ จนตะเกียงหลุดจากท้ายรถแล้วดวงหนึ่ง อีกดวงหนึ่งยังไม่หลุดดังนี้ถือว่าจำเลยกระทำการจนตะเกียงหลุดเคลื่อนออกไปจากท้ายรถแล้วเรียกได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ไป เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้วส่วนหนึ่ง แม้ทรัพย์สิ่งอื่นจะยังเอาไปไม่สำเร็จก็ตาม(อ้างฎีกาที่ 999/2485)
โจทก์ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (ในข้อเท็จจริง) ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอ้างว่า ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220โจทก์จึงทำฎีกามายื่นในวันรุ่งขึ้นใหม่อีกครั้งเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายดังนี้เมื่อมายื่นภายในอายุความฎีกา, ศาลชั้นต้นสั่งรับไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1485/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่า: การกระทำที่หวุดหวิดจนเกือบสำเร็จเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยหยิบเอาปืนสะเตนขึ้นกระชากลูกเลื่อนแล้วปล่อยลูกเลื่อนเข้าที่ กระสุนขึ้นลำกล้องหันปากกระบอกปืนมาทางหน้าอกผู้เสียหาย ห่างวาเศษพร้อมที่จะลั่นไกยิงปืนให้ลูกกระสุนถูกผู้เสียหายตายได้แล้ว หากมีผู้อื่นปัดกระบอกปืนเบนขึ้นไปเสียเป็นการขัดขวงไม่ให้จำเลยเหนี่ยวไกยิงผู้เสียหายได้ ดังนี้การกระทำของจำเลยหวุดหวิดที่จะยิงผู้เสียหายให้ตายได้ทีเดียว จึงย่อมเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายตามกฎหมายแล้ว
of 21