คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 71

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 296 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษในความผิดหลายกระทง ศาลไม่จำเป็นต้องลงโทษขั้นต่ำทุกกระทง
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 71 บัญญัติว่าในคำพิพากษาอันเดียวกันศาลจะลงโทษทุกกะทงก็ได้ ดังนี้ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าศาลจะไม่เรียงกะทงลงโทษก็ได้ และเมื่อไม่เรียงกะทงลงโทษแล้ว ก็ไม่จำต้องลงโทษไม่น้อยกว่าตราคั่นต่ำของทุกกะทงความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษกระทงความผิด – ศาลมีอำนาจไม่เรียงกระทงและไม่ต้องลงโทษขั้นต่ำทุกกระทง
กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 71 บัญญัติว่า ในคำพิพากษาอันเดียวกันศาลจะลงโทษทุกกระทงก็ได้ ดังนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าศาลจะไม่เรียงกระทงลงโทษก็ได้ และเมื่อไม่เรียงกระทงลงโทษแล้ว ก็ไม่จำต้องลงโทษไม่น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำของทุกกระทงความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้จะลงโทษต่างรูปแบบ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้ศาลหนึ่งจะลงโทษเป็นกระทง อีกศาลหนึ่งลงโทษเป็นบท ก็ไม่เป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาโทษเท่ากัน แม้รูปแบบการลงโทษต่างกัน ถือเป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้ศาลหนึ่งจะลงโทษเป็นกะทง อีกศาลหนึ่งลงโทษเป็นบท ก็ไม่เป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับโทษคดีฝิ่นตามราคาและอำนาจรวมโทษ
พ.ร.บ.ฝิ่น (ฉะบับที่ 6) 2481 มาตรา 6 ได้บัญญัติให้ปรับตามราคามูลฝิ่น เมื่อไม่มีราคามูลฝิ่น ก็ต้องปรับตามอัตราคั่นต่ำที่กฎหมายระบุไว้.
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
ความผิดหลายกะทงตาม พ.ร.บ.ฝิ่นนั้น ศาลมีอำนาจให้ปรับรวมกันได้ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 71.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับตามราคามูลฝิ่นเมื่อไม่มีราคา และการรวมโทษในความผิดหลายกระทง
พระราชบัญญัติฝิ่น (ฉบับที่ 6)2481 มาตรา 6 ได้บัญญัติให้ปรับตามราคามูลฝิ่น เมื่อไม่มีราคามูลฝิ่น ก็ต้องปรับตามอัตราขั้นต่ำที่กฎหมายระบุไว้(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
ความผิดหลายกระทงตามพระราชบัญญัติฝิ่นนั้น ศาลมีอำนาจให้ปรับรวมกันได้ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 71

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบร่วมกันปล้นทรัพย์: พฤติการณ์บ่งชี้การมีส่วนร่วมแม้ไม่ได้ลงมือโดยตรง
เมื่อจำเลยกับพวกได้ปล้นทรัพย์ของ ก. รายหนึ่งแล้วจำเลยได้ร่วมทางไปกับพวกโจรที่ไปปล้นมาด้วยกันแล้วไปพบ ค. เดินสวนทางมาพวกโจรในกลุ่มที่ไปด้วยกันกับจำเลยได้พูดว่าเร็วอ้ายเสือและบังคับให้ ค.หยุด แล้วพวกโจรนั้นเองได้เข้าแย่งเอาปืนและทรัพย์อื่นของ ค. ไปต่อหน้าจำเลยซึ่งยืนอยู่ห่างเพียง 2 วา เมื่อได้ทรัพย์ของ ค. แล้ว ก็พาหนีไปพร้อมกับจำเลย พฤติการณ์ต่างๆ แสดงว่า จำเลยได้สมคบในการปล้นทรัพย์ของ ค. อีกกระทงหนึ่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความบทกฎหมายอาญาที่แก้ไขเพิ่มเติม ศาลพิจารณาตามบทแก้ไขล่าสุดได้ แม้ท้ายฟ้องระบุเพียงบทเดิม
ฟ้องหาว่าจำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังคนเพื่อเอาสินไถ่ อ้างบทกฎหมายขอให้ลงโทษ เพียงกฎหมายลักษณะมาตรา 270 เท่านั้น ย่อมต้องเข้าใจว่าหมายถึงมาตรา 270 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย(ฉบับที่ 4)2477 แล้ว ศาลลงโทษตามพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ไม่เป็นการเกินคำขอท้ายฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้เป็นคำให้การก็ถือเป็นการแจ้งความได้
การให้การหรือให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะผู้เสียหายนั้นอยู่ในลักษณะที่เรียกว่าเป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเหมือนกัน ถ้าเป็นเท็จก็ผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกับถ้อยคำในวันที่ 13ดังนี้ ลงโทษได้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้คำรับสารภาพของจำเลยประกอบพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ในคดีอาญา ศาลฎีกาตัดสินให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ได้
โจทก์ฟ้องคดีอาญาอ้างบทลงโทษเกินกว่าสิบปี และโทษเบารวมกันมา จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพะยานประกอบในข้อหาอุกฉกรรจ์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิด ศาลก็ลงโทษในข้อหาฐานเมาได้ แม้คำพะยานโจทก์ในข้อหานี้จะไม่มีน้ำหนักก็ตาม เพราะจำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ไม่มีกฎหมายบังคับให้สืบพะยานประกอบ เช่น ข้อหาอุกฉกรรจ์
of 30