พบผลลัพธ์ทั้งหมด 93 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลสาหัสหรือไม่สาหัสเป็นปัญหาข้อเท็จจริง การรอการลงอาญาอยู่ในดุลยพินิจศาล
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.256 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์ลงโทษตาม ม.254 -55 จำคุก 6 เดือนและให้รอการลงอาญาเป็นการแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ ปัญหาว่าบาดแผลสาหัสหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ดุลยพินิจ การจะให้รอการลงอาญาหรือไม่เป็นเรื่องอยู่ในดุลยพินิจของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไล่รื้อโรงเรือนออกจากที่ดิน การกระทำไม่ถึงขั้นเป็นความผิดทางอาญา
มีมูลเป็นความผิดทางอาญา+ไม่ เป็นปัญหากฎหมาย +เข้าไปในบ้าน+พูดไล่ให้เขารื้อเรือน+ให้พ้นที่ของตน ผู้ถูกไล่+ผัดจำเลยก็ออกจากเรือนไปยังไม่เป็นผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลและขอบเขตการฎีกาในคดีความมั่นคงสำหรับชาวต่างชาติสัญชาติฝรั่งเศส
โปรโตคลว่าด้วยอำนาจศาลใช้แก่คนสังกัดชาติฝรั่งเศสข้อ 2,5(5) ในคดีที่คนในบังคับฝรั่งเศสเชื้อสายชาวเอเซียเป็นคู่ความ หากว่าคดีนั้นได้ยื่นฟ้องภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายสยามออกใช้ครบถ้วนแล้วย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมทรัพย์และผิดสัญญาชำระหนี้ ไม่เป็นความผิดทางอาญา
เพียงแต่ขอยืมเอาของไปขยเพื่อเอาเงินมาใช้แล้วผิดสัญญาไม่ใช้เงินกล่าวของภายในกำหนดดังนี้คดียังไม่มีมูลอันจะเป็นผิดทางอาญา
+กฎหมายรูปคดีดังที่ศาลล่างฟังมา ปัญหามีว่าคดีจะมีมูลเป็นผิดทางอาญาหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
+กฎหมายรูปคดีดังที่ศาลล่างฟังมา ปัญหามีว่าคดีจะมีมูลเป็นผิดทางอาญาหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการหลอกลวงทำสัญญาขายฝาก: เริ่มนับเมื่อทราบความจริง
สมคบกันหลอกลวงเอาของที่ผู้อื่นไปทำสัญญาขายฝากไว้กับโจทก์ ถ้ายังไม่เกิน 1 ปีนับแต่โจทก์ทราบว่าที่ ๆ เอามาขายฝากไม่ใช่ที่ของจำเลยจนถึงวันฟ้อง โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ คดียังไม่ขาดอายุความตามมาตรา 448
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องระบุข้อกฎหมายชัดเจนในชั้นฎีกาเอง อ้างอิงจากข้อที่ยกขึ้นในศาลล่างเท่านั้น
ข้อกฎหมายที่กล่าวอ้างขึ้นมาในชั้นฎีกานั้นต้องกล่าวไว้ให้ชัดเจนในฎีกาจะกล่าวท้าวถึงที่อ้างไว้ในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้ แลต้องเป็นข้อที่ได้กล่าวกันมาแต่ในชั้นศาลล่างมิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจากทำร้ายร่างกายไม่สาหัสเป็นสาหัสในชั้นอุทธรณ์ ถือเป็นการแก้ข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 3 เดือนตาม ม.254 ศาลอุทธรณ์แก้จำคุก 2 ปี ตาม ม.256 เช่นนี้เป็นการแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ ปัญหาข้อเท็จจริงปัญหาข้อที่ว่าบาดแผลสาหัสหรือไม่นั้นในคดีนี้เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาในข้อหาข่มขืน: การเปลี่ยนแปลงทั้งตัวบทและอัตราโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปีตาม ม.276 -243 ศาลอุทธรณ์แก้จำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ตามมาตรา 243 แต่บทเดียวเป็นการแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสินบน/สินจ้างเพื่อเอื้อประโยชน์ในหน้าที่ราชการ แม้ไม่ใช่การนอกหน้าที่ ก็ถือเป็นความผิด
สัญญาให้สินน้ำใจอันจะเป็นผิดตาม ม.1+7 นั้นจะต้องปรากฎว่าได้กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณแก่บุคคลผู้ให้สินน้ำใจ ความผิดตาม ม.137 นั้นผู้กระทำไม่จำเป็นต้องทำการนอกเหนือจากหน้าที่ เพียงแต่รับสินจ้างเพื่อช่วยเหลือกิจการในหน้าที่ก็เป็นผิดตามมาตรานี้ได้ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.213 ฎีกาอุทธรณ์ อำนาจศาลฎีกา เหตุลักษณคดี ฟ้องหาว่าจำเลยให้แลรับสินน้ำใจซึ่งกันและกัน เมื่อไม่ปรากฎว่าสัญญานั้นเป็นสัญญารับสินบน แม้จำเลยคนใดคนหนึ่งจะมิได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องตลอดถึงคนที่ไม่ฎีกาด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในความผิดฐานรับของโจรและการเพิ่มโทษจำเลยตามประวัติโทษเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 321 แลในฟ้องตอนหนึ่งกล่าวว่าจำเลยเคยต้องโทษมาแต่ก่อนขอให้ศาลเพิ่มโทษจำเลยด้วย แต่คำขอท้ายฟ้องมิได้อ้างมาตรา 72 ขึ้นมา แลจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดดังฟ้องโจทก์ทุกประการดังนี้ต้องแปลแต่เพียงว่า จำเลยรับว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรเท่านั้น จะเพิ่มโทษจำเลยด้วยไม่ได้