คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันฆ่า: พฤติการณ์ร่วมกันไปในที่เกิดเหตุ, หนีไปด้วยกัน, และมีสาเหตุขัดแย้งเป็นหลักฐานสนับสนุน
สองคนไปเรียกให้เขาเปิดประตู แล้วคนหนึ่งยิงเขาตายแล้วหนีไปด้วยกันฟังได้ว่าทั้งสองคนสมคบกันเป็นตัวการยิงเขาตายด้วยกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายในงานทอดผ้าป่า: การต่อสู้ป้องกันตัวและเหตุเกิดจากการท้าทาย ไม่เข้าข่ายสมคบคิดทำร้ายร่างกาย
ท้าทายแล้วจำเลยกับพวกต่างทยอยกันเข้าต่อสู้ทำร้ายกับผู้บาดเจ็บในทันทีทันใดไม่ได้สมคบกัน จำเลยไม่ต้องร่วมรับโทษในบาดแผลที่คนอื่นกระทำให้สาหัส หรือในทุกๆ แผลรวมกันจนเป็นเหตุให้รับทุกขเวทนาถึงสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรี่ยไรในคูบ้านส่วนตัวไม่ถือเป็นที่สาธารณะ แม้เปิดให้คนทั่วไปใช้สัญจรได้
ทำการเรี่ยไรในคูบ้านซึ่งเป็นคูเข้าถึงบ้านผู้ที่อยู่ริมคลองลึกเข้าไป แม้ใครๆจะเข้าออกได้ ก็เป็นเรื่องถือประเพณีเอื้อเฟื้อวิสาสะกันในท้องถิ่นไม่เป็นการเรี่ยไรในที่สาธารณะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 388/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาลักทรัพย์ต้องระบุเจ้าของทรัพย์และรายละเอียดการครอบครองให้ชัดเจน มิฉะนั้นฟ้องไม่ชัดแจ้ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ขณะเกิดเพลิงไหม้ตลาดเพ็ชรบูรณ์นายเปรื่องผู้จัดการสำนักงานไร่ยาสูบได้ขนสิ่งของออกจากห้องเพื่อหนีเพลิงแล้วมีคนร้ายลักน้ำตาลไป 1 ถัง แล้วบรรยายต่อไปว่าจำเลยลักหรือรับน้ำตาลนั้นไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่ปรากฏเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์นับว่าเป็นฟ้องที่ไม่ระบุรายละเอียดตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการตีความรัฐธรรมนูญและขอบเขตของกฎหมายที่ใช้ย้อนหลัง
รัฐธรรมนูญมาตรา 62 ซึ่งบัญญัติว่า สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งสิทธิเด็ดขาดในการตีความแห่งรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่เป็นข้อบัญญัติตัดอำนาจศาลที่จะตีความบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ศาลจึงมีอำนาจตีความบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญได้
ในการใช้หรือบังคับตามกฎหมายนั้น ศาลย่อมต้องแปลหรือตีความหมายของกฎหมาย หากไม่ให้ศาลแปล ศาลก็ย่อมใช้กฎหมายไม่ได้
รัฐธรรมนูญ มาตรา 14 มีข้อความรับรองถึงเสรีภาพของบุคคลในการต่างๆ ดังระบุไว้นั้น มีความหมายรับรองถึงเสรีภาพในการกระทำด้วย
คำว่ามีเสรีภาพบริบูรณ์ในร่างกายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 14นั้นมีความหมายว่า ไม่ให้ใครมาทำอะไรแก่เราและหมายถึงเราจะทำอะไรก็ได้ด้วย หากการนั้นอยู่ภายในบังคับของกฎหมาย
คำว่าภายในบังคับแห่งกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 14 นั้นหมายถึงว่าไม่มีกฎหมายห้ามไว้ โดยตรงหรือโดยอ้อม และหมายถึงบทกฎหมายที่มีอยู่ในเวลานั้น ไม่ใช่หมายถึงบทกฎหมายที่จะมีมาภายหน้า
กฎหมายใดบัญญัติย้อนหลัง ลงโทษการกระทำ การเขียนการพูดฯลฯ ที่แล้วมา ย่อมขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 14 กฎหมายนั้นย่อมตกเป็นโมฆะ จะใช้บังคับไม่ได้
พระราชบัญญัติอาชญากรสงครามเฉพาะที่บัญญัติย้อนหลังนั้น ย่อมขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 14 จึงเป็นโมฆะส่วนบทบัญญัติที่ว่าด้วยการกระทำหลังจากใช้พระราชบัญญัตินี้แล้ว เป็นอันใช้บังคับได้โดยสมบูรณ์
สภาผู้แทนราษฎรอาจออกกฎหมายย้อนหลังได้ต่อเมื่อกฎหมายที่ให้ย้อนหลังนั้น ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่นพระราชบัญญัติงบประมาณ
ศาลเป็นผู้มีอำนาจที่จะชี้ขาดกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าเป็นโมฆะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 61 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติอาชญากรสงครามอย่างเดียว เมื่อศาลเห็นว่า จะลงโทษตามพระราชบัญญัติอาชญากรสงครามไม่ได้แล้ว ก็ไม่ต้องพิจารณาว่า จำเลยจะมีความผิดตามกฎหมายอื่นหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบหมายให้เก็บทรัพย์สินและการยักยอกทรัพย์
แก้เอากระเป๋าเงินไปจากเอวเจ้าทรัพย์โดยบอกว่าจะเอาไปเก็บไว้ให้ เจ้าทรัพย์มิได้ว่ากระไรดังนี้ ถือว่าได้รับมอบหมายจากเจ้าทรัพย์ ถ้าเอาทรัพย์นั้นเสียโดยเจตนาทุจริต ย่อมมีผิดฐานยักยอก
ฟ้องว่าเจ้าทรัพย์ฝากเงินให้จำเลยเก็บรักษาไว้แทน แล้วจำเลยยักยอกทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปเองโดยบอกว่าจะเก็บรักษาไว้ให้เจ้าทรัพย์ไม่ว่ากระไรดังนี้ ย่อมถือได้ว่า จำเลยได้รับฝากทรัพย์ไว้ จึงไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บรักษาหนังสือที่มีอากรแสตมป์และการลอกอากรแสตมป์โดยเจตนาทุจริตเป็นความผิด
การเก็บรักษาย่อมมีความหมายอย่างเดียวกับปกครองรักษา ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 131. เจ้าพนักงานมีหน้าที่เก็บรักษาหนังสือที่มีอากรแสตมป์ปิด.ได้ลอกเอาอากรแสตมป์ไปโดยเจตนาทุจริต เป็นความผิดตาม มาตรา131.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นภาษีศุลกากรตามสัญญาไมตรีสยาม-ฝรั่งเศส และการจำคุกแทนค่าปรับ
พ.ร.บ. ศุลกากรไม่มีบทห้ามมิให้จำคุกแทนค่าปรับเกินกว่า 6 เดือน ศาลจะจำคุกแทนค่าปรับเกินกว่า 6 เดือนตาม ม. 18 แห่งกฎหมายลักษรอาญาก็ได้ สัญญาทางพระราชไมตรีระหว่างสยามกับฝรั่งเศล ร.ศ. 112 ข้อ 5 (ยังคงใช้อยู่) นำสินค้าจากอินโดจีนเข้ามาในเขตต์สยาม ระยะ 25 กิโลเมตร์จากฝั่งแม่น้ำโขง ไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร แต่ถ้านำเข้าเกินเขตต์นั้นต้องเสียภาษี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอาวุธปืนให้ช่างซ่อมไม่ถือเป็นการใช้หรือวานให้ผู้อื่นกระทำผิดกฎหมาย
เอาปืนไปให้ช่างเหล็กซ่อมไม่เรียกว่าเป็นการใช้หรือวานให้ช่างเหล็กกระทำผิดต่อกฎหมายตามความใน ม.64 แห่งกฎหมายลักษณอาญา ไม่มีผิดตามกฎหมายข้างต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีฝิ่นและจำหน่าย ผู้จัดการร้านฝิ่นไม่มีความผิดฐานซื้อฝิ่นจากต่างจังหวัดมาจำหน่าย
ความผิดฐานมีฝิ่นที่เจ้าพนักงานกำหนดให้มีและซื้อขายกันในจังหวัดอื่นแต่นำมาไว้จำหน่ายในร้านฝิ่น ซึ่งตั้งอยู่อีกจังหวัดหนึ่งนั้น ฉะเพาะเจ้าของผู้รับอนุญาตตั้งร้านจำหน่ายฝิ่นแต่ผู้เดียวมีผิด ผู้จัดการไม่มีผิดด้วย มีฝิ่นแลมูลฝิ่นไม่ใช่ของรัฐบาลและการมีฝิ่นเจือปนไว้ในร้ายจำหน่ายฝิ่นนั้น ผู้สมคบกันมีความผิดทุกคน ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.218 คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย 1 ปีปรับ 17637 บาท จำเลยฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย
of 8