พบผลลัพธ์ทั้งหมด 220 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าใจสิทธิโดยชอบธรรม: เหตุยกเว้นความผิดฐานบุกรุก
ฝ่ายโจทก์และจำเลยต่างแย่งเพื่อเข้าอยู่ห้องรายพิพาทโดยต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ได้ทำสัญญามาจากผู้มีอำนาจให้เช่าจนคดีถึงฟ้องร้องกันในศาล ยังไม่ทราบว่าใครจะมีสิทธิดีกว่ากัน ตามรูปคดีมีเหตุผลทำให้จำเลยเข้าใจว่าฝ่ายจำเลยมีสิทธิในห้องพิพาทที่จะเอาคืนจากโจทก์ จำเลยจึงปิดประตูหน้าห้องหลังห้องพิพาท เพื่อไม่ให้โจทก์เข้าอยู่ ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการบังอาจอันจะเป็นความผิดทางอาญาฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งห้องเช่าและการกระทำเพื่อป้องกันการบุกรุก: การกระทำไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
ฝ่ายโจทก์และจำเลยต่างแย่งเพื่อเข้าอยู่ห้องรายพิพาทโดยต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ได้ทำสัญญามาจากผู้มีอำนาจให้เช่าจนคดีถึงฟ้องร้องกันในศาล ยังไม่ทราบว่าใครจะมีสิทธิดีกว่ากัน ตามรูปคดีมีเหตุผลทำให้จำเลยเข้าใจว่าฝ่ายจำเลยมีสิทธิในห้องพิพาทที่จะเอาคืนจาก โจทก์ จำเลยจึงปิดประตูหน้าห้องหลังห้องพิพาท เพื่อไม่ให้โจทก์เข้าอยู่ ดังนี้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการบังอาจ อันจะเป็นความผิดทางอาญาฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การห้ามปรามการรุกล้ำที่ดิน – เจตนาทางอาญา
มีคนมาขุดหลุมปักหลักล้อมรั้วที่นา จำเลยเข้าใจว่าตรงนั้นเป็นที่ของจำเลย จึงห้ามปรามโดยใช้วาจาขู่เข็ญและเงื้อจอบจะทำร้ายไม่ให้ผู้นั้นล้อมรั้วต่อไป ผู้นั้นมีความกลัวจึงไม่ล้อมรั้วต่อไป ดังนี้ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการที่จะห้ามปรามชายนั้นมิให้ล้อมรั้วยังไม่ได้ จะว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพก็ไม่ได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การห้ามปรามการล้อมรั้วในที่ดินที่เข้าใจผิด: ไม่มีเจตนาทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ
มีคนมาขุดหลุมปักหลักล้อมรั้วที่นา จำเลยเข้าใจว่าตรงนั้นเป็นที่ของจำเลย จึงห้ามปรามโดยใช้วาจาขู่เข็ญและเงื้อจอบจะทำร้ายไม่ให้ผู้นั้นล้อมรั้วต่อไป ผู้นั้นมีความกลัวจึงไม่ล้อมรั้วต่อไปดังนี้ จะว่าจำเลยไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการที่จะห้ามปรามชายนั้นมิให้ล้อมรั่วยังไม่ได้ จะว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพก็ไม่ได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจกำนันในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการกักขังชั่วคราว: ไม่มีเจตนาทุจริตหรือขัดขวางอิสรภาพ
ลูกบ้านได้ขอให้กำนันเอาตัวผู้เสียหายไปสอบถามให้แน่นอนในเรื่องที่ลูกบ้านสงสัยว่าผู้เสียหายซ่อนกระบือของตนที่หายไป กำนันจึงเอาตัวผู้เสียหายไปที่บ้านกำนัน เรียกร้องให้ผู้เสียหายใช้ราคากระบือแก่ลูกบ้านแล้วลูกบ้านจะไม่เอาเรื่อง ผู้เสียหายก็ยอมเสียค่ากระบือให้ลูกบ้านลูกบ้านก็ไม่เอาเรื่องต่อไปและกำนันได้จัดการทำหนังสือปรองดองกันไว้ แล้วไม่เอาตัวผู้เสียหายส่งไปยังพนักงานสอบสวน ดังนี้ ไม่ใช่มีเจตนาจะกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ จึงไม่มีผิดฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 136,137,138,142 และการที่กำนันกักตัวผู้เสียหายไว้จนชำระเงินกันแล้วจึงปล่อยนั้นเมื่อกำนันคิดว่ากำนันมีอำนาจทำได้ ไม่มีเจตนาที่จะกักขังให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียอิสระภาพแล้วกำนันก็ยังไม่ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 268,270
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ความผิดฐานยักย้ายข้าวออกนอกเขตห้าม: โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยทราบประกาศ
ความผิดฐานยักย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการสำรวจและกักกันข้าวนั้น การที่จำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการ ฯลฯ หรือไม่ ย่อมเป็นองค์ความผิดอยู่ด้วย ฉะนั้นในฟ้องจะต้องกล่าวไว้ด้วยว่าจำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการ ฯลฯ นั้นแล้ว และได้ประพฤติฝ่าฝืนโดยประการใด มิฉะนั้นจะเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิด ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
อนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดและมิได้รับว่าได้ทราบประกาศนี้แล้ว เช่นนี้ ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศดังกล่าวแล้ว มิฉะนั้นจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะประกาศเช่นนี้แม้จะได้ประกาศในหนังสือราชกิจจาก็เป็นประกาศธรรมดา
อนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดและมิได้รับว่าได้ทราบประกาศนี้แล้ว เช่นนี้ ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศดังกล่าวแล้ว มิฉะนั้นจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะประกาศเช่นนี้แม้จะได้ประกาศในหนังสือราชกิจจาก็เป็นประกาศธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาในความผิดฐานยักย้ายข้าว การที่จำเลยทราบประกาศห้ามขนย้ายเป็นองค์ความผิด โจทก์ต้องพิสูจน์
ความผิดฐานยักย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการสำรวจและกักกันข้าวนั้น การที่จำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯหรือไม่ ย่อมเป็นองค์ความผิดอยู่ด้วย ฉะนั้นในฟ้องจะต้องกล่าวไว้ด้วยว่าจำเลยได้ทราบประกาศของคณะกรรมการฯลฯนั้นแล้วและได้ประพฤติฝ่าฝืนโดยประกาศใดมิฉะนั้นจะเป็นฟ้องที่ขาดองค์ความผิด ไม่ชอบด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5)
อนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดและมิได้รับว่าได้ทราบประกาศนี้แล้ว เช่นนี้ ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศดังแล้ว มิฉะนั้นจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะประกาศเช่นนี้แม้จะได้ประกาศในหนังสือราชกิจจาก็เป็นประกาศธรรมดา ไม่มีกฎหมายสนับสนุนหรือให้อำนาจให้มีผลเสมือนหนึ่งเป็นกฎหมายอันประชาชนจะพึ่งปฏิเสธไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1176/2492)
อนึ่งเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดและมิได้รับว่าได้ทราบประกาศนี้แล้ว เช่นนี้ ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศดังแล้ว มิฉะนั้นจะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะประกาศเช่นนี้แม้จะได้ประกาศในหนังสือราชกิจจาก็เป็นประกาศธรรมดา ไม่มีกฎหมายสนับสนุนหรือให้อำนาจให้มีผลเสมือนหนึ่งเป็นกฎหมายอันประชาชนจะพึ่งปฏิเสธไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1176/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้และเจตนาฆ่า: ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเป็นฝ่ายท้าทายเขาว่าใครดีให้ลงมาเขาจึงลงมาจากเรือนแล้วก็ได้เกิดการต่อสู้กันขึ้น ดังนี้จำเลยจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันไม่ได้
จำเลยเอามีดแทงผู้ตายตายเนื่องจากวิวาทต่อสู้กันปรากฏว่าจำเลยมีกิริยาเมาสุรา อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็ก และได้แทงผู้ตายแต่เพียงทีเดียวเท่านั้น จึงยังไม่พอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้มีเจตนาฆ่าคงมีความผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251
จำเลยเอามีดแทงผู้ตายตายเนื่องจากวิวาทต่อสู้กันปรากฏว่าจำเลยมีกิริยาเมาสุรา อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็ก และได้แทงผู้ตายแต่เพียงทีเดียวเท่านั้น จึงยังไม่พอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้มีเจตนาฆ่าคงมีความผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้วิวาทและการป้องกันตัว: การพิจารณาเจตนาในการทำร้ายและฐานความผิด
จำเลยเป็นฝ่ายท้าทายเขาว่าใครดีให้ลงมา เขาจึงลงมาจากเรือนแล้วก็ได้เกิดการต่อสู้กันขึ้น ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันไม่ได้
จำเลยเอามีดแทงผู้ตายตายเนื่องจากวิวาทต่อสู้กัน ปรากฎว่าจำเลยมีกิริยาเมาสุรา อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็ก และได้แทงผู้ตายแต่เพียงทีเดียวเท่านั้น จึงยังไม่พอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้มีเจตนาฆ่า คงมีความผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251
จำเลยเอามีดแทงผู้ตายตายเนื่องจากวิวาทต่อสู้กัน ปรากฎว่าจำเลยมีกิริยาเมาสุรา อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็ก และได้แทงผู้ตายแต่เพียงทีเดียวเท่านั้น จึงยังไม่พอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้มีเจตนาฆ่า คงมีความผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงข้างหลัง: ศาลพิจารณาจากกรรมและตำแหน่งที่ถูกแทง
เขากำลังชกต่อยอยู่กับพวกของตน ๆ จึงเข้ามาแทงเขาทางข้างหลังอย่างแรงมากโดยเลือกแทงที่ตรงนั้นเอา จนมีดจมทะลุภายในชักไม่ออกต้องใช้เท้ายันจึงออก มีดที่แทงก็ยาวถึง 1 คืบเขาตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทงในวันรุ่งขึ้น ดังนี้ แม้จะแทงเพียทีเดียง ก็ถือได้ว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ว่ามีเจตนาจะฆ่าให้คนตายหรืออาจแลเห็นผลได้ว่าจะทำให้ถึงตาย จึงมีความผิด ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249