คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 249

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายระหว่างเมาสุรา ศาลพิจารณาเจตนาและลดโทษ
เหตุเกิดเพราะเมาสุราแล้วโต้เถียงกันจำเลยและผู้ตายอายุรุ่นราวคราวเดียวกันจำเลยใช้มือเปล่าทำร้ายผู้ตายจนลูกอัณฑะแตกตายจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อตอบโต้การประทุษร้ายจากผู้อื่น โดยผู้ถูกทำร้ายเป็นผู้เริ่มก่อเหตุ
ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนและที่สุดท้าทายจะทำร้ายจำเลยก่อนดังนี้แม้จะปรากฏว่าจำเลยว่า เอาก็เอา เป็นทำนองสมัครใจกระทำร้ายกัน แต่จำเลยก็ยังยืนอยู่เฉย มิได้เตรียมการจะต่อสู้ ต่อเมื่อผู้ตายตีจำเลยด้วยไม้ตะบองและยังจะตีซ้ำอีกจำเลยจึงใช้มีดฟันเอาทีหนึ่งแล้วมิได้ซ้ำอีก เช่นนี้เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุจำเลยไม่ผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการประทุษร้ายที่เกิดขึ้นทันที
ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนและที่สุดท้าทายจะทำร้ายจำเลยก่อน ดังนี้แม้จะปรากฎว่าจำเลยว่า เอาก็เอาเป็นทำนองสมัครใจกระทำร้ายกันแต่จำเลยก็ยังยืนอยู่เฉย มิได้เตรียมการจะต่อสู้ ต่อเมื่อผู้ตายตีจำเลยด้วยไม้ตะบองและยังจะตีซ้ำอีกจำเลยจึงใช้มีดฟันเอาที่หนึ่งแล้วมิได้ซ้ำอีก เช่นนี้เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันเกินกว่าเหตุและการลดโทษในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 ให้จำคุก 20 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตาม มาตรา249,53 เช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่แก้อัตราโทษเป็นจำคุกจำเลยไว้เพียง 6 ปีและลดตามมาตรา 59 อีกคงเหลือโทษจำคุกเพียง 4 ปี เช่นนี้เป็นการแก้มาก ฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการยิงผู้บุกรุก ศาลอาศัยคำรับสารภาพชั้นสอบสวน
คดีฟังเป็นยุติว่าจำเลยยิงผู้ตาย ตาย แต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พะยานขณะจำเลยยิงผู้ตาย คงมีคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนว่าผู้ตายเป็นฝ่ายบุกรุกขึ้นไปจะทำร้ายจำเลยถึงบนเรือนในเวลาค่ำคืน จำเลยจึงยิงผู้ตายตาย และพยานแวดล้อมกรณีเห็นจำเลยตอนหามศพผู้ตายดังนี้ แม้ชั้นพิจารณาจำเลยจะไม่ได้ต่อสู้และนำสืบว่ากระทำไปโดยป้องกันตัวก็ดี เมื่อโจทก์ไม่มีประจักษ์พะยานและคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนก็เป็นพะยานหลักฐานของโจทก์เองอยู่แล้ว จึงฟังได้ตามคำรับสารภาพของจำเลยนั้นว่าจำเลยยิงผู้ตายตายเพื่อป้องกันตัว แต่เมื่อปรากฎว่า(ตามคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวน)ยิงผู้ตายสองนัด ผู้ตายล้มลงแล้วยังยิงซ้ำอีกดังนี้ เป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ตายบุกรุก แต่การยิงซ้ำหลังล้มแล้วถือเกินกว่าเหตุ
คดีฟังเป็นยุติว่าจำเลยยิงผู้ตายตายแต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานขณะจำเลยยิงผู้ตายคงมีคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนว่าผู้ตายเป็นฝ่ายบุกรุกขึ้นไปจะทำร้ายจำเลยถึงบนเรือนในเวลาค่ำคืนจำเลยจึงยิงผู้ตายตายและพยานแวดล้อมกรณีเห็นจำเลยตอนหามศพผู้ตายดังนี้แม้ชั้นพิจารณาจำเลยจะไม่ได้ต่อสู้และนำสืบว่ากระทำไปโดยป้องกันตัวก็ดี เมื่อโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานและคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนก็เป็นพยานหลักฐานของโจทก์เองอยู่แล้วจึงฟังได้ตามคำรับสารภาพของจำเลยนั้นว่าจำเลยยิงผู้ตายตายเพื่อป้องกันตัวแต่เมื่อปรากฏว่า(ตามคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวน) ยิงผู้ตายสองนัด ผู้ตายล้มลงแล้วยังยิงซ้ำอีกดังนี้ เป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าคนตาย: ความเชื่อมั่นในการสักและการพิสูจน์ผลที่ควรเกิดขึ้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจับงูเห่ากัดผู้ตายโดยเจตนาจำเลยจะผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนานั้น โจทก์จะต้องสืบให้ได้ความว่างูเห่านั้นกัดผู้ใดแล้วผลธรรมดาอันควรเกิดขึ้นและน่าจะเกิดขึ้นก็คือผู้นั้นจะถึงแก่ความตายเมื่อโจทก์ไม่สืบและข้อเท็จจริงกลับฟังได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยมีความเชื่อมั่นว่าผู้ตายซึ่งได้รับการสัก(จากจำเลย)แล้วถูกงูเห่ากัดจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งพยานโจทก์ว่าถ้ารักษาดีหรือกินยาก็หายได้ดังนี้กลับยังลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถือเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แม้เวลาผ่านไป
จำเลยเจตนายิงผู้ตายเป็นบาดแผลหลายแห่ง แม้ผู้ตายจะถึงแก่ความตายต่อมาภายหลังเป็นเวลาเดือนเศษ เมื่อได้ความว่าผู้ตายตายโดยบาดแผลที่จำเลยยิงเกิดเป็นพิษขึ้นเช่นนี้ฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะการกระทำของจำเลย จำเลยจึงผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงทำให้ถึงแก่ความตาย ถือเป็นการฆ่าโดยเจตนา แม้จะเสียชีวิตภายหลัง
จำเลยเจตนายิงผู้ตายเป็นบาดแผลหลายแห่ง แม้ผู้ตายจะถึงแก่ความตายต่อมาภายหลังเป็นเวลาเดือนเศษเมื่อได้ความว่าผู้ตายตายโดยบาดแผลที่จำเลยยิงเกิดเป็นพิษขึ้นเช่นนี้ฟังได้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะการกระทำของจำเลย จำเลยจึงผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และการกระทำต่อเจ้าพนักงาน
จำเลยใช้ไม้สากตำข้าวโตเท่าแข้งยาว 1 วาตีลงกลางศีรษะผู้ตายโดยแรง เป็นบาดแผลยาว 11 ซม. กว้าง6ซม.ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
แม้ผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแต่ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าการที่ผู้ตายเข้าจับกุมจำเลยนั้น ผู้ตายได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้กระทำผู้ตายกระทำไปโดยลำพังเช่นนี้จึงไม่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตาม มาตรา 28 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2486 มาตรา 7 จำเลยจึงผิดตาม มาตรา 249 ไม่ใช่ มาตรา 250(2)
of 53