พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากความขัดแย้งในครอบครัว ศาลลดโทษจากพฤติการณ์และคำรับสารภาพ
ภรรยาประพฤติตัวไม่ดี ชอบเล่นการพนัน และไปค้างตามโรงแรม สามีว่ากล่าวตักเตือน ก็ไม่เชื่อฟัง กลับทุบตีวิวาทกับสามีสามีจึงใช้มีดฟันภรรยามีบาดแผล 11 แห่ง ภรรยาถึงแก่ความตายและจำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณา ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยสมควรได้รับความปรานี ลดโทษตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟันพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟันพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 737/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน: ป้องกันเกินกว่าเหตุและเจตนา
จำเลยถูกผู้ร้ายในท้องถิ่นรบกวนเสียจนประสาทหวาดระแวงไม่ปกติ ในคืนเกิดเหตุ จำเลยตื่นขึ้นกลางดึกเห็นคนดำๆ ที่นอกชานจำเลยจึงเอาปืนลูกซองที่เอาไว้ข้างที่นอนยิงไป 1 นัด ปรากฏว่าเป็นภริยาจำเลยเอง ภริยาจำเลยถูกกระสุนปืนตายคาที่ ที่นอกชานนั่นเองดังนี้ เป็นเรื่องสำคัญผิดว่าเป็นผู้ร้าย ถือได้ว่าเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาชนิดและระยะใกล้ของอาวุธในการประเมินเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อ เท็จจริง พิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ ดจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249 - 60 ได้, ไม่ต้องห้าม.
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบ กระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วา ถูกผู้เสีย หายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่า ฝังอยู่ตื้น ๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วัน หาย อีกคน หนึ่งรักษา 6 - 7 วันหาย ประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชะนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้หถึงตายได้หรือไม่ นั้น ควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึง ยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย คงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ เท่านั้น. /
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบ กระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วา ถูกผู้เสีย หายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่า ฝังอยู่ตื้น ๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วัน หาย อีกคน หนึ่งรักษา 6 - 7 วันหาย ประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชะนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้หถึงตายได้หรือไม่ นั้น ควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึง ยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย คงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ เท่านั้น. /
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาอันตรายจากอาวุธและบาดแผล
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249,60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงพิพากษายกฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249,60 ได้ไม่ต้องห้าม
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบกระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วาถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้นๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วันหายอีกคนหนึ่งรักษา 6-7 วันหายประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่นั้นควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตายคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเท่านั้น
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบกระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วาถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้นๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วันหายอีกคนหนึ่งรักษา 6-7 วันหายประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่นั้นควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตายคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
จำเลยเป็นพี่ชายผู้ตายร่วมบิดามารดากัน เกิดทะเลาะโต้เถียงเรื่องนวดข้าว แล้วจำเลยเอาไม้คันฉายจะตีผู้ตายผู้ตายแย่งไม้ได้จำเลยผละวิ่งหนี แต่ล้มลงผู้ตายไล่ทัน จึงเอาไม้ตีเอา 2 ที มารดาเข้าห้ามฉุดเอาผู้ตายถอยห่างออกมาได้ 2 วาผู้ตายก็สะบัดหลุดจากมารดา ถือไม้เงื้อตรงเข้าจะตีซ้ำเติมจำเลยซึ่งขณะนั้นกำลังจะลุกขึ้นจำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย2 นัดติดๆกัน ถูกผู้ตายที่ชายโครงและใต้ตา ผู้ตายล้มลงขาดใจตายทันทีดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: พี่ชายไล่ทำร้าย น้องชายใช้มีดป้องกันตนเองจนพี่ชายเสียชีวิต ศาลฎีกายืนหยัดการยกฟ้อง
พี่ชายถือขวานไล่ทำร้ายน้องชาย น้องชายหนีเข้าใต้ถุนเรือนก็ยังติดตามเข้าใต้ถุนเรือนไปเพื่อจะทำร้ายน้องชายหนีขึ้นเรือนของน้องชายพี่ชายก็ยังตามขึ้นบันไดเรือนเพื่อจะทำร้ายอีกน้องชายจึงใช้มีดหวดทำร้ายพี่ชาย 2 ที พี่ชายตกบันไดเรือนและถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ดังนี้ ถือได้ว่า น้องชายกระทำเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ถูกทำร้ายเป็นนักเลงโตและอาจมีอาวุธ
จำเลยนั่งดูหนังตะลุงอยู่ดีๆ ผู้ตายซึ่งเมาสุราเข้าถีบหน้าจำเลยแล้วโดดข้ามไป พอจำเลยลุกขึ้นได้ ผู้ตายก็หันกลับมาชวนให้น่าเชื่อว่า ผู้ตายหันมาเพื่อทำร้ายจำเลยอีก ทั้งผู้ตายก็เป็นนักเลงโต อาจมีอาวุธติดตัวอยู่ก็ได้ แม้จำเลยไม่รู้ว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ก็เป็นเวลากระทันหันจวนตัว การที่จำเลยใช้มีดคู่ปลายแหลมแทงผู้ตายไป 1 ทีในขณะนั้นและผู้ตายตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทงนั้น ก็ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าจากลักษณะบาดแผลและปืนที่ใช้
การใช้ปืนที่ทำขึ้นเองยิงคนนั้น จะสันนิษฐานว่าปืนที่ทำขึ้นเองใช้ยิงคนให้ตายได้หรือไม่ ยังไม่ชอบต้องดูพฤติการณ์ทั่วๆ ไปประกอบ เช่นลักษณะของปืน กระสุนและบาดแผล เป็นต้น
ใช้ปืนที่ทำขึ้นเองยิงเขามีบาดแผล 3 แห่งแผลที่ 1 ตรงเหนือข้อมือซ้ายกว้าง 5 ม.ม. ยาว 7 ม.ม. ลึกทะลุ แผลที่ 2 ตรงชายโครงซ้าย กว้าง 3 ม.ม. ยาว 3 ม.ม. ลึก 3 ซ.ม.แผลที่ 3 ตรงหน้าขาซ้าย กว้าง 1 ซ.ม. ยาว 1 ซ.ม. ลึก 6 ซ.ม. ฐานแผลช้ำทั้ง 3 แผล ดังนี้ ตามลักษณะบาดแผลเช่นนี้ ถ้าถูกที่สำคัญอาจทำให้ถึงตายได้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา
ใช้ปืนที่ทำขึ้นเองยิงเขามีบาดแผล 3 แห่งแผลที่ 1 ตรงเหนือข้อมือซ้ายกว้าง 5 ม.ม. ยาว 7 ม.ม. ลึกทะลุ แผลที่ 2 ตรงชายโครงซ้าย กว้าง 3 ม.ม. ยาว 3 ม.ม. ลึก 3 ซ.ม.แผลที่ 3 ตรงหน้าขาซ้าย กว้าง 1 ซ.ม. ยาว 1 ซ.ม. ลึก 6 ซ.ม. ฐานแผลช้ำทั้ง 3 แผล ดังนี้ ตามลักษณะบาดแผลเช่นนี้ ถ้าถูกที่สำคัญอาจทำให้ถึงตายได้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าจากบาดแผลที่เกิดจากปืนที่ทำขึ้นเอง
การใช้ปืนที่ทำขึ้งเองยิงคนนั้น จะสันนิษฐานว่าปืนที่ทำขึ้นเองใช้ยิงคนให้ตายได้หรือไม่ ยังไม่ชอบ ต้องดูพฤติการณ์ทั่วไปๆไป ประกอบ เช่นลักษณะของปืน กระสุนและบาดแผล เป็นต้น.
ใช้ปืนที่ทำขึ้นเองยิงเขามีบาดแผล 3 แห่ง แผลที่ 1 ตรงเหนือข้อมือซ้ายกว้าง 5 ม.ม. ยาว 7 ม.ม. ลึกทะลุ, แผนที่ 2 ตรงชายโครงซ้าย กว้าง 3 ม.ม. ยาว 3 ม.ม. ลึก 3 ซ.ม. , แผลที่ 3 ตรงหน้าขาซ้าย กว้าง 1 ซ.ม. ยาว 1 ซ.ม. ลึก 6 ซ.ม.
ฐานแผลช้ำทั้ง 3 แผล ดังนี้ ตามลักษณะบาดแผลเช่นนี้ ถ้าถูกที่สำคัญอาจทำให้ถึงตายได้ จำเลยต้องมีความผิด
ฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา./
ใช้ปืนที่ทำขึ้นเองยิงเขามีบาดแผล 3 แห่ง แผลที่ 1 ตรงเหนือข้อมือซ้ายกว้าง 5 ม.ม. ยาว 7 ม.ม. ลึกทะลุ, แผนที่ 2 ตรงชายโครงซ้าย กว้าง 3 ม.ม. ยาว 3 ม.ม. ลึก 3 ซ.ม. , แผลที่ 3 ตรงหน้าขาซ้าย กว้าง 1 ซ.ม. ยาว 1 ซ.ม. ลึก 6 ซ.ม.
ฐานแผลช้ำทั้ง 3 แผล ดังนี้ ตามลักษณะบาดแผลเช่นนี้ ถ้าถูกที่สำคัญอาจทำให้ถึงตายได้ จำเลยต้องมีความผิด
ฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: เหตุทำร้ายเกิดขึ้นก่อน, จำเลยตกอยู่ในภาวะอันตราย, และการใช้สิทธิป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนแต่ผู้ตายเข้าใจว่าจำเลยตีภริยาตนจึงเกิดโทสะชักมีดวิ่งมาทำร้ายจำเลย ถึงกับกระโดดจากสะพานน้ำไปหาจำเลยในเรือแล้วตกลงไปในน้ำด้วยกันผู้ตายโผกอดปล้ำเอามีดทำร้ายจำเลยมีบาดเจ็บถึง 4 แห่ง จนจมน้ำไปด้วยกัน เมื่อต่างโผล่ขึ้นมาแล้วจำเลยจะต้องนึกรู้ว่าตนจะถูกทำร้ายอีกและจำเลยกำลังอ่อนเพลียเพราะต้องจมน้ำ และน้ำตรงนั้นก็ลึกหยั่งไม่ถึงจะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นไม่ได้ จำเลยจึงยิงผู้ตายตาย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50