คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 249

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การใช้ปืนยิงผู้บุกรุกทำลายทรัพย์สิน
จำเลยใช้ปืนยิงคนร้ายที่กำลังฟันถากเปลือกต้นยางพาราในสวนของจำเลยในเวลากลางคืนกระสุนปืนถูกคนร้ายตายไป1 คนนั้นเป็นการกระทำป้องกันทรัพย์ แต่เกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อปกป้องตนเองจากอันตรายที่ใกล้จะถึง แม้จะเป็นการตอบโต้
ผู้ตายขึ้นไปใช้ไม้ตีจำเลยซึ่งนั่งห้อยเท้าอยู่ริมพื้นเรือน จนคิ้วแตก และยังใช้มีดแทงซ้ำอีก จำเลยกดมือผู้ตายที่ถือมีดไว้กับพื้นเรือน แล้วจำเลยชักมีดของจำเลยแทนผู้ตายถูกกลางหลัง 1 ที ต่อมาผู้ตายก็ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยแทง ดังนี้ วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการใช้กำลังสัดส่วนกับภัยอันตราย
ผู้ตายขึ้นไปใช้ไม้ตีจำเลยซึ่งนั่งห้อยเท้าอยู่ริมพื้นเรือน จนคิ้วแตก และยังใช้มีดแทงซ้ำอีก จำเลยกดมือผู้ตายที่ถือมีดไว้กับพื้นเรือน แล้วจำเลยชักมีดของจำเลยแทงผู้ตายถูกกลางหลัง 1 ที ต่อมาผู้ตายก็ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยแทง ดังนี้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กำลังเกินสมควร ยิงผู้ร้ายขณะหลบหนี
ยิงผู้ร้ายที่กำลังถือห่อของ ขณะกำลังวิ่งหนี โดยผู้ร้ายมิได้กระทำอะไรแก่ตน ดังนี้ ย่อมเป็นการรุนแรงเกินสมควรแก่เหตุไป ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 53

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ด้วยมีดและการป้องกันตัวที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเตะผู้ตายสองทีก่อน ผู้ตายชักมีดออกจะต่อสู้ จำเลยชักมีดออกบ้าง ต่างเดินเข้าหากันและต่างใช้มีดแทงต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตายถูกใต้รักแร้ 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีไปล้มลงถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว แต่จำเลยกับผู้ตายต่างมีมีดเข้าต่อสู้แทงทำร้ายกัน ผู้ตายถูกแทงแต่เพียง 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยก็ไม่ได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติมอีก วินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ด้วยอาวุธ การพิสูจน์เจตนาฆ่า และความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยเตะผู้ตายสองทีก่อนผู้ตายชักมีดออกจะต่อสู้ จำเลยชักมีดออกบ้าง ต่างเดินเข้าหากันและต่างใช้มีดแทงต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตายถูกใต้รักแร้ 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีไปล้มลงถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว แต่จำเลยกับผู้ตายต่างมีมีดเข้าต่อสู้แทงทำร้ายกัน ผู้ตายถูกแทงแต่เพียง 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยก็ไม่ได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติมอีก วินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด: ศาลฎีกาพิพากษาเพิ่มโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยใช้มีดปลายแหลมทั้งตัวทั้งด้ามยาวราว 1 ศอก แทงเขาถูกที่หน้าท้องเหนือสดือแผลยาว 6 เซ็นติเมตร กว้าง 3 เซ็นติเมตร ลึกทะลุหลังด้านซ้ายเหนือสะเอว แผลยาว 4 เซ็นติเมตร กว้าง2 เซ็นติเมตร ไส้ไหล นับว่าเป็นแผลฉกรรจ์มากและต้องแทงโดยแรง แม้จะแทงเพียงทีเดียว ก็ย่อมแสดงอยู่ว่า จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย ต้องด้วยมาตรา 249 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากลักษณะบาดแผลร้ายแรง
จำเลยใช้มีดปลายแหลมทั้งตัวทั้งด้ามยาวราว 1 ศอกแทงเขาถูกที่หน้าท้องเหนือสะดือ แผลยาว 6 เซ็นติเมตรกว้าง3เซ็นติเมตร ลึกทะลุหลังด้านซ้ายเหนือสะเอวแผลยาว4เซ็นติเมตรกว้าง2เซ็นติเมตรไส้ไหล นับว่าเป็นแผลฉกรรจ์มากและต้องแทงโดยแรง แม้จะแทงเพียงทีเดียว ก็ย่อมแสดงอยู่ว่า จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย ต้องด้วยมาตรา 249 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตนเองและการลดหย่อนโทษฐานบันดาลโทสะจากการถูกยั่วโทสะ
ผู้ตายใช้ปืนจะยิงจำเลยก่อน จำเลยจึงฟันเอา 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีโดยปืนหลุดจากมือแล้วจำเลยเอาปืนไล่ยิงผู้ตาย ตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยตอนแรกเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ได้รับยกเว้นโทษ แต่การที่จำเลยไล่ตามไปยิงผู้ตายนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกันมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทสะโดยถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงและไม่เป็นธรรม ยังหาขาดตอนไม่ จำเลยจึงควรได้รับลดหย่อนโทษฐานบันดาลโทสะ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากพยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย เป็นประมาท และการไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนและฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัสแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำให้เขาเกิดบาดเจ็บสาหัสโดยประมาท ดังนี้ศาลจะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในฐานนี้
of 53