พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า พิจารณาจากลักษณะการทำร้ายที่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต
จำเลยได้ใช้มีดยาวฟันผู้ตายโดยแรง ถูกศีรษะอันเป็นที่สำคัญจนกระดูกระโหลกศีรษะขาดถึงมันสมองไหล ผู้ตายขาดใจตายภายใน 5 นาที ดังนี้ เป็นการชี้ถึงเจตนาของจำเลยว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตาย ย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ และการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
กฎหมายหาได้ห้ามไม่ให้ฟ้องในกรณีที่ไม่มีการชันสุตรพลิกศพไม่ และแม้การชันสูตรพลิกศพจะไม่ชอบ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ฟ้อง
ศาลเดิมลงโทษจำคุกสิบปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดยมิได้แก้บท ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลเดิมลงโทษจำคุกสิบปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดยมิได้แก้บท ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ และการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
กฎหมายหาได้ห้ามไม่ให้ฟ้องในกรณีที่ไม่มีการชันสูตรพลิกศพไม่และแม้การชันสูตรพลิกศพจะไม่ชอบ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้ฟ้อง
ศาลเดิมลงโทษจำคุก สิบ ปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดย มิได้แก้บท ถือว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อยห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลเดิมลงโทษจำคุก สิบ ปี ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษให้จำคุก 5 ปีโดย มิได้แก้บท ถือว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อยห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนา: การทำร้ายด้วยอาวุธจนถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้ไม้สี่เหลี่ยมโตขนาด 3 นิ้วยาว 1 ศอกตีผู้ตายที่ขมับและแง่ศีรษะ 3-4 ทีโดยแรงถึงเยื่อกะโหลกศีรษะแตก 3 แห่ง และเมื่อผู้ตายล้มลงไปแล้วยังตีซ้ำอีก ดังนี้ ถือว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามมาตรา 249
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรก แม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลก็ปราณลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรก แม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลก็ปราณลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาจากกิริยาอาการและผลของการกระทำ
จำเลยใช้ไม้สี่เหลี่ยมโตขนาด 3 นิ้วยาว 1 ศอก ตีผู้ตายที่ขมับและแง่ศรีษะ 3-4 ทีโดยแรงถึงเยื่อกะโหลกศรีษะแตก 3 แห่ง และเมื่อผู้ตายล้มลงไปแล้วยังตีซ้ำอีก ดังนี้ ถือว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามมาตรา 249
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรกแม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ก็ปราณีลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
จำเลยที่ให้การรับสารภาพต่อศาลในชั้นแรกแม้จะกลับต่อสู้ภายหลังหากคำรับในชั้นแรกนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ก็ปราณีลดโทษให้จำเลยได้ตามมาตรา 59
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: การแทงเพื่อป้องกันการทำร้ายต่อเนื่อง
ผู้ตายก่อเหตุขึ้นก่อนโดยไปดักทำร้ายจำเลยกับพวกอยู่ในที่มืด พอจำเลยกับพวกมาผู้ตายตีพวกของจำเลยคนหนึ่งล้มลง จำเลยวิ่งหนีผู้ตายมีไม้ขนาดใหญ่ไล่จำเลยไปทันก็ตีจำเลยแต่ไม้ไปถูกร้านฟางรับไว้ จำเลยจับไม้ไว้และแทงผู้ตายถูกที่ท้องหนึ่งที แล้วจำเลยวิ่งหนีต่อไปผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการถูกทำร้าย แม้จะเป็นการตอบโต้ แต่ชอบด้วยกฎหมายหากสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายก่อเหตุขึ้นก่อนโดยไปดักทำร้ายจำเลยกับพวกอยู่ในที่มืดพอจำเลยกับพวกมาผู้ตายตีพวกของจำเลยคนหนึ่งล้มลง จำเลยวิ่งหนี ผู้ตายมีไม้ขนาดใหญ่ไล่จำเลยไปทันก็ตีจำเลย แต่ไม้ไปถูกร้านฟางรับไว้จำเลยจับไม้ไว้และแทงผู้ตายถูกที่ท้องหนึ่งที แล้วจำเลยวิ่งหนีต่อไป ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการยิงผู้ป่วยทางจิต: การพยายามฆ่า vs ฆ่า, การสมคบคิด
ผู้ตายซึ่งวิกลจริตขึ้นไปบนเรือนจำเลย หญิงซึ่งอยู่บนเรือนคนเดียวเข้าใจว่าเป็นคนร้าย จึงร้องว่าขโมยให้ชาวบ้านช่วย มีชาวบ้าน 30-40 คนรวมทั้งจำเลยมีอาวุธปืน 6-7 กระบอกไล่ตามยิงผู้ตาย ผู้ตายหนีไปแอบจอมปลวก จำเลยกับคนอื่น 2 คนยิงไปยังผู้ตายคนละนัด พอสิ้นเสียงปืนปรากฏว่า ผู้ตายถูกกระสุนปืนล้มลงตาย โดยไม่ปรากฏว่าตายเพราะถูกกระสุนปืนของใคร ดังนี้ ถือว่าจำเลยผิดเพียงฐานพยายามฆ่าผู้ตาย และไม่ถือว่าจำเลยและผู้ที่ยิง ตลอดจนชาวบ้านที่ไล่ติดตามนั้นสมคบกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าจากความเข้าใจผิด และการไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึงความตายของผู้ถูกยิง
ผู้ตายซึ่งวิกลจริตขึ้นไปบนเรือนจำเลย หญิงซึ่งอยู่บนเรือนคนเดียวเข้าใจว่าเป็นคนร้าย จึงร้องว่าชะโมยให้ชาวบ้านช่วย มีชาวบ้าน 30-40 คนรวมทั้งจำเลยมีอาวุธปืน 6-7 กระบอก ไล่ตามยิงผู้ตาย ๆ หนีไปแอบจำเลยกับคนอื่น 2 คนยิงไปยังผู้ตายคนละนัด พอสิ้นเสียงปืนปรากฎว่าผู้ตายถูกกระสุนปืนล้มลงตาย โดยไม่ปรากฎว่าตายเพราะถูกกระสุนปืนของใคร ดังนี้ ถือว่าจำเลยผิดเพียงฐานพยายามฆ่าผู้ตาย และไม่ถือว่าจำเลยและผู้ที่ยิ่ง ตลอดจนชาวบ้านที่ไล่ติดตามนั้นสมคบกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย: การสมคบกันทำร้าย, เจตนาฆ่า, และการพิสูจน์ความรับผิด
ผู้ตายเข้าไปในกุฏิพระ พระเข้าใจว่าเป็นคนร้ายมาแย่งชิงทรัพย์ได้ตีกลองบอกเหตุอันตราย จำเลยและราษฎรมาช่วย และเข้าไปในกุฏิ ต่างแทงฟันทุบตีผู้ตายจนตาย โดยไม่รู้ว่าผู้ตายได้ตายเพราะบาดแผลของคนใดทำร้าย และโจทก์มิได้ฟ้องว่า จำเลยสมคบกัน ดังนี้ ไม่ถือว่าจำเลยสมคบกันฆ่าผู้ตาย จำเลยคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ