พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการป้องกันเกียรติยศ: ศาลฎีกาตัดสินให้ยกฟ้องคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ผู้ตายและภรรยาของจำเลยได้หลับนอนกระทำชู้กันที่บ้านเรือนของจำเลย จำเลยได้มาพบผู้ตายกับภรรยาจำเลยนอนกอดกันอยู่ จำเลยได้เรียกภรรยาให้จุดตะเกียง ผู้ตายได้ถือมีดกระโดดแทงจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดฟัน เพื่อป้องกันตัวและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุยังไม่ควรต้องได้รับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและชื่อเสียง: การฟันเพื่อป้องกันการทำร้ายจากผู้กระทำชู้
ผู้ตายและภรรยาของจำเลยได้หลับนอนกระทำชู้กันที่บ้านเรือนของจำเลย จำเลยได้มาพบผู้ตายกับภรรยาจำเลยนอนกอดกันอยู่ จำเลยได้เรียกภรรยาให้จุดตะเกียง ผู้ตายได้ถือมีดกระโดดแทงจำเลย ๆ จึงใช้มีดฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ย่อมฟังได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดฟัน เพื่อป้องกันตัวและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุยังไม่ควรต้องได้รับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเอง/ทรัพย์สิน: การกระทำเพื่อป้องกันภัยอันตรายที่เกิดขึ้นต่อร่างกายและทรัพย์สินภายในเคหสถาน
ผู้ตายกับพวกมีอาวุธพากันเข้าไปภายในรั้วเขตเคหะสถานของจำเลยในเวลากลางคืน จำเลยได้ร้องทักถามแล้วไม่ตอบ จำเลยได้ยิงไป 1 นัดถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันร่างกายและทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวทางอาญา: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินในเคหสถาน
ผู้ตายกับพวกมีอาวุธพากันเข้าไปภายในรั้วเขตต์เคหะสถานของจำเลยในเวลากลางคืน จำเลยได้ร้องทักถามแล้วไม่ตอบ จำเลยได้ยิงไป 1 นัด ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันร่างกายและทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงเพื่อฆ่า แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิพากษาฐานพยายามฆ่าได้
จำเลยเอาปืนแก๊ปยิง พ.ในระยะห่าง 1 วา กระสุนถูกหน้าอกและแขน แต่เป็นบาดแผลเพียงหนังขาด กระสุนฝังกล้ามเนื้อ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยิงโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จำเลยก็มีความผิดตามมาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงเพื่อฆ่า แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิพากษาฐานพยายามฆ่า
จำเลยเอาปืนแก๊ปยิง พ.ในระยะห่าง 1 วา กระสุนถูกหน้าอกและแขน แต่เป็นบาดแผลเพียงหนังขาด กระสุนฝังกล้ามเนื้อ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยิงโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย จำเลยก็มีความผิดตามมาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงข้างหลังขณะผู้ถูกทำร้ายจะผละหนี ไม่เป็นเหตุป้องกันตัวตามกฎหมาย
ผู้ตายได้โต้เถียงและทำร้ายบิดาจำเลย ๆ ได้วิ่งเข้ามา ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลย ๆ จึงใช้มีดแทงผู้ตายไป 1 ที และผู้ตายได้ตีจำเลยอีก 1 ที แล้วเอี้ยวตัวจะผละหนี จำเลยก็แทงผู้ตายที่หลังอีก 1 ที ดังนี้การที่จำเลยแทงครั้งหลังนั้นไม่เป็นการป้องกันตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50 เพราะจำเลยแทงข้างหลัง ไม่มีความจำเป็นที่จำเลยจะต้องแทงผู้ตายเพื่อให้บิดาหรือตัวจำเลยพ้นภยันตรายจากการกระทำของผู้ตาย การกระทำของจำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่กระทำลงโดยบรรดาลโทษะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงข้างหลังขณะคู่ต่อสู้ผละหนี ไม่เป็นเหตุป้องกันตัวตามกฎหมาย
ผู้ตายได้โต้เถียงและทำร้ายบิดาจำเลย บิดาจำเลยได้วิ่งเข้ามา ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตายไป 1 ที และผู้ตายได้ตีจำเลยอีก 1 ที แล้วเอี้ยวตัวจะผละหนี จำเลยก็แทงผู้ตายที่หลังอีก 1 ทีดังนี้ การที่จำเลยแทงครั้งหลังนั้น ไม่เป็นการป้องกันตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50 เพราะจำเลยแทงข้างหลัง ไม่มีความจำเป็นที่จำเลยจะต้องแทงผู้ตายเพื่อให้บิดาหรือตัวจำเลยพ้นภยันตรายจากการกระทำของผู้ตาย การกระทำของจำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่กระทำลงโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาอื่น หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาทำร้ายร่างกาย หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคน โดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้ การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่