คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 249

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382-384/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาว่าอาวุธปืนเป็นเครื่องสังหารชีวิตหรือไม่ พิจารณาจากลักษณะการใช้งานและผลที่เกิดขึ้น
อาวุธปืนที่จะต้องถือว่าเป็นเครื่องสังหารชีวิตมนุษย์นั้นย่อมมีลักษณะว่าถ้าใช้อาวุธปืนนั้นยิงคน ตามธรรมดาจะให้บังเกิดความตาย หรือความตายเป็นผลธรรมดาของการที่ถูกอาวุธนั้น จึงจะถือว่าอาวุธปืนนั้นเป็นเครื่องสังหารต่อชีวิต ซึ่งถ้าใครใช้อาวุธปืนชะนิดนั้นยิงผู้ใด ก็จะถือว่าผู้นั้น เจตนาฆ่า
จำเลยได้ใช้ปืนลูกซองขนาดเล็กบรรจุกระสุนลูกปลายขนาดเล็กเบอร์ 8 ปากกระบอกปืนมีสูนย์กลางกว้างเพียง 1.5 ซ.ม. คำชันสูตรบาดแผลปรากฎว่า แผลเป็นจุด ๆ ใกล้ชิดกัน ขนาดของแผลแต่ละแผลกว้าง 2 ม.ม. ยาว 2 ม.ม. ลึกเป็นจุดกลมขนาดเมล็ดถั่วเขียวและมีเม็ดกระสุนฝังในเนื้อ รักษา 15 วันหาย ดังนี้ จำเลยไม่มีผิดฐานพยายามฆ่าคน แต่มีผิดฐานทำร้ายร่างกาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382-384/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้ปืนลูกซอง: ปืนที่ไม่สามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตไม่ได้เป็นเครื่องสังหาร
อาวุธปืนที่จะต้องถือว่าเป็นเครื่องสังหารชีวิตมนุษย์นั้นย่อมมีลักษณะว่าถ้าใช้อาวุธปืนนั้นยิงคน ตามธรรมดาจะให้บังเกิดความตายหรือความตายเป็นผลธรรมดาของการที่ถูกอาวุธนั้น จึงจะถือว่าอาวุธปืนนั้นเป็นเครื่องสังหารต่อชีวิต ซึ่งถ้าใครใช้อาวุธปืนชนิดนั้นยิงผู้ใดก็จะถือว่าผู้นั้น เจตนาฆ่า
จำเลยได้ใช้ปืนลูกซองขนาดเล็กบรรจุกระสุนลูกปลายขนาดเล็กเบอร์ 8ปากกระบอกปืนมีศูนย์กลางกว้างเพียง 1.5 ซ.ม. คำชันสูตรบาดแผลปรากฏว่า แผลเป็นจุดๆ ใกล้ชิดกัน ขนาดของแผลแต่ละแผลกว้าง 2 ม.ม. ยาว 2 ม.ม.ลึกเป็นจุดกลมขนาดเมล็ดถั่วเขียวและมีเม็ดกระสุนฝังในเนื้อ รักษา 15 วันหายดังนี้ จำเลยไม่มีผิดฐานพยายามฆ่าคน แต่มีผิดฐานทำร้ายร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการใช้สิทธิป้องกันเกินสมควรแก่เหตุในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ผู้ตายมีอายุ 30 ปี จำเลยมีอายุ 19 ปีรูปร่างเล็กกว่าผู้ตาย ผู้ตายได้เกิดโต้เถียงกับจำเลย มีคนห้าม ผู้ตายก็เดินเลยไป แล้วก็กลับมาหาจำเลยอีก ตรงเข้าพูดกับจำเลยว่าไม่ต้องพูดมาก แล้วผลักจำเลยเซไปกระทบกระถางต้นไม้ พอจำเลยทรงตัวได้ ผู้ตายเข้าต่อยจำเลย พอต่อยได้ทีเดียวจำเลยใช้มีดแทงสวนแล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งไปทางเดียวกับจำเลย แล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายนั้น เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การใช้มีดเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายจากผู้มีรูปร่างใหญ่กว่า
ผู้ตายมีอายุ 30 ปี จำเลยมีอายุ 19 ปีรูปร่างเล็กกว่า ผู้ตาย ผู้ตายได้เกิดโต้เถียง-กับจำเลย มีคนห้าม ผู้ตายก็เดินเลยไป แล้วก็กลับมาหาจำเลยอีก ตรงเข้าพูดกับจำเลยว่าไม่ต้องพูดมาก แล้วผลักจำเลยเซไปกระทบกระถางต้นไม้ พอจำเลยทรงตัวได้ ผู้ตายเข้าต่อยจำเลย พอต่อยได้ทีเดียวจำเลยใช้มีดแทงสวนแล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งไปทางเดียวกับจำเลย แล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายนั้น เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีโทษ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายระหว่างกลุ่มคู่ขัดแย้ง ศาลลดโทษฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนาแต่ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็นปรปักษ์คู่ต่อสู้กัน จำเลยเป็นพรรคพวกผู้ตายฝ่ายหนึ่ง ได้เข้าต่อสู้กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งกับพรรคพวกโดยใจสมัครเพราะมีการท้าทายกันก่อน รูปคดีไม่แน่ว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่ากัน จำเลยบางคนต่างวิ่งมาช่วยในที่เกิดเหตุ จำเลยกระทำหนักมือบ้าง เบามือบ้าง ควรวางโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
จำเลยคนหนึ่งมีไม้ตะบองส่วนจำเลยคนอื่นมีขวานและมีดซุย แต่บาดแผลของผู้ตายล้วนแต่บาดแผลเรียบ แพทย์ลงความเห็นว่า ถูกของแข็งมีคมไม่มีรอยถูกแผลตี ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยนั้นได้ใช้ไม้ตะบองตีผู้ตายด้วย
บิดาจำเลยสมัครใจต่อสู้ และทำร้ายกับผู้ตาย จำเลยเข้าช่วยบิดาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่าทำโดยป้องกันบิดาไม่ได้ เพราะบิดาจำเลยเป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในเหตุการณ์ต่อสู้ การพิจารณาเจตนาและโทษฐานฆ่าคนตาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนาแต่ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็น ปรปักษ์คู่ต่อสู้กัน จำเลยเป็นพรรคพวกผู้ตายฝ่ายหนึ่ง ได้เข้าต่อสู้กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งกับพรรคพวก โดยใจสมัครเพราะมีการท้ายทายกันก่อน รูปคดีไม่แน่ว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่ากัน จำเลยบางคนต่างวิ่งมาช่วยในที่เกิดเหตุ จำเลยกระทำหนักมือบ้าง เบามือบ้าง ควรวางโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
จำเลยคนหนึ่งมีไม้ตะบอง ส่วนจำเลยคนอื่นมีขวานและมีดซุย แต่บาดแผลของผู้ตายล้วนแต่บาดแผลเรียบ แพทย์ลงความเห็นว่า ถูกของแข็งมีคม ไม่มีรอยถูกแผลตี ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยนั้นได้ใช้ไม้ตะบองตีผู้ตายด้วย
บิดาจำเลยสมัครใจต่อสู้และทำร้ายกับผู้ตาย จำเลยเข้าช่วยบิดาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่าทำโดยป้องกันบิดา ไม่ได้เพราะบิดาจำเลยเป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาจากการป้องกันเกินสมควร การลดโทษจากเหตุทำอนาจาร
ผู้ตายถูกแทงที่รักแร้ลึกเข้าปอด และที่ลิ้นปี่ลึกเข้าช่องท้องอันตรายแก่กระเพาะอาหารเป็นบาดแผลถูกแทงโดยแรงผู้แทงย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ถูกแทงจะต้องตายเป็นธรรมดา และผู้ตายก็ล้มลงและขาดใจตายหน้าห้องจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลย แสดงว่าเจตนาฆ่ามีผิดตามมาตรา 249
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา50,53 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยถูกยั่วโทสะในคดีทำร้ายถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษฐานยั่วโทสะ
จำเลยติดตามพบภรรยาจำเลยอยู่กับผู้ตาย จำเลยขอให้กลับ ภรรยาก็ยอมกลับ ผู้ตายถืออาวุธตามมาและพูดว่าจะฟันจำเลย จำเลยเลี่ยงเข้าไปในโรงนางส้มลิ้ม ผู้ตายยังขืนเข้าไปประจันหน้าจำเลยด้วยวิธีทวงหนี้ จำเลยใช้หนี้แล้ว ผู้ตายก็ยังไม่กลับ ทำให้ภรรยาจำเลยเลี่ยงไปจำเลยได้ทำร้ายผู้ตายในทันใดที่กลับจากตามภรรยาไม่พบ ดังนี้ การกระทำของจำเลยกระทำไปด้วยโทษะที่บรรดาลขึ้นจากกิริยาของผู้ตาย อันควรได้ลดโทษฐานยั่วโทษะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยถูกยั่วโทสะ ลดหย่อนผ่อนโทษฐานฆ่า
จำเลยติดตามพบภรรยาจำเลยอยู่กับผู้ตาย จำเลยขอให้กลับภรรยาก็ยอมกลับ ผู้ตายถืออาวุธตามมาและพูดว่าจะฟันจำเลย จำเลยเลี่ยงเข้าไปในโรงนางส้มลิ้ม ผู้ตายยังขืนเข้าไปประจันหน้าจำเลยด้วยวิธีทวงหนี้ จำเลยใช้หนี้แล้ว ผู้ตายก็ยังไม่กลับ ทำให้ภรรยาจำเลยเลี่ยงไป จำเลยได้ทำร้ายผู้ตายในทันใดที่กลับจากตามภรรยาไม่พบ ดังนี้การกระทำของจำเลยกระทำไปด้วยโทสะที่บันดาลขึ้นจากกิริยาของผู้ตาย อันควรได้ลดโทษฐานยั่วโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์ความผิดฐานฆ่า เนื่องจากเหตุการณ์เกิดในที่มืด
เพียงแต่คำให้การรับชั้นสอบสวนประกอบกับคำผู้ถูกทำร้ายก่อนจะตายระบุว่าจำเลยฟัน แต่ปรากฏว่าที่เกิดเหตุมืดไม่อาจแลเห็นตัวกันได้ดังนี้ ยังหาพอฟังลงโทษจำเลยไม่
of 53