พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานไม่เพียงพอในการพิสูจน์ความผิดฐานฆ่า ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงคำให้การที่ไม่น่าเชื่อถือ
เพียงแต่คำให้การรับชั้นสอบสวนประกอบกับคำผู้ถูกทำร้ายก่อนจะตายระบุว่า จำเลยฟัน แต่ปรากฏว่าที่เกิดเหตุมืดไม่อาจแลเห็นตัวกันได้ ดังนี้ ยังหาพอฟังลงโทษจำเลยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุทางอาญา: กรณีแย่งอาวุธและทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกัน ผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้อง หันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1 ๆ แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่2ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันเกินสมควร: การใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อป้องกันตัวจากอาวุธ ทำให้มีความผิดอาญา
ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกันผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้องหันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่ 2 ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนา: การใช้มีดแทงจนถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจากเดิม
จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายในที่สำคัญโดยแรงจนทะลุลำใส้ขาดเป็นการที่อาจเห็นผลได้ว่า จะทำให้ผู้ตายถึงตาย และผู้ตายก็ได้ขาดใจตายในคืนนั้นเอง จำเลยจึงต้องมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าคนตายโดยเจตนาจากการแทงด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษ
จำเลยใช้มีดปลายแปลมแทงผู้ตายในที่สำคัญโดยแรงจนทะลุลำไส้ขาด เป็นการที่อาจเห็นผลได้ว่า จะทำให้ผู้ตายถึงตาย และผู้ตายก็ได้ขาดใจตายในคืนนั้นเอง จำเลยจึงต้องมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การแทงซ้ำเมื่อถูกทำร้ายและมีอาวุธ
ผู้ตายจะทำชำเราจำเลย และมีอาวุธถือในมือจะแทงจำเลย จำเลยเป็นหญิง ได้แทงผู้ตาย 4 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุ จึงไม่เป็นผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินแก่เหตุ: การแทงซ้ำเพื่อป้องกันการทำร้ายซ้ำสำหรับผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายจะทำชำเราจำเลยและมีอาวุธถือในมือจะแทงจำเลยจำเลยเป็นหญิง ได้แทงผู้ตาย 4 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุจึงไม่เป็นผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีอาญาอัตราโทษสูง แม้รับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนพอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริง
คดีอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง เมื่อศาลฟังพยานโจทก์ได้ความว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินแก่เหตุศาลย่อมลงโทษเท่าที่จำเลยได้กระทำผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากเจตนาเป็นประมาท: โจทก์ไม่สามารถฎีกาในข้อหาเดิมได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยประมาท โจทก์จะฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 219 ป.วิ.อาญา
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยประมาท ซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่ง ป.วิ.อาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยประมาท ซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่ง ป.วิ.อาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากเจตนาเป็นประมาท ส่งผลต่อการพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยประมาท โจทก์จะฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 219 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยฆ่าคนโดยประมาทซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยฆ่าคนโดยประมาทซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้