พบผลลัพธ์ทั้งหมด 522 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังในการจับกุมผู้ต้องหาหลบหนี: อำนาจตามกฎหมายและความเกินสมควร
ถ้าบุคคลซึ่งจะถูกจับหลบหนีหรือพยายามจะหลบหนี ผู้ทำการจับมีอำนาจใช้วิธีหรือความป้องกันทั้งหลายเท่าที่เหมาะแก่พฤติการณ์แห่งเรื่องในการจับผู้นั้น
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วย ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่โดยจับกุมผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ร้ายสำคัญเรื่องปล้นทรัพย์ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยที่ 1 เกรงความผิด จึงสั่งให้จำเลยที่ 2 ยิง ดั่งนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 83 วรรค 2 แต่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินไปกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 53 (อ้างฎีกา 618/2461)
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยที่ 2 เป็นผู้ช่วย ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่โดยจับกุมผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ร้ายสำคัญเรื่องปล้นทรัพย์ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยที่ 1 เกรงความผิด จึงสั่งให้จำเลยที่ 2 ยิง ดั่งนี้ ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 83 วรรค 2 แต่กระทำเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินไปกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 53 (อ้างฎีกา 618/2461)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721-722/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาและฐานความผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 249 พิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา 251 ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-587/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในคดีวิวาททำร้ายร่างกาย: หลักฐานพยานไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
โจทก์ฟ้องจำเลย 4 คน หาว่าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันจำเลยต่างให้การปฏิเสธ โจทก์มีพยานปาก 1 เบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลยฝ่ายหนึ่งแสดงว่าเป็นการป้องกัน และมีพยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลย อีกฝ่ายหนึ่งว่าทำโดยป้องกัน ดังนี้คดีลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพประกอบพยานหลักฐานอื่น ศาลลงโทษได้ แม้ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง
จำเลยรับสารภาพต่อศาลว่าฆ่าผู้ตายจริงและโจทก์มีพยาน 1 ปากว่าจำเลยกลับมาถึงบ้านก็บอกพยานว่าแทงผู้ตายตาย มีปลัดอำเภอผู้สอบสวนว่าจำเลยรับว่าแทงผู้ตายตายและมีแพทย์ผู้ชันสูตรศพว่าผู้ตายตายเพราะแผลถูกแทง ดังนี้ เป็นพยานประกอบคำรับ พอลงโทษตามมาตรา 249 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโจทก์ฟ้องคดีอาญาของบุตรผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย แม้มีสามีแล้ว และประเด็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา
บุตรผู้ถูกทำร้ายตายแม้จะมีสามีแล้ว ก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาหรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีที่ฟ้องผู้ที่ทำให้ตายได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 3(2) และมาตรา 5(2) การที่ภรรยาผู้ถูกทำร้ายตายไม่ขอร่วมเป็นโจทก์กับอัยการ ไม่ทำให้สิทธิของบุตรผู้ตายดังกล่าวแล้วเสียไป
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้ปืนยิงและใช้มีดแทงผู้ตายตายแต่ทางพิจารณาได้ความชัดว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างเดียวนั้น ไม่เป็นเหตุพอจะให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ และคดีก็ต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้ปืนยิงและใช้มีดแทงผู้ตายตายแต่ทางพิจารณาได้ความชัดว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างเดียวนั้น ไม่เป็นเหตุพอจะให้ยกฟ้องโจทก์เสียได้ และคดีก็ต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบปืนให้ผู้อื่นยิงเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดฐานสมรู้ร่วมคิด
ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันเป็นตัวการลงมือฆ่าเขาตายแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้คบคิดกันแล้วมอบปืนให้อีกคนหนึ่งไปยิงเขา โดยตนเองไม่ได้ไปด้วย ดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้ไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงในข้อที่ว่าได้ลงมือทำเองหรือเป็นแต่ผู้ใช้นั้นเป็นข้อสำคัญที่ต่างกันมาก โดยวันเวลาและสถานที่ล้วนต่างกันทั้งนั้น
แต่การที่มอบปืนให้คนอื่นไปยิงเขาตายนั้น เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดถือว่าสมรู้ตามมาตรา 65 และศาลลงโทษฐานสมรู้ได้
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2491
แต่การที่มอบปืนให้คนอื่นไปยิงเขาตายนั้น เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดถือว่าสมรู้ตามมาตรา 65 และศาลลงโทษฐานสมรู้ได้
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2491
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีอัตราโทษสูง: พยานประกอบต้องน่าเชื่อถือว่าจำเลยรับสารภาพตามจริง
ในคดีที่จำเลยรับสารภาพแต่เพราะเป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงถึง 10 ปี ศาลจึงต้องฟังพยานโจทก์ต่อไปจนกว่าจะเป็นที่พอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริงนั้นพยานที่ศาลจะต้องฟังนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถึงขนาดที่จะใช้ลงโทษได้อย่างในคดีที่จำเลยปฏิเสธเพียงแต่มีเหตุผลแวดล้อมให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามความจริง ไม่มีเหตุสงสัยว่าจะรับแทนผู้อื่นแล้วก็พอฟังลงโทษจำเลยได้ เพราะมีคำรับของจำเลยเป็นหลักอยู่แล้ว
โจทก์มีพยานเห็นจำเลยกับผู้ตายและผู้อื่นเกิดทุ่มเถียงกันในวงเสพสุราต่อมาในเวลาใกล้ชิดกันนั้น มีผู้พบศพผู้ตายในวงเสพสุรานั้นเมื่อจำเลยรับสารภาพโดยดีว่าได้เป็นผู้ทำร้ายผู้ตายตาย ศาลฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายตายดังคำรับสารภาพได้
โจทก์มีพยานเห็นจำเลยกับผู้ตายและผู้อื่นเกิดทุ่มเถียงกันในวงเสพสุราต่อมาในเวลาใกล้ชิดกันนั้น มีผู้พบศพผู้ตายในวงเสพสุรานั้นเมื่อจำเลยรับสารภาพโดยดีว่าได้เป็นผู้ทำร้ายผู้ตายตาย ศาลฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายตายดังคำรับสารภาพได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน: ความรุนแรงของการกระทำและโทษทางอาญา
ใช้ปืนลูกซองสั้นยาว 1 คืบกระสุนมีขนาด 2 มิลลิเมตรลำกล้องใหญ่ส่งกระสุนไม่แรงยิงเขาในระยะห่างกันเพียง 1 วา กระสุนถูกเขาถึง 23 แผลฝังเข้าไปในเนื้อเพียงเล็กน้อย คือพอผิวหนังชั้นนอกขาด รักษาหายภายใน 3 วัน ดังนี้มีผิดเพียง กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกายจากอาวุธปืน การประเมินลักษณะบาดแผลและเจตนาของผู้กระทำผิด
ใช้ปืนลูกซองสั้นยาว 1 คืบ กระสุนมีขนาด 2 มิลลิเมตร ลำกล้องใหญ่ส่งกระสุนไม่ตรง ยิงเขาในระยะห่างกันเพียง 1 วา กระสุนถูกเขาทั้ง 23 แผล ฝังเข้าไปในเนื้อเพียงเล็กน้อย คือพอผิวหนังชั้นนอกขาด รักษาหายภายใน 3 วัน ดังนี้มีผิดเพียง ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 254.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำของเจ้าพนักงานที่ขัดขวางการจับกุมโดยมิชอบ และการใช้กำลังเกินเหตุในการรักษาเหตุการณ์
กำนันและตำรวจต่างเป็นเจ้าพนักงานรักษาเหตุการณ์ในงานวัดด้วยกันตำรวจจับผู้อื่นและบุตรกำนันโดยหาว่ากระทำผิดกฎหมาย กำนันได้ขัดขวางมิให้ตำรวจจับกุมตำรวจจึงยิงกำนันตาย ดังนี้ ถือว่าการที่กำนันใช้อำนาจขัดขวางมิให้ตำรวจจับกุมบุตรของตนนั้น เป็นการกระทำที่มิได้ปฏิบัติการในฐานะเจ้าพนักงาน ตำรวจมีผิดตามมาตรา 249 เท่านั้น